เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1666 อย่ายอมแพ้
บทที่1666 อย่ายอมแพ้
คุณแม่จงกลับโบกมือ เป็นความหมายว่าให้จงฉู่เฟิงมาพยุงเธอให้ลุกขึ้นนั่ง
จงฉู่เฟิงไม่ได้ขยับ เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “นอนต่อเถอะแม่ ลุกขึ้นมาแล้วเดี๋ยวก็ต้องนอนลงไปอีกแล้ว พึ่งจะผ่าตัดมาได้ไม่นานนะ”
พอได้ยินดังนั้น คุณแม่จงมองเขาด้วยสายตาตำหนิ “ก็แค่การผ่าตัดเล็กๆ เท่านั้นเอง ทำไมต้องตื่นตระหนกเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้? วางใจเถอะ ชีวิตแม่ยังอีกยาวนาน ตายไม่ได้หรอก”
พอพูดถึงตรงนี้ คุณแม่จงก็หยุดไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดว่า “ตอนที่ยังไม่เห็นลูกแย่งทรัพย์สมบัติของตระกูลจงมาได้นั้น แม่ก็ไม่กล้าตายหรอก”
พอได้ยินคำว่าทรัพย์สมบัตินั้น สายตาจองจงฉู่เฟิงก็ฉายแววทอดถอนใจ
แม่ของเขาเอาแต่หวังว่าเขาจะสามารถแย่งสมบัติมาได้ ไม่อยากให้เมียน้อยนั้นชนะไป เธอมีแค่จงฉู่เฟิงเป็นลูกชายแค่คนเดียว แน่นอนว่าก็จะเอาความหวังไปฝากไว้ที่เขา
พอคิดได้แบบนี้ จงฉู่เฟิงก็พูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ตอนแรกที่แม่มีลูก ทำไมไม่มีน้องชายหรือว่าน้องสาวเพิ่มล่ะครับ? ”
“ทำไมเหรอ?”
“ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ผมก็จะได้ไม่ต้องไปแย่งสมบัติ ให้น้องชายหรือน้องสาวก็ได้”
“ไอ้เด็กบื้อคนนี้ แกกำลังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่? แม่มีลูกเพียงแค่คนเดียว ลูกกลับมาบอกว่าไม่อยากไปแย่งสมบัติยังงั้นเหรอ? แม่จะบอกอะไรให้นะ แค่พ่อของลูกทำเรื่องแบบนี้แม่ก็โกรธมากแล้ว ถ้าเกิดว่าลูกไม่แย่งสมบัติมา ถ้าเกิดว่าปล่อยให้อีเมียน้อยนั่นทำสำเร็จล่ะก็ ถ้าเกิดว่าแม่ตาย ก็คงตายตาไม่หลับ
คำพูดพวกนี้อีกแล้ว จงฉู่เฟิงฟังตั้งแต่เด็กจนโตจนเอียนไปหมดแล้ว
เขารู้สึกว่าเขารักแม่ของเขามากนะ แต่เขาแค่ไม่อยากให้แม่เขาใช้ชีวิตแบบนี้
“แม่”
“ทำไม?”
“ทำไมถึงไม่หย่าล่ะ? ถ้าเกิดว่าแม่หย่ากับเขาแล้ว พวกเราสองคนแม่ลูกก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ เมื่อก่อนแม่คิดว่าผมยังเด็ก ถ้าเกิดว่าออกจากบ้านมาแล้วเลี้ยงผมมันก็ต้องใช้เงินในหลายๆ อย่าง แต่ว่าผมก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว จนถึงตอนนั้นผมจะหางานที่มั่นคง แม่เองก็มีทรัพย์สมบัติของแม่ก่อนหน้านี้ พวกเราสองคนออกไปอยู่ข้างนอก ไม่ต้องเจอคนพวกนี้ ก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ? ”
พอได้ยินดังนั้น คุณแม่จงก็ถลึงตาทันที “ไม่ได้ ไม่มีทาง! ”
พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา อารมณ์ของคุณแม่จงก็ค่อนข้างตื่นเต้น “อีเมียน้อยคนนั้น มันแย่งคนรักของแม่ไป ผู้หญิงหน้าด้านๆ คนนั้น มันคาดหวังให้แม่หย่าตั้งนานแล้ว ถ้าเกิดว่าแม่หย่าไป ก็เป็นการทำสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ? ”
“เรื่องที่จะทำตามสิ่งที่เธอต้องการเนี่ย แม่เอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ แต่แม่กลับไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปีกัน? ความสุขของตัวเองไม่สำคัญงั้นเหรอ? แม่ ไม่ว่าจะเป็นทีรัพย์สมบัติสิบล้านหรือร้อยล้าน ผมก็ไม่สนใจหรอกนะ ผมแค่อยากให้พวกเราสองแม่ลูกมีความสุขเท่านั้นเอง”
พอคุณแม่จงได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็ถอนหายใจ “เสี่ยวเฟิง แม่รู้ว่าลูกหวังดีกับแม่ แต่ว่าลูกเคยคิดไหมว่า ถ้าเกิดว่าหย่าไปแล้ว พวกเราจะอยู่ได้อย่างมีความสุข แล้วในใจของแม่ล่ะ? แม่ไม่สามารถกลืนลมหายใจนี้ไปได้หรอกนะ ไม่ว่าจะยังไงแม่ก็คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอแค่แม่ไม่ยอมหย่า ยัยหมาป่านั่นก็จะเป็นได้แค่เมียน้อยตลอดไป ไม่ได้กลายมาเป็นภรรยาหลวงได้หรอก
บางทีผู้หญิงก็ชอบทำในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า ตอนที่ไม่ปล่อยคนอื่นไปนั้น ก็เป็นการไม่ปล่อยตัวเองไปเหมือนกัน คนแบบแม่ของจงฉู่เฟิง เอาตัวเองไปลงโทษคนอื่น
“เสี่ยวเฟิง แม่รู้ว่าลูกอาจจะไม่เข้าใจมาก แต่ว่าลูกไม่ใช่แม่ ดังนั้นไม่เข้าใจก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่าลูกต้องรับปากกับแม่ ว่าต่อไปถ้าเกิดว่าลูกแต่งงาน จะไม่จิตใจโลเลเหมือนพ่อของลูก ถ้าเกิดว่าลูกกล้าออกนอกลู่นอกทาง แม่จะเป็นคนตัดขาของลูกด้วยตัวแม่เอง”
พอได้ยินดังนั้น จงฉู่เฟิงก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “แม่ ผมจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไงกัน? ”
“ไม่ใช่ก็ดีแล้ว ถ้าเกิดว่าไปเรียนคุณธรรมที่ไม่ดีจากพ่อมาเมื่อไหร่ แม่จะไม่มีวันให้อภัยลูกตลอดชีวิต ลูกเองก็ไม่ต้องเห็นเขาเป็นพ่อหรอก คนแบบนั้นไม่คู่ควร ลูกแค่ต้องแย่งทรัพย์สมบัติเขามาก็พอแล้ว”
จงฉู่เฟิงไม่พูดอะไร
ในห้องนั้นเงียบลง ผ่านไปครู่หนึ่ง คุณแม่จงก็พูดว่า “ไอ้เด็กบื้อ วันนี้ตอนที่แม่หาโอกาสให้ ทำไมลูกถึงต้องปฏิเสธด้วย? ”
จงฉู่เฟิงพูดไม่ออก สุดท้ายก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องพูด ดังนั้นก็เลยเตรียมใจเอาไว้แล้ว
“นี่มันเป็นการบังคับฝืนใจคนอื่นมากเกินไปนะครับ”
“บังคับฝืนใจคนอื่นอะไรกัน? สาวน้อยนั้นมีน้ำใจ เห็นว่าแม่อยู่คนเดียวที่นี่ไม่มีใครสนใจ แล้วก็ปวดใจที่ลูกต้องเฝ้าอยู่คนเดียว แล้วก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระจากลูกไง”
“ยี่ซูก็ทำได้เหมือนกัน”จงฉู่เฟิงพูดเรียบๆ
“ยี่ซูจะเหมือนเธอได้งั้นเหรอ? ยี่ซูเป็นผู้ชายนะ เป็นเพื่อนรักของลูก แต่ว่าหยวนหยวนไม่เหมือนกัน ลูกชอบเธอไม่ใช่เหรอ? ”
“ผมเคยบอกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ”
“ลูกเป็นคนที่แม่คลอดออกมานะ แถมยังเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนโต ลูกคิดอะไรมีเหรอที่แม่จะไม่รู้? แม่อ่านแววตาของลูกออก”
ก็ได้ ในเมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว จงฉู่เฟิงก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีเหตุผลให้ปฏิเสธแล้ว เขาไม่ได้ตอบเธอ ได้แค่เม้มปากเท่านั้น
“ดังนั้นแม่ก็เลยช่วยสร้างโอกาสให้ แม่คิดว่าเจ้าเด็กหยวนหยวนนี่ก็ไม่เลวเลย ไม่เหมือนพวกผู้หญิงข้างนอก ทั้งใสซื่อและจิตใจดี สะอาดเหมือนกับกระดาษขาว ถ้าเกิดว่าลูกได้แต่งงานกับเธอ ถือว่าเป็นบุญที่ได้สั่งสมมาสิบชาติเลย”
พอพูดถึงถางหยวนหยวน คุณแม่จงนั้นชื่นชมเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ผู้หญิงที่ตัวเองชอบก็ได้เป็นผู้หญิงที่แม่ของตัวเองชอบเช่นกัน แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งมีความสุข แต่ว่าเสียดาย……ที่เขากับหยวนหยวนไม่ได้รักกัน
พอเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร เอาแต่เงียบ คุณแม่จงก็เบะปาก “ลูกอยากจะพูดว่า ยี่ซูกับลูกเป็นเพื่อนรักกันเหมือนพี่น้อง ไม่ควรจะไปอยากได้แฟนเพื่อนยังงั้นเหรอ? ”
จงฉู่เฟิงนิ่งไป ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะมองออกแม้แต่เรื่องนี้
“ลูกซื่อบื้อนะเนี่ย สถานการณ์ของพวกเขาทั้งสองคนตอนนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้กำหนดอย่างชัดเจน ไม่แน่ว่าอาจจะยังไม่ได้สารภาพรักกันเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกกำหนด ลูกกับเขาก็สามารถแข่งขันกันได้อย่างยุติธรรม ถ้าเกิดบอกว่าเป็นเพื่อนรักกัน แล้วห้ามชอบคนคนเดียวกันล่ะก็ ถ้ายังงั้นจะมีเพื่อนรักไว้ทำไมกัน? ”
“แม่ แต่ว่าความคิดของพวกเราไม่เหมือนกัน เพื่อนรักกับผู้หญิงสำหรับผมแล้ว ก็สำคัญมากทั้งนั้น”
เขาไม่สามารถหักหลังเพื่อนรักที่เหมือนกับพี่น้องของเขาได้เพื่อผู้หญิงหรอก และก็ไม่สามารถละทิ้งผู้หญิงของตัวเองเพื่อเพื่อนได้เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือหยวนหยวนไม่ได้ชอบเขา
ตราบใดที่ถางหยวนหยวนมีความรักและความห่วงใยให้เขาแม้เพียงนิดเดียว เขาก็จะไม่ถอยทัพแบบนี้หรอก
“ความสุขของลูกต่างหากที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ลูกไม่ชอบหยวนหยวนเหรอ? ”
“ชอบ”
“ถ้ายังงั้นก็ไปช่วงชิงมาสิ แม่สร้างโอกาสไว้ให้ลูกเรียบร้อยแล้ว ลูกยังผลักเธอออกไป ลูกเป็นแบบนี้จะจีบสาวติดเหรอ? ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว”จงฉู่เฟิงตัดบทคำพูดของแม่เขา “หยวนหยวนไม่ได้ชอบผม เธอบอกผมอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเกิดผมยอมรับว่าผมชอบเธอล่ะก็ วันนี้เธอก็น่าจะไม่มาเจอผมหรอก”
คุณแม่จง:“……”。
ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ เธอคาดไม่ถึงเลย
เด็กหยวนหยวนคนนั้นดูนุ่มนวลและน่ารักมาก แต่ว่ากลับหนักแน่นขนาดนั้นเลยเหรอ?
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คุณแม่จงก็พูดใหม่อีกครั้งว่า “ยิ่งเธอแน่วแน่ ยิ่งหมายความว่าเธอเป็นคนมุ่งมั่น ผู้หญิงแบบนี้ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ เธอพึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง จะไปเข้าใจได้ยังไงว่าอะไรคือความชอบ อะไรคือความรัก ความคิดเกี่ยวกับความรู้สึกของคนเราก็จะเปลี่ยนไปตามอายุนั่นแหละ อย่างน้อยก่อนหน้าที่เธอจะไปมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับคนอื่น ลูกก็อย่าเลิกล้มความพยายามของตัวเอง”