เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1669 เทียบไม่ได้
บทที่1669 เทียบไม่ได้
คุณแม่จงฟังแล้วก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าไอ้เด็กบ้าจงฉู่เฟิงจะพูดกับเธอว่าไม่ได้ชอบเธอ เขาเป็นแบบนี้แล้วยังอยากจะจีบสาวอยู่อีกงั้นเหรอ?
โง่จริงๆ!
“หยวนหยวน หนูกับฉู่เฟิงก็รู้จักกันมานานแล้ว หนูรู้สึกว่าเขาเป็นคนยังไงเหรอจ๊ะ? ”
ถางหยวนหยวนกับจงฉู่เฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาโดยตลอด แน่นอนว่าต้องรู้สึกว่าเขาไม่เลวเลย ไม่ยังงั้นเธอก็คงไม่มาเยี่ยมถึงโรงพยาบาลแถมยังมาช่วยดูแลอีกต่างหากหรอก
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “พี่ฉู่เฟิงเป็นคนที่ดีมากเลยค่ะ”
“ดีด้านไหนเหรอ? ”
ถางหยวนหยวน “ดีทุกด้านเลยค่ะ”
“ในเมื่อดีทุกบ้านแบบนี้ หนูอยากจะลองรู้จักเขาให้มากขึ้นหน่อยไหม? เขาบอกว่าไม่ชอบหนู บางทีอาจจะกำลังโกหกหนูอยู่ก็ได้นิ? ”
“โกหกหนูเหรอคะ? ” สายตาของถางหยวนหยวนดูสับสน แล้วก็ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่ฉู่เฟิงดีกับหยวนหยวนมาก เขาไม่เคยโกหกหยวนหยวนมาก่อน”
“ถ้ายังงั้นป้าขอถามหนูหน่อย ทำไมจู่ๆ พี่ฉู่เฟิงของหนูถึงได้พูดเรื่องที่ไม่ได้ชอบหนูขึ้นมาล่ะ? ”
เธอไม่เชื่อหรอกว่าเด็กคนนี้จะโง่ถึงขั้นที่จู่ๆ ก็พูดออกมาเองว่าไม่ได้ชอบ ตามคุณธรรมจริยธรรมของเขาแล้วนั้นเขาก็จะเก็บเอาไว้ในใจแต่ก็ไม่ปฏิเสธ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆ เขาถึงพูดอะไรแบบนี้ออกไป
พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ถางหยวนหยวนก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
เพราะว่าตอนนั้นเธอเป็นคนถามจงฉู่เฟิงเอง เพื่อนๆ ก็ต่างพูดว่าฉู่เฟิงชอบเธอ เธอรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ หลังจากนั้นมาคิดว่าเขาดีกับตัวเองขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าบางทีมันอาจจะมีความเป็นไปได้ก็ได้ ก็เลยไปถามเขา
“หืม? ” คุณแม่จงเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร ก็เลยถามต่อ
ถางหยวนหยวนถึงได้พูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “คือ คือว่าหนูเป็นคนถามเองค่ะ”
“อะไรนะ? ” คุณแม่จงตกใจ “หนูเป็นคนถามเองงั้นเหรอ? ”
“อืม” พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ถางหยวนหยวนก็ก้มหน้าลง แม้แต่เปลือกตาก็ไม่กล้ายกขึ้นมา
“เด็กน้อย ทำไมหนูถึงถามพี่ฉู่เฟิงเรื่องนี้กันล่ะ? หรือว่าหนูก็รู้สึกกับฉู่เฟิง……”
“เปล่าค่ะ” ถางหยวนหยวนส่ายหน้าปฏิเสธ “คุณป้าคะ หนูเห็นพี่ฉู่เฟิงเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ไม่ได้รู้สึกแบบอื่นจริงๆ นะคะ”
“ถ้าเกิดว่าไม่ได้คิดแบบอื่น แล้วทำไมหนูถึง……”
ถึงแม้ว่ามันจะน่าอาย แต่ว่าถางหยวนหยวนก็รู้ว่าคุณป้าจงอยากจะจับคู่ตัวเองกับพี่ฉู่เฟิง เธอไม่ได้ชอบเขา งั้นก็ต้องรีบพูดให้เคลียร์ไปเลยจะดีกว่า
พอคิดได้แบบนี้แล้ว ถางหยวนหยวนก็พูดว่า “คุณป้าคะ เพราะว่าหนูกังวลว่าพี่ฉู่เฟิงจะชอบหนู หนูก็เลยไปถามเขาค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้ คุณแม่จงก็ตัวเย็นไปในทันที
ถามเพราะว่ากลัวฉู่เฟิงจะชอบตัวเองยังงั้นเหรอ?
“ขอโทษด้วยนะคะคุณป้า หนูรู้ว่ามันเกินไปหน่อยที่หนูพูดเรื่องพวกนี้ แต่ว่าหนูบริสุทธิ์ใจกับพี่ฉู่เฟิงจริงๆ นะคะ ตอนนี้หนูยังเด็กอยู่ ยังไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ”
คุณแม่จงไม่ได้ควบคุมตัวเอง เธอพูดออกไปว่า “หนูไม่ได้ไม่อยากคิดเพราะว่าเด็กเกินไปหรอก แต่เพราะว่าหนูมีคนที่ชอบอยู่แล้วใช่ไหม? ”
ถางหยวนหยวน:“……”
พอเห็นว่าหน้าเธอซีดลงไปเยอะ คุณแม่จงถึงได้ตระหนักว่าตัวเองพูดเกินไปนิดหน่อย ไม่ว่าจะยังไงเธอก็เป็นเด็กคนหนึ่ง แถมเรื่องความรู้สึกอะไรแบบนี้ก็ไปบังคับกันไม่ได้หรอก เธอก็เลยยอมถอยแล้วเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดที่รองลงมา แล้วพูดว่า “หยวนหยวน ป้าไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นเลยนะ ก็แค่อยากจะถามหนูเท่านั้นเอง ทำไมหนูถึงยอมรับที่ฉู่เฟิงชอบหนูไม่ได้ล่ะ? ในเมื่อเขาเองก็เป็นคนที่ไม่เลวเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วอีกอย่างตอนนี้หนูก็พึ่งจะบรรลุนิติภาวะ อาจจะยังจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ไม่ชัดเจนนัก บางที……”
คำพูดพวกนี้อีกแล้ว เพราะว่าเธออายุยังน้อย ก็เลยคิดว่าความรู้สึกของเธอมันไม่ชัดเจนยังงั้นเหรอ? ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ ถางหยวนหยวนย่นจมูกอันบอบบางของเธออย่างไม่พอใจและพูดว่า “คุณป้าคะ หนูเป็นผู้ใหญ่แล้ว หนูรู้ว่าหนูกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าในสายตาของคุณป้าหนูจะยังดูอายุยังน้อย แต่ว่าหนูรู้สึกว่าความคิดและความชอบของคนเราไม่ได้จำกัดที่อายุนะคะ”
เธอพูดอย่างอ้อมค้อมมาก แต่ว่าสีหน้าดูแน่วแน่ คุณแม่จงมองออกว่าเหมือนกับว่าเด็กคนนี้จะเริ่มโกรธนิดหน่อยแล้ว ไม่ยังงั้นก็คงไม่พูดกับเธออย่างเอาจริงเอาจังแบบนี้หรอก เธอชอบหยวนหยวนมาโดยตลอด แน่นอนว่าจะไม่ดึงให้เธออยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเองอยู่แล้ว เธอก็รีบนำคำพูดของตัวเองกลับไปอย่างรวดเร็ว “ป้าไม่ได้หมายความว่ายังงั้นนะจ๊ะ ป้ารู้ว่าหนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความคิดก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหนูหรอก ก็แค่อยากจะให้หนูพิจารณาฉู่เฟิงหน่อยเท่านั้นเอง ยังไงป้าก็ชอบหนูมากจริงๆ ”
“แต่ว่าคุณป้าคะ……”อวัยวะบนใบหน้าเล็กๆ ของถางหยวนหยวนย่นเข้ากัน “หนูไม่อยากให้คุณป้าผูกมัดหนูเพราะว่าคุณป้าชอบหนูนะคะ แล้วอีกอย่างความรู้สึกของหนูกับพี่ฉู่เฟิงเองก็ดีมาก ถ้าเกิดว่าคุณป้าเป็นแบบนี้ จะเป็นการทำลายความรู้สึกระหว่างหนูกับพี่ฉู่เฟิงนะคะ”
“เด็กบื้อ หนูไม่รู้หรอกว่าเขา……”
เฮ้อ ช่างเถอะ กลัวว่าถ้าพูดต่อไป สาวน้อยคนนี้ต้องโกรธจริงๆ แน่นอน ตอนนี้เธอเอาจริงเอาจังขนาดนี้แล้ว
ทันใดนั้น คุณแม่จงก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเข้าใจแล้วว่าทำไมเสี่ยวเฟิงถึงปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ เวลาที่เด็กคนนี้จริงจังนั้นไม่ควรจะไปยั่วยุเลยจริงๆ ไม่แน่ว่าถ้าเกิดว่าเสี่ยวเฟิงยอมรับล่ะก็ พวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ด้วยซ้ำ พอคิดได้แบบนี้แล้ว คุณแม่จงก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “โอเคๆ หยวนหยวนหนูอย่าโกรธไปเลยนะ เรื่องวันนี้ป้าผิดเอง ป้าไม่ควรพูดอะไรแบบนี้เลย แต่ว่าหนูอย่าโกรธป้าเลยโอเคไหม? ที่ป้าเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าป้าชอบหนูเกินไปหน่อย ถ้าเกิดว่าหนูไม่ชอบล่ะก็ ต่อไปป้าจะไม่พูดแล้ว”
จะพูดให้รัดแน่นมากเกินไปก็ไม่ได้ ไม่ยังงั้นถ้าเกิดว่าถึงเวลาทำให้เธอกลัวจนหนีไปจะทำยังไง ดังนั้นคุณแม่จงก็เลยต้องยอมถอย
พอเห็นว่าเธอขอโทษ แถมยังรับปากว่าจะไม่พูดอีก ถางหยวนหยวนก็รู้สึกโล่งอก
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
ตอนแรกถางหยวนหยวนยังคิดว่า ถ้าเกิดว่าคุณแม่จงยังคงพูดแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ตั้งแต่พรุ่งนี้เธอก็คงจะไม่มาที่โรงพยาบาลอีกแล้ว โชคดีที่เธอรับปากว่าจะไม่พูดแล้ว
ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทุกคนก็จะไม่ดูกระอักกระอ่วนมากเกินไป
แต่แค่ว่า……
ถางหยวนหยวนนึกถึงเรื่องที่คุณแม่จงพูดว่าพี่ฉู่เฟิงชอบเธอขึ้นมาได้ นี่ไม่ใช่แค่คนเดียวที่พูดแบบนี้ ตอนนั้นเพื่อนหลายคนก็พูดแบบนี้ เธอเองก็เชื่อด้วยเหมือนกัน ก็เลยไปถาม
หลังจากนั้นพอจงฉู่เฟิงปฏิเสธ เธอก็เลยสบายใจ
แต่ว่าตอนนี้ล่ะ?
แม้แต่แม่ของพี่ฉู่เฟิงยังพูดแบบนี้ หรือว่าพี่ฉู่เฟิงจะชอบเธอจริงๆ? แต่ถ้าเกิดว่าเขาชอบจริงๆ แล้วทำไมเขาต้องปฏิเสธด้วยล่ะ?
เฮ้อ คิดเยอะเกินไปแล้ว ถางหยวนหยวนรู้สึกปวดหัว เดิมทีเรื่องของเมิ่งเข่อเฟยก็ทำให้เธออารมณ์เสียแล้วก็ทุกข์ใจมากแล้ว
ไม่คิดแล้วๆ ถางหยวนหยวนกำจัดความคิดที่ยุ่งเหยิงนั้นออกไป
“คุณป้าคะ อยากดื่มน้ำไหมคะ เดี๋ยวหนูไปเทให้”
“ได้ ขอบคุณนะจ้ะหยวนหยวน”
ช่วงเวลาใกล้เที่ยงนั้น ในที่สุดจงฉู่เฟิงกับยู่ฉือยี่ซูก็กลับมาแล้ว
ทั้งสองเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องอาหารกลางวันในมือ
“แม่ กลับมาแล้วครับ”
“คุณป้า” ยู่ฉือยี่ซูทักทายคุณแม่จงอย่างเรียบง่าย
คุณแม่จงมองทั้งสองคนที่เดินเข้ามาพร้อมกัน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ในใจ ถ้าเกิดว่าหยวนหยวนชอบยี่ซูล่ะก็ ก็ไม่น่าจะมีอะไรแปลก
ยังไงลูกชายของตัวเองเดินมาพร้อมกับเขา อย่าพูดถึงเรื่องหน้าตาดีเลย แม้แต่ส่วนสูงก็ยังไม่ดีเท่าเขา ยิ่งเรื่องไอคิวนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
เฮ้อ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วยังจะไปเทียบกับเขาได้ยังไงอีกกันล่ะ?
คุณแม่จงถอนหายใจในใจไปด้วยแล้วก็ประเมินยู่ฉือยี่ซูไปด้วย ลูกของตระกูลเย่นั้นมีกรรมพันธุ์ที่ดีจริงๆ เลย ไม่เพียงแค่หน้าตาดี รูปร่างสูง แถมยังดีเลิศอีกด้วย