เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่172 หล่อนเป็นใครกัน
เสิ่นเฉียวกวาดสายตามองเธอ แต่ไม่ได้ตอบรับ
“แกได้ยินรึเปล่า? ฉันกำลังคุยกับแกอยู่”
ฟังเธอพูดจบ เสิ่นเฉียวก็ยิ้มกริ่ม “คุณตะโกนเสียงดังขนาดนี้ คุณคิดว่าคนอื่นไม่ได้ยินหรือคะ?”
กาวหยุนจ้องเธอด้วยความโมโห “แล้วแกยังไม่ตอบฉันอีก”
“ไม่ใช่ว่ามีเรื่องจะพูดด้วยหรือไงคะ? เร็วหน่อย ฉันอยากจะเลิกงานแล้ว”
กาวหยุนโมโหจนแทนจะทนไม่ไหว อยากจะเดินไปแล้วฉีกเธอให้เป็นชิ้นๆ แต่ว่าคิดถึงแผนของตัวเอง เลยทำได้แค่อดทน
“เรื่องเมื่อก่อนที่พวกเราเคยทำ เป็นฉันที่ผิดเอง ฉันจะมาขอโทษแก”
เสิ่นฉียวนิ่งไปแป๊บหนึ่ง แล้วเลิกคิ้วคิ้วมองอีกฝ่าย เห็นแค่กาวหยุนที่ปั้นหน้าหาเรื่องใส่ แววตาเต็มไปด้วยประกายของความโกรธแค้นที่อยากจะมาจัดการตบให้เธอหน้าหงาย เธอยกยิ้มมุมปาก “คุณกาวมาขอโทษด้วยฉันด้วยสีหน้าท่าทางของคนที่เกลียดกัน ก่อนที่คุณจะพูดประโยคนี้ ฉันนึกว่าคุณแค้นฉันเสียอีก”
“แก!”
“พูดจริงๆนะคะ ฉันไม่สนใจว่าคุณจะมีจุดประสงค์อะไร แต่ว่าพวกเราเป็นแค่พนักงานทั่วไป ถ้าคุณทำร้ายฉันมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ ส่วนที่มาขอโทษเรื่องอะไร ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรเหมือนกัน คงไม่ต้องพูดอะไรกันอีก ฉันขอตัวก่อน”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็หมุนตัวแล้วเดินจากไป
รอจนเธอเดินไปแล้ว ชุยหมิ่นลี่ก็เดินออกมาจากที่ซ่อนของตัวเอง “กาวหยุน แกอย่าโมโหนะ นังนั่นมันเป็นใครกัน ที่ถึงกับกล้าไม่ยอมรับคำขอโทษจากแก แกวางใจได้ ต่อให้นางไม่เชื่อพวกเรา พวกเราก็มีวิธีที่จะกำจัดนาง”
*
วันเวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว แค่กะพริบตาก็มาถึงหนึ่งวันก่อนเปิดม่านกิจกรรมวันครบรอบปี
หานเส่โยวมาหาเสิ่นเฉียว
“ได้ยินมาว่าบริษัทของแกมีงานครบรอบ พอถึงเวลานั้น…. ฉันมาร่วมงานในฐานะญาติของแกได้ไหม?”
“…. เรื่องนี้ฉันก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเกิดอยากจะเข้ามาร่วม ฉันจะลองถามดูให้ว่าเคยมีเรื่องแบบนั้นบ้างหรือเปล่า”
หานเส่โยวกอดแล้วจุ๊บเธอ “เฉียวเฉียวแกนี่ดีสุดๆไปเลย”
เสิ่นเฉียวก็ยิ้ม “แกมีความสุขก็ดีแล้ว”
แล้วเธอก็นิ่งไป คิดถึง หานชิง พี่ชายของหานเส่โยว
ครั้งก่อนที่ทั้งสองคนเพิ่มกันเป็นเพื่อนบนวีแชท จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยคุยกัน ค่อนข้างน่าอาย ตอนที่เธอกำลังลังเลว่าจะบอกเรื่องนี้กับหานเส่โยวดีไหม เส่โยวกลับผละออกจากตัวเธอแล้วไปเลือกของขวัญ
จริงๆคืนวันนั้นเสิ่นเฉียววางแผนไว้ว่าจะใส่แค่ชุดธรรมดาทั่วไปก็พอแล้ว แล้วทำให้ตัวเองกลืนไปกับฝูงชน
ที่บริษัทเธอมีคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูมากเกินไปแล้ว ที่งานเลี้ยงวันนั้นควรจะแต่งตัวเรียบๆถึงจะดี
แต่ใครจะไปคิดว่าหานเส่โยวจะเลือกชุดราตรีสีแดงให้กับตัวเอง
“นี่มันไม่ดึงดูดสายตาไปหน่อยเหรอ? ไม่เอา” เสิ่นเฉียวปฏิเสธไปตรงๆ
แต่หานเส่โยวกลับรั้งเอวของเธอไว้ แล้วพูดขึ้นเสียงเบา “แกกลัวอะไรล่ะ? แกเป็นถึงคุณนายเย่เชียวนะ ต่อให้วันนั้นเธอมีแต่คนจับตามองแล้วจะยังไง ยังกลัวว่าสถานะของแกจะรับเกียรตินั้นไว้ไม่ได้อีกหรือไง?”
“แต่ว่า….ไม่ได้จริงๆ”
คนในบริษัทไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเย่โม่เซิน
อีกอย่างเธอกับเย่โม่เซินก็จะต้องหย่ากัน เธอเองก็ไม่ถือว่าเป็นภรรยาของเย่โม่เซิน
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเกิดว่าแกกังวลเรื่องราคา ฉันซื้อให้เธอ” หานเส่โยวผลักเธอเข้าไปในห้องลองชุด ยังไงก็อยากให้เธอลองสวมออกมาให้เธอดู
เสิ่นเฉียวถือชุดราตรีสีแดงยืนอยู่ในห้องลองเสื้อ จำใจถอดชุดที่สวมอยู่แล้วลองชุดนั้น ในห้องลองเสื้อผ้าไม่มีกระจก พอเสิ่นเฉียวสวมชุดเรียบร้อยแล้วเธอรู้สึกว่าชุดออกจะโป๊เกินไปหน่อย เธอยื้อเวลาอยู่ในห้องลองชุดอยู่พักใหญ่ จนหานเส่โยวที่อยู่ด้านนอกต้องเร่ง
“เฉียวเฉียวเป็นยังไงบ้าง แกออกมาให้ฉันดูหน่อยสิ”
“เส่โยว คือว่า…….”
ประตูห้องลองชุดของเสิ่นเฉียวถูกแง้มออก หานเส่โยวก็เลยรีบเบียดตัวเข้าไปทันที พอเห็นเธอ เธอก็ตะลึงไป
สีแดงสดขับให้ผิวขาวซีดของเธอยิ่งดูขาวและเปล่งประกายมากขึ้นจนคนมองต้องใจสั่น แถมคอชุดก็ถูกออกแบบมาแบบคอวี ทำให้ทรวดทรงของเธอปรากฏ ออกมาชัดเจน แถมเธอยังมีแววตาเย็นชา ท่าทางแบบนี้ทำให้เธอดูมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์แต่เพียงหนึ่งเดียว
ยิ่งทำให้หานเส่โยวคิดถึงผู้หญิงในรูปภาพที่เธอเห็นที่บ้านตระกูลหาน
ก็คือคนที่เคยเป็นเจ้าของบ้านตระกูลหาน คุณนายหาน
แววตาของหานเส่โยวก็เริ่มสับสนขึ้นมา ถ้าเกิดให้เธอสวมชุดๆนี้เข้าไปในงานเลี้ยง อย่างนั้น……
“เส่โยว แกเป็นอะไรไป?” คำถามของเสิ่นเฉียวทำให้เส่โยวได้สติกลับมา ตอนที่มองตาของเสิ่นเฉียว แววตาของเธอยังคงมีประกายของความสับสนอยู่ เธอส่ายหน้า “ไม่ ไม่มีอะไร ก็แค่แกสวมชุดๆนี้แล้วสวยมากๆ ทำให้ฉันตะลึงไปเลย”
เสิ่นเฉียวก้มหน้าอย่างเขินๆ ยื่นมือออกมาปิดตรงช่วงหน้าอกของตัวเองเอาไว้ “ฉันคิดว่าชุดๆนี้มันโป๊ไปหน่อย เปลี่ยนเป็นชุดอื่นไหม?”
“เปลี่ยนอะไรล่ะ ชุดนี้ก็ดีแล้ว” หานเส่โยวหมุนตัวออกไป “ฉันไปจ่ายเงิน”
เสิ่นเฉียวอยากดึงตัวเธอไว้ แต่ว่าหานเส่โยวเดินเร็วมาก
รอจนเสิ่นเฉียวเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วออกมา เธอก็ซื้อชุดทั้งสองชุดเสร็จแล้ว
“เฉียวเฉียว ฉันจัดการเอาชุดใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว ไปกัน”
เสิ่นเฉียวมองพนักงานอย่างงงๆ สุดท้ายก็ต้องตามเธอออกไป
หลังขึ้นรถ หานเส่โยวก็เอ่ยขึ้น “เพื่อป้องกันไม่ให้แกแอบเปลี่ยนชุด ดังนั้นฉันตัดสินใจว่าฉันจะเก็บชุดไว้กับตัวเอง พรุ่งนี้ตอนเที่ยงฉันจะไปหาแก ถึงตอนนั้นค่อยเอาชุดไปให้แกนะ”
“เส่โยว……”
“เถอะน่า~ฉันไปส่งแกที่ประตูบ้าน”
หานเส่โยวมาส่งเธอจนถึงประตูบ้านของบ้านตระกูลเย่ แล้วพบกับเย่โม่เซินที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทเข้าพอดี
หานเส่โยวพอเห็นเย่โม่เซินเข้า เธอก็มองเขาอยู่แป๊บหนึ่ง เสร็จแล้วก็โบกมือทักทาย “คุณชายเย่!”
เย่โม่เซินไม่แม้แต่จะมอง แต่อยู่ๆก็คิดอะไรขึ้นได้ อยู่ๆร่างของเขาก็หยุดลง
วินาทีถัดไปก็หันมา สายตามองผ่านเสิ่นเฉียว มาหยุดลงบนใบหน้าหานเส่โยว แล้วก้มหัวเบาๆ
รอยยิ้มบนใบหน้าของหานเส่โยวนิ่งไป แล้วก็เปลี่ยนเป็นเปล่งประกาย
“คุณชายเย่ ฉันมาส่งเสิ่นเฉียวค่ะ”
“อือ” เย่โม่เซินตอบว่าอือ ก็ถือว่ารับรู้แล้ว
หลังจากนั้นเขาก็กลอกตาไปมา อยู่ๆก็พูดขึ้น “ดึกมากแล้ว ให้เซียวซู่ไปส่งคุณเถอะครับ”
“คะ? ไม่เป็นไรค่ะ!ฉันขับรถกลับไปเองได้ค่ะ” หานเส่โยวตอบด้วยความเกรงใจ
เซียวซู่ที่ได้ยินคำสั่งของเย่โม่เซิน ทำได้แค่เดินมาด้านหน้า “คุณหนูหาน ผมไปส่งครับ”
อย่างนี้ หานเส่โยวถึงได้ส่งกุญแจรถให้กับเขา “อย่างนั้นก็รบกวนผู้ช่วยเซียวด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณหนูหานมาส่งคุณนายน้อยสอง ในฐานะผู้ช่วยของคุณชายเย่ ผมไปส่งคุณหนูหานก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ” เซียวซู่รับกุญแจมาเงียบๆแล้วเอ่ยขึ้น
คำพูดนี้ ทำให้สีหน้าของหานเส่โยวเปลี่ยนไป
“ไปกันเถอะครับ คุณหนูหาน”
เซียวซู่ไปส่งหานเส่โยว เสิ่นเฉียวยืนมองรถที่ห่างออกไปเรื่อยๆอยู่ที่เดิม ได้ยินเสียงรถเข็นขยับไปอยู่ทางด้านหลัง หันไปก็เห็นว่าเย่โม่เซินไถรถเข็นตัวเองเข้าไปแล้ว
เธอคิดอะไรได้ รีบเดินตามไป
“ดีๆอยู่แล้ว คุณสั่งให้เซียวซู่ไปส่งหานเส่โยวคืออะไรกันคะ? ตกลงคุณคิดจะทำอะไร?”
เย่โม่เซินเข็นตัวเองไปด้านหน้าต่อไม่เอ่ยอะไรออกมา ราวกับว่าไม่ได้ยินเธอกำลังพูด
ในใจของเสิ่นเฉียวร้อนรน กัดริมฝีปากของตัวเองแล้วตามเขาไป “คุณบอกมาสิคะ ตกลงคุณทำอะไรกับเส่โยว?”
เวลาปกติเห็นเขามีน้ำใจกับคนอื่นเสียที่ไหน อยู่ๆวันนี้ก็สั่งให้เซียวซู่ไปส่งหานเส่โยว
เสิ่นเฉียวก้าวไปขวางหน้าเย่โม่เซินเอาไว้
“นี่คุณตั้งใจจะทำให้ฉันโมโหใช่ไหม? เพราะว่าฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้คุณกับเส่โยวสนิทกัน คุณตั้งใจสั่งให้เซียวซู่ไปส่งเธอต่อหน้าฉัน เย่โม่เซิน คุณมีความคิดนี้อยู่ใช่ไหมล่ะ?”