เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1629 เป็นห่วงเธอ
บทที่1629 เป็นห่วงเธอ
น่าเสียดายที่ถางหยวนหยวนเอาแต่ร้องไห้ แต่ว่าไม่ได้พูดอะไรเลย
คุณนายถางถูกเธอร้องไห้จนจะขาดใจ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรถึงจะดี ก็เลยยังไม่พูดอะไร ได้แต่ฟังอยู่เงียบๆ รอ จนถึงถางหยวนหยวนร้องไห้จนพอแล้ว ร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว
คุณนายถางถึงได้เช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา แล้วก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “หิวไหม ให้พ่อครัวทำอะไรให้ลูกกินหน่อยดีไหม? ”
ถางหยวนหยวนส่ายหน้า แล้วก็เอาแก้มอิงตัวของคุณนายถางไว้ “ไม่หิว หนูไม่อยากกิน”
เธอไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว พอพูดถึงเรื่องกินยิ่งรู้สึกคลื่นไส้เลยด้วยซ้ำ
“ถ้ายังงั้นกินซุปหน่อยไหม?
ไม่กินอะไรเลยไม่ได้นะ? ”
คุณนายถางถามต่อ
น่าเสียดายที่ถางหยวนหยวนยังคงไม่อยากอาหาร เธอพูดอย่างน่าสงสารว่า “หนูอยากนอน”
“ถ้ายังงั้นไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมานอน”
กลิ่นตัวเธอไม่ดีเท่าไหร่เลย แต่ว่าถางหยวนหยวนก็ยังคงไม่มีอารมณ์ เธอปฏิเสธข้อเสนอที่ให้ไปอาบน้ำ ล้มลงกอดหมอนของตัวเอง แล้วก็พลิกตัวไป
ไม่นาน ถางหยวนหยวนก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
คุณนายถางเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ก็รู้สึกเจ็บอย่างมาก แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้ จะเรียกให้เธอตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ ก็เลยได้แต่สั่งให้พ่อครัวเตรียมอาหารไว้ แล้วก็เปิดน้ำให้เต็มอ่าง ถ้าเกิดว่ามันเย็นแล้วก็ให้คนรับใช้มาเปลี่ยนน้ำใหม่
พอหยวนหยวนตื่นขึ้นมาจะได้ใช้ได้ตามสบาย
น่าเสียดายที่ตลอดทั้งคืนนี้ ถางหยวนหยวนก็เอาแต่นอน ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย
คุณนายถางเฝ้าเธออยู่ทั้งคืนไม่ได้นอน กลัวว่าถ้าเกิดว่าตัวเองออกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของตัวเอง
จนถึงตอนที่ถางหยวนหยวนตื่นขึ้นมานั้น ก็เห็นว่าแม่ของตัวเองเฝ้าอยู่ข้างเตียง เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมา
“แม่คะ”
พอคุณนายถางได้ยินเสียงเรียก ก็ตกใจตื่นขึ้นมาทันที “หยวนหยวน ตื่นแล้วเหรอ?
ไม่เป็นไรใช่ไหม?
หิวรึเปล่า กินอะไรหน่อยไหม? ”
เดิมทีถางหยวนหยวนไม่ได้มีความอยากอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ว่าพอเห็นว่าแม่ของเธอเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ ก็เลยพยักหน้า “หิวแล้วค่ะ อยากกินโจ๊ก”
“โอเค จะให้คนในครัวรีบไปเตรียมเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากนั้นคนในครัวก็ไปเตรียมโจ๊ก ส่วนถางหยวนหยวนก็ไปอาบน้ำ พอเห็นว่าอ่างอาบน้ำเต็มไปด้วยน้ำร้อนนั้น ถางหยวนหยวนก็ตาแดงขึ้นมาทันที
ผ่านมาคืนหนึ่งแล้ว แต่ว่าน้ำในอ่างกลับไม่เย็นเลย เห็นได้ชัดว่าตลอดทั้งคืนนี้แม่คอยสั่งให้คนเฝ้าและคอยเปลี่ยนน้ำ เผื่อว่าจู่ๆ เธอจะต้องการใช้ขึ้นมา
ก่อนหน้านี้พอถางหยวนหยวนรู้ว่ายู่ฉือยี่ซูไม่ได้ชอบตัวเองแล้วนั้น ก็รู้สึกเหมือนว่าฟ้าจะพังทลาย แต่ว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่า ตอนนี้ตัวเองน่าผิดหวังมากเลย
ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ชอบเธอล่ะก็ ถ้ายังงั้นเธอก็ไม่ต้องชอบเขาแล้วไง ทำไมต้องให้ฟ้าถล่มด้วย?
เธอไม่ควรจริงๆ ทำแบบนี้มันก็น่าเกลียดเกินไป
เธอควรจะจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ดี ยังไงเธอก็กำลังจะบรรลุนิติภาวะแล้ว ถางหยวนหยวนชำระล้างกลิ่นกายของตัวเองอย่างจริงจัง
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เธอก็เปลี่ยนเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง
ตอนที่ออกมานั้น คุณนายถางก็รอเธออยู่ด้านนอก
“ในที่สุดก็สะอาดแล้ว หิวแล้วใช่ไหม โจ๊กเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว มีทั้งแบบหวาน แบบจืด ลูกอยากจะกินแบบไหน? ”
ถางหยวนหยวนฝืนยิ้มให้คุณนายถาง แล้วก็พูดเบาๆ ว่า “อะไรก็ได้ค่ะแม่”
“งั้นก็ได้ ลูกก็กินอย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วกัน”
หลังจากนั้นคุณนายถางก็เอาแต่เฝ้าถางหยวนหยวน พอเห็นว่าเธอค่อยๆ กินโจ๊กลงไปทีละอย่าง ถึงได้สบายใจแล้วก็ยื่นมือไปลูบหัวของเธอ
“ถ้าเกิดว่ารู้สึกไม่สบายล่ะก็ พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องไปเรียนแล้ว เดี๋ยวสองสามวันนี้แม่จะลาเรียนกับอาจารย์ให้”
“ไม่ต้องหรอกแม่ หนูจะไปโรงเรียน วันนี้พักผ่อนวันหนึ่งก็พอแล้ว”
“ก็ดี”
เวลานี้คุณนายถางไม่กล้าทำเรื่องให้ลูกสาวลำบากใจแม้แต่นิดเดียว “ลูกอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ถางหยวนหยวนไม่พูดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาอีก คุณนายถางก็เข้าใจโดยปริยายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ยังไงลูกสาวของเธอก็มีบาดแผลที่จิตใจ
พอคุณนายถางไปแล้ว ถางหยวนหยวนก็อดทนต่อความอยากร้องไห้ของตัวเอง หลังจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็อาเจียนสิ่งที่กินเข้าไปเมื่อกี้ออกมา
แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนกัน ใจของเธอยังรู้สึกเป็นทุกข์
เธอพิงอยู่ตรงหน้ากระจก หลังจากคิดอยู่สักพักก็ล้างหน้าอย่างจริงจัง แล้วก็มองดูตัวเองในกระจก
“หยวนหยวน เธอต้องมีกำลังใจขึ้นมาได้แล้ว เขาไม่ชอบเธอก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เธอยังมีพ่อมีแม่ แล้วก็มีเพื่อน”
หลังจากที่ให้กำลังใจตัวเองเสร็จแล้วนั้น ถางหยวนหยวนก็คลี่ยิ้มให้กับตัวเองในกระจก
วันต่อมาถางหยวนหยวนก็ไปโรงเรียนตามปกติ
นอกจากตาบวมแล้วนั้น เรื่องอื่นก็ดูปกติดี เมิ่งเข่อเฟยไม่รู้ว่าวันอาทิตย์เธอไปเจอเรื่องอะไรมา แต่ว่าในฐานะที่เป็นเพื่อนรัก เธอก็รู้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ แล้วก็ถามเธออย่างเอาใจใส่
“เป็นอะไรไป เห็นว่าตาเธอค่อนข้างบวม เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ? ”
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสุดสัปดาห์ สำหรับถางหยวนหยวนแล้วนั้นมันช่างเจ็บปวดแล้วก็ขายหน้า มันเป็นเรื่องปกติที่จะถูกปฏิเสธ แต่ว่านี่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย กลับโดนปฏิเสธแบบไร้เสียง
จะอธิบายยังไงดีล่ะ บอกว่าตัวเองออกไปเที่ยวกับพี่ หลังจากนั้นพี่ก็พาแฟนมาด้วยยังงั้นเหรอ?
ไม่ว่าจะพูดยังไงมันก็น่าขายหน้าอยู่ดี ดังนั้นถางหยวนหยวนก็แค่คลี่ยิ้มกับริมฝีปากซีดๆ ของเธอ หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรหรอก อาทิตย์นี้ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่น่ะ”
ยิ่งเธอหลีกเลี่ยงที่จะพูด เมิ่งเข่อเฟยยิ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติ
และในวันต่อมา เมิ่งเข่อเฟยก็ยังพบว่า ถางหยวนหยวนเปลี่ยนไปกลายเป็นเงียบขรึม ชอบนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว สาวน้อยที่น่ารักและไร้เดียงสาเมื่อก่อนนั้นไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว แววตาของเธอไม่มีแสงสว่างเลย ตอนที่เธอนั่งเหม่อลอยอยู่นั้นถ้าเกิดว่าเรียกเธอสองสามครั้ง เธอก็จะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลย
แม้แต่ เมิ่งเข่อเฟยก็พบว่าเธอไม่ไปวิ่งแล้ว พอเลิกเรียนก็บอกว่าง่วง หลังจากนั้นก็จะกลับหอพักไปนอน บางทีเมิ่งเข่อเฟยลากเธอออกไปห้องสมุด ถางหยวนหยวนไปแล้วก็ไม่อ่านหนังสือ เอาแต่นอนฟุบหลับอยู่ข้างเธอ
จนเมิ่งเข่อเฟยอ่านหนังสือเสร็จ ถึงได้ปลุกเธอให้ตื่น แล้วถางหยวนหยวนก็จะกลับไปพร้อมเธอ
ทุกอย่างมันแปลกประหลาดอย่างมาก และสิ่งที่แปลกมากกว่านั้นก็คือ ถึงแม้ว่าถางหยวนหยวนจะไม่ได้ไปออกกำลังกาย เธอก็ยังไม่ควบคุมอาหารอีกด้วย แต่ว่าน้ำหนักของเธอกลับลดลงอย่างบ้าคลั่ง
เวลาผ่านไปครึ่งเดียว แต่ว่าเธอดูผอมลงไปเยอะมาก
เมิ่งเข่อเฟยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ก็เลยเอ่ยปากถามเธอ
“สรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พวกเราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมมีเรื่องอะไรแล้วไม่บอกฉัน? ”
ถางหยวนหยวนทำได้แค่ฝืนยิ้ม
“ไม่มีเรื่องอะไรจริงๆ นะเฟยเฟย ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันก็แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่านั้นเอง”
“ไม่ค่อยสบายเหรอ? ”
เมิ่งเข่อเฟยไม่เชื่อ “ถ้าเกิดว่าเธอแค่ไม่สบาย ถ้ายังงั้นเธอก็ไม่สบายมานานแล้วนะ ทำไมถึงไม่ไปหาหมอ? ”
ถางหยวนหยวนพูดอย่างขี้ขลาด “ไม่ค่อยอยากไปน่ะ”
“ไม่อยากไป หรือว่าไม่ได้ไม่สบายกันแน่? ”
พอได้ยินแบบนี้แล้ว ถางหยวนหยวนก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วก็มองเมิ่งเข่อเฟยที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่าเฟยเฟยนั้นดูก้าวร้าวนิดหน่อย
“เฟยเฟย เธอเป็นอะไรไป? ”
เมิ่งเข่อเฟยถูกถามแบบนี้ ถึงได้รู้ตัวว่าเธอแข็งกร้าวเกินไปหน่อย ดวงตาของเธอเป็นประกาย แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ฉันไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องมาโทษฉันเลยนะ ฉันก็แค่เห็นว่าเธอดูทุกข์ใจ ก็หวังว่าเธอจะพูดออกมา ฉันสามารถสั่งสอนเธอได้นะ เธอดูสภาพของเธอตอนนี้สิ ไม่ออกกำลังกายแล้วก็ไม่กินข้าวเท่าไหร่ด้วย น้ำหนักก็เอาแต่ลดลงๆ ในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของเธอ ฉันก็เป็นห่วง”