เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1630 สงสารเธอ
บทที่1630 สงสารเธอ
เพื่อนรัก……ถางหยวนหยวนมองเมิ่งเข่อเฟย คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไรหรอก ช่วงก่อนหน้านี้ ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าฉันชอบใคร? ”
“อืม”
เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกแน่นขึ้นเล็กน้อย ถางหยวนหยวนบอกว่าเป็นพี่ของเธอ “ตอนนี้ยังชอบอยู่เหรอ? ”
“ชอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”
ถางหยวนหยวนส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “พี่ของฉัน น่าจะมีแฟนแล้ว ดังนั้นต่อให้ฉันจะชอบเขา ต่อไปก็ต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้
แต่ฉันก็รู้สึกว่าฉันซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ได้ ดังนั้น ก็เลยพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปเจอหน้าเขา”
ดังนั้นช่วงนี้ตอนที่ยู่ฉือยี่ซูมาหาเธอนั้น เธอก็จะหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยง แม้แต่จงฉู่เฟิงเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีก
หอพักผู้หญิง ไม่ใช่ที่ๆ ผู้ชายจะสามารถเข้ามาได้
ดังนั้นต่อให้จงฉู่เฟิงมาหาเธอที่โรงเรียน การที่เธอไม่อยากจะเจอเขาก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่พอเมิ่งเข่อเฟยได้ยินดังนั้นก็ใจสั่น หน้าซีด เสียงก็เริ่มสั่น
“เมื่อ เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”
การตอบสนองที่ผิดปกตินี้ทำให้ถางหยวนหยวนมองเธอด้วยความสงสัย
“เฟยเฟย เป็นอะไรไป?”
เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกได้ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นเกินไปหน่อย ก็รีบกลับมาเป็นเหมือนเดิมทันที เธอยื่นมือไปกอดถางหยวนหยวน “ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่สงสารเธอแค่นั้นเอง”
“หืม?”
“เธอชอบพี่ชายเธอไม่ใช่เหรอ?
แล้วตอนนี้ เขามีแฟนแล้วงั้นเหรอ?”
“อืม”
ถางหยวนหยวนพยักหน้า “ตอนที่เจอกันนั้นยังไม่เป็น แต่น่าจะใกล้เป็นแล้วล่ะ”
ยังไงคนที่สามารถนั่งที่นั่งข้างคนขับของพี่ได้ก็มีไม่เยอะหรอก
หลายปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้หญิงแย่งที่นั่งไป วันนั้นตอนแรกถางหยวนหยวนยังนึกว่าเอาไว้ให้จงฉู่เฟิง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นผู้หญิง
นี่มันหมายความว่ายังไง ก็ไม่ต้องพูดก็ได้
เมิ่งเข่อเฟยใจสั่นอย่างรุนแรง เดิมทีเธอนึกว่ายังพอมีโอกาส แต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ทุกคนจะเสียโอกาสไปหมดแล้ว?
“ไม่เป็นไรนะหยวนหยวน ไม่เป็นไร”
เมิ่งเข่อเฟยตบหลังของถางหยวนหยวนเบาๆ เสียงดูสะอื้นเล็กน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังปลอบเธอหรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ “มีแฟนก็มีแฟนสิ โรงเรียนเรามีผู้ชายที่โดดเด่นตั้งเยอะแยะ จนถึงตอนนั้นเธอค่อยๆ หาสักคนก็ได้”
ถางหยวนหยวนตระหนักได้ว่าอารมณ์ของเมิ่งเข่อเฟยนั้นผิดปกติไป แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
“เธอวางใจเถอะ ที่จริงแล้วครั้งนี้ฉันก็คิดอย่างเปิดกว้างแล้ว แต่ก็แค่หดหู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง ผ่านช่วงนี้ไปได้ฉันก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ”
“ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว”
ตอนเย็นหลังจากเลิกเรียนนั้น ตอนแรกถางหยวนหยวนเตรียมตัวจะกลับไปที่หอพัก แต่กลับหันไปเห็นจงฉู่เฟิงยืนอยู่ตรงประตูหลัง
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที ทำเป็นเหมือนไม่เห็นเขา แล้วก็เปลี่ยนทิศทางกลางคัน เปลี่ยนเป็นเดินไปทางด้านหน้าแทน
“หยวนหยวน”
น่าเสียดายที่จงฉู่เฟิงเอาแต่จ้องเธออยู่ตลอด พอเห็นว่าเธอหันหน้าไปทางอื่นแล้วรีบเดิน เขาก็รีบเดินตามไปให้ทัน แล้วก็ขวางเธอไว้ตรงประตูหน้าได้อย่างรวดเร็ว
“ทำไมเห็นพี่ฉู่เฟิงแล้วต้องหนีด้วยล่ะ? ”
จงฉู่เฟิงยื่นมือไปจับแขนของถางหยวนหยวนไว้
ถางหยวนหยวนถูกจับไว้แบบนี้ ก็ไม่กล้าหนีอีกแล้ว เธอหันหน้าไปแล้วก็พยายามฝืนยิ้ม
“พี่ฉู่เฟิง มาที่นี่ได้ยังไงกัน?
เมื่อกี้หนูไม่เห็นพี่เลย”
จงฉู่เฟิงหรี่ตาพิจารณาสาวน้อยที่ผอมลงไปเยอะมาก เธอผอมลงไปเยอะมากจริงๆ ตาดูโตขึ้น แต่ว่าแสงในดวงตาของเธอก่อนหน้านี้มันได้หายไปแล้ว
แล้วอีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สาวน้อยไร้เดียงสาคนนี้กำลังแสดงละครอยู่ต่อหน้าเขา เมื่อก่อนแต่ไหนแต่ไรมาถามอะไรเธอก็จะตอบแบบนั้น
แต่ว่าตอนนี้เธอเริ่มโกหกเขาแล้ว
จงฉู่เฟิงยกข้อมือขึ้น “ไม่เห็นพี่จริงๆ หรือว่าไม่อยากเจอพี่ฉู่เฟิงกันแน่ พี่ทำให้หนูรำคาญขนาดนั้นเลยเหรอหนูน้อย? ”
พอพูดจบ จงฉู่เฟิงก็ยื่นมือไปหยิกแก้มของถางหยวนหยวน
พอหยิกไป จงฉู่เฟิงถึงได้รู้สึกว่านิ้วของเขาไม่ได้รู้สึกถึงเนื้อเลย เขาก็ดึงมือกลับอย่างปวดใจ
“โอเค เจอก็ได้ ไม่เจอก็ช่างเถอะ มากับพี่หน่อย”
หลังจากที่ถางหยวนหยวนเดินตามจงฉู่เฟิงไปยังทางเดินที่ไม่ค่อยมีคนนั้น ก็ยืนนิ่งไม่ขยับ จงฉู่เฟิงรับรู้ได้ว่าเธอไม่ตามมา ก็หันไปถามเธอ “ทำไมไม่เดินต่อล่ะ? ”
“พี่ฉู่เฟิง มีเรื่องสำคัญอะไรรึเปล่า?
ถ้าเกิดว่าไม่มีล่ะก็ หนูต้องกลับไปเรียนแล้ว วันนี้อาจารย์ให้การบ้านเยอะมากเลย หนูกลัวว่าจะทำไม่เสร็จ แล้วต้องอดหลับอดนอน”
จงฉู่เฟิงได้ยินดังนั้น ก็เดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เธอ “ใช่เหรอ?
ถ้ายังงั้นพี่ฉู่เฟิงช่วยหนูทำดีไหม? ”
ถางหยวนหยวน:“พี่ฉู่เฟิง?”
“ทำไม ไม่ดีใจเหรอ?
พี่ฉู่เฟิงแค่อยากจะพูดอะไรกับหนูหน่อยแค่นั้นเอง หนูก็จะหลบพี่แบบนี้เหรอ?
นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ครั้งที่แล้วพี่ฉู่เฟิงก็อธิบายกับหนูไปอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
ถางหยวนหยวนไม่ได้พูดอะไร
“หนูบอกว่าหนูเชื่อพี่ฉู่เฟิง แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าหนูไม่ได้เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียวนะ เฮ้อ ช่างน่าเศร้าจริงๆ ”
เขาทำสีหน้าทุกข์ใจ ถางหยวนหยวนก็ใจอ่อนทันที ที่จริงแล้วเธอกลัวว่าจงฉู่เฟิงจะช่วยพี่ชายเรียกเธอออกมา ถ้าเธอเดินออกไปแล้วเจอพี่จะทำยังไงล่ะ?
หรือว่าให้เบือนหน้าแล้ววิ่งหนีออกมาเลย?
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่พี่ชายอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำแล้วมาส่งเธอที่บ้านนั้น ถางหยวนหยวนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้าไปเจอหน้าเขาแล้ว
วันนั้น มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ
แล้วอีกอย่างพี่ชายก็ฉลาดขนาดนั้น ต้องเดาความรู้สึกของเธอออกอย่างแน่นอน
ดังนั้นตอนนี้ถางหยวนหยวนต่อหน้ายู่ฉือยี่ซูนั้น เก็บความลับอะไรไม่ได้แล้ว
“เปล่านะคะพี่ฉู่เฟิง หนูก็แค่การบ้านเยอะเกินไปเท่านั้นเอง ไม่ได้ไม่เชื่อพี่สักหน่อย”
จงฉู่เฟิงน่าจะมองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆ เขาก็ขยับเข้าไปใกล้เธอแล้วกระซิบว่า “วางใจเถอะ พี่ก็แค่จะพาหนูออกไปรับอากาศสักหน่อยเท่านั้นเอง มีแค่พวกเราสองคน ไม่มีคนอื่น”
จงฉู่เฟิงไม่ได้พูดชื่อพี่ชายขึ้นมา แต่ว่าก็เป็นการแสดงให้ถางหยวนหยวนเห็นแล้วว่า ด้านนอกไม่มียู่ฉือยี่ซูอยู่ ให้เธอสบายใจได้
ถางหยวนหยวนถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วก็กะพริบตา
“จะไปไหนเหรอคะ?”
จงฉู่เฟิงยิ้มตาหยีและพูดว่า “ไปแล้วหนูก็รู้เอง”
หลังจากนั้นจงฉู่เฟิงก็พาถางหยวนหยวนไปห้างสรรพสินค้า พาเธอไปเล่นวิดีโอเกม เกมAngry gran run อะไรประมาณนั้น ทั้งวันนี้ ถางหยวนหยวนเหยื่อออกอย่างมาก ลืมทุกความเศร้าไปทั้งหมด
ตอนที่กลับมาส่งเธอที่โรงเรียนนั้น จงฉู่เฟิงก็ซื้อไอศกรีมให้ถางหยวนหยวนแท่งหนึ่ง
“รู้ว่าหนูกำลังลดน้ำหนักอยู่ แต่ว่าแค่ครั้งเดียวก็พอ หลังจากวันนี้หนูอยากจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ แต่ว่าวันนี้ก็ทำตามใจตัวเองหน่อยแล้วกัน เมื่อไหร่ที่อารมณ์ไม่ดีแล้วกินของหวานจะดีขึ้นเยอะเลยนะ”
ถางหยวนหยวนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ รับไอศกรีมมาแล้วก็กินเข้าไปหลายคำ “ขอบคุณนะคะพี่ฉู่เฟิง”
ลมยามค่ำคืนมันหนาวมาก จงฉู่เฟิงพาถางหยวนหยวนมาส่งที่หน้าประตูโรงเรียน
“โอเค พี่ฉู่เฟิงไม่เข้าไปกับหนูแล้วนะ จะรอดูหนูเดินเข้าไปอยู่ตรงนี้”
ถางหยวนหยวนกลับส่ายหน้า “หนูดูพี่ฉู่เฟิงกลับไปดีกว่า”
จงฉู่เฟิงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกมีความสุขเล็กน้อย เดิมทีก็อยากจะปฏิเสธ กลัวว่าหยวนหยวนจะมีอันตราย แต่พอเห็นรปภ.ที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไร ก็เลยพยักหน้า “ก็ได้”
“บ้ายบายค่ะพี่ฉู่เฟิง”
หลังจากนั้นถางหยวนหยวนก็รอให้จงฉู่เฟิงเดินไปไกลแล้ว หลังจากนั้นก็โบกมือเบาๆ ให้กับแผ่นหลังของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป หันหลังเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในโรงเรียน
“เล่นเสร็จแล้วเหรอ? ”