เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่236 ผมช่วยเธอทายา
คิดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะดูออกว่าเธอคิดอะไร เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา แล้วก็พูด: “ก็ทั้งสองอย่าง เป็นความเป็นห่วงในฐานะแม่เหมือนกัน และก็สงสารเธอที่เจอกับคนไม่ดี”
เจอคนไม่ดี
คำพูดนี้ถึงหูของเย่โม่เซินก็ดูแหลมคมขึ้น สายตาที่เขามองเสิ่นเฉียวก็เลยดูลึกขึ้น
“ตอนนี้เธอรู้แล้วหรอ ว่าเธอเจอคนไม่ดี?”
พอได้ยินแบบนี้ มือของเสิ่นเฉียวที่วางไว้บนตักก็กำแน่น ไม่พูดอะไร
“ถ้าให้โอกาสเธอเลือกอีกครั้ง เธอก็จะเลือกเก็บเด็กไว้?”
เย่โม่เซินถามแบบกะทันหัน เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้น จ้องสายตาที่ลึกซึ้งจองเขา “….ฉัน”
เธอต้องเก็บเด็กไว้แน่นอน
เด็กไม่เกี่ยวอะไรด้วย และก็ไม่ใช่ลูกของหลินเจียง
แต่ว่า….เป็นของคนแปลกหน้า
เริ่มแรกเธอเองก็ไม่คิดว่าจะท้อง ช่วงนั้นเธอก็รู้สึกคันตัวตลอด ไม่ใช่เพราะว่าหย่ากับหลินเจียงถึงเศร้าเสียใจ แต่เพราะว่ากลับมาในบ้านแล้วไม่มีคนดูแลสงสาร ถึงขั้นบังคับเธอแต่งงานอีก
หลังจากที่เธอแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลเย่ ถึงเพิ่งรู้ว่าท้อง แล้วพอตอนที่ไปตรวจก็เจอกับเย่โม่เซินพอดี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เสิ่นเฉียวเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
“ทำไม คำถามนี้ตอบยากมากเลยหรอ?” เย่โม่เซินพูดอย่างไม่พอใจ
เสิ่นเฉียวส่ายหน้า: “ไม่ใช่ ฉันบอกนายตอนนี้ได้เลย ถ้าให้โอกาสฉันอีกครั้ง ถึงแม้ว่านายจะไล่ฉันออกจากตระกูลเย่ ฉันก็จะเก็บเขาไว้”
พูดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็ยื่นมือจับตรงท้องไว้: “ที่นี่…ก็เป็นชีวิตนึง ฉันไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น อีกอย่างฉันก็อยากจะมีลูกสักคน”
เสิ่นเฉียวก้มหน้าลง บนใบหน้ามีรอยยิ้ม: “ต่อไปก็จะมีคนรักเพิ่มขึ้นอีกคน”
เย่โม่เซินเห็นใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอ ในสมองก็มีภาพของผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมา ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยเห็นเองกับตา แต่ก็สามารถคิดภาพที่ผู้หญิงคนนั้นลูบท้องของตัวเองได้ ตอนที่หนักแน่นกับความคิดที่จะคลอดเขา
แม่ ตอนนั้นแม่ก็คิดเหมือนเธอใช่ไหม?
“เพื่อผู้ชายที่เลวอย่างนั้น คุ้มหรอ?” เสียงของเย่โม่เซินต่ำลง เสิ่นเฉียวสังเกตเสียงมี่เปลี่ยนไปของเขา มองไปทางที่เขาอยู่ เห็นว่าสายตาของเย่โม่เซินมองไปทางไกล เหมือนกับว่ากำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความทรงจำ
เสิ่นเฉียวนึกถึงคำที่ส้งอานพูดกับเธอ
ท่าทางของเธอในเมื่อสักครู่….ทำให้เขานึกถึงแม่ของเขาหรอ?
“คุ้มสิ” สายตาของเสิ่นเฉียวอ่อนโยนขึ้น เธอยื่นมือออกไป วางไว้บนมือใหญ่ของเย่โม่เซิน พูด: “แค่ในใจหนักแน่นพอ ทุกอย่างก็คุ้มค่า”
มือเล็กๆเย็นๆ วางไว้บนมือของเย่โม่เซินทำให้เขาหันกลับมา มองสายตาที่อบอุ่นของเธอ ที่อ่อนโยน เหมือนดาวและดวงจันทร์บนท้องฟ้า ที่เตะตามาก
เย่โม่เซินขมิบตา สายตาหยุดลงตรงมือของเธอ
เสิ่นเฉียวถึงรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไป ในขณะที่เธอรีบร้อนเก็บมือ ท่าทางของเย่โม่เซินเร็วมาก จับมือเล็กที่เย็นของเธอไว้ จากนั้นก็บังคับจับมือเธอสอดประสาน
มือทั้ง10นิ้วประสานกัน
เสิ่นเฉียวตกใจตาโต สายตาที่อ่อนโยนใต้แสงไฟ ทำให้เย่โม่เซินมีความคิดหนึ่งขึ้นมา
อยากจะจูบเธอ
เขาเองก็ไม่ได้ควบคุมความคิดของตัวเอง ร่างใหญ่เอนตัวไปด้านหน้า ใบหน้าที่หล่อเหลาเข้าใกล้เธอ
ตอนที่ลมหายใจที่อุ่นๆเป่าโดนหน้าเธอ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกตัว ขยับตัวไปด้านหลังเล็กน้อย มองเขาด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น
เย่โม่เซินไม่ได้จูบเธอดังใจหวัง ก็พูดอย่างไม่พอใจ: “หลบอะไร?”
“ฉัน…….” หน้าของเสิ่นเฉียวร้อนแดง ไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไง มือข้างนึงของเย่โม่เซินอ้อมไปจับตรงคอเธอทันที กดหัวเธอกลับมา
ไม่รอให้เสิ่นเฉียวทันตั้งตัว เย่โม่เซินก็จูบเธอแล้ว
“อื้ม”
ครั้งนี้ เสิ่นเฉียวอยากจะหลบก็หลบไม่ได้แล้ว เพราะว่าเย่โม่เซินกดตรงหลังคอเธอไว้ มือใหญ่ทั้ง5นิ้วกดลงตรงผมของเธอไว้แน่น และมืออีกข้างนึงก็ประสานมือเธอเอาไว้ เสิ่นเฉียวขัดขืนไม่ได้เลย ได้แค่ปล่อยให้เขาทำอย่างตามใจ แล้วก็เม้มปากของเธอ
เซียวซู่ที่ขับรถอยู่ด้านหน้าก็สังเกตเห็นสถานการณ์ด้านหลัง แต่ว่าเขาก็ชินแล้ว เพราะว่าเย่โม่เซินเป็นคนที่ทำอะไรไม่ดูสถานที่สถานการณ์อยู่แล้ว และในตอนนี้ เขาต้องการทำว่าตัวเองเป็นมนุษย์ล่องหน ก็ได้แล้ว!
*
ตอนที่ถึงบ้านของตระกูลเย่ เสิ่นเฉียวดันเย่โม่เซินออกมาจากรถด้วยหน้าที่แดงมาก หน้าของเธอที่ขาวเนียนตอนนี้แดงหมดแล้ว ปากก็บวมแดง สายตาก็ดูเขิลอาย ดูแล้วก็รู้เลยว่าถูกรังแก
และเย่โม่เซินที่ถูกดันลงจากรถ ใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มเล็กน้อย และสายตาที่ได้ใจ
และภาพเหตุการณ์นี้ก็ถูกเย่หลิ่นหานเห็น แล้วเขาก็หยุดอยู่กับที่ ทันใดนั้นเขาที่อบอุ่นมีมารยาทในขณะนี้ก็ควบคุมตนเองไม่ได้ ทำหน้าบึ้งตึงมองดูพวกเขาสองคนเข้ามา สายตาอันมืดมนนุ่มลึกของเขาจ้องเขม็งเห็นเงาทั้งสองคนในชั่วครู่ เขาถึงจะเดินจากไปอย่างไม่พอใจ
หลังจากที่เข้าไปในห้อง เสิ่นเฉียวก็รีบเอาสูทบนตัวคืนให้เขา จากนั้นก็ไปหาเสื้อของตัวเอง เตรียมจะเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เย่โม่เซินจ้องเธอไว้: “ลืมคำที่น้ากำชับหรอ แผลของเธอ2วันนี้ห้ามโดนน้ำ”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็หยุดเดิน เหมือนว่าส้งอานจะกำชับไว้ แต่ว่า…ไม่อาบน้ำจะนอนยังไง?
“ทนไว้”
เหมือนว่ารู้ว่าเธอคิดอะไร เย่โม่เซินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
เสิ่นเฉียวทำหน้าเศร้า วันนึงทนได้ สองสามวันจะทนได้ยังไง?
คิดไม่ถึงว่าแผลบนตัวจะหนักขนาดนี้ แม้แต่น้ำก็โดนไม่ได้
“กลางคืนค่อยมาทายา” เย่โม่เซินพูด
“ทา ทายา?”
“ทำไม? วันละ2ครั้ง เธอไม่รู้หรอ?” เย่โม่เซินเอายาออกมาจากกระเป๋าที่ส้งอานเอาให้เขา เอาไว้บนมือ
ทั้งตัวของเสิ่นเฉียวเป็นแต่รอยแผล งั้นก็ต้องถอดเสื้อต่อหน้าเขา ถอดเสื้อ?
พอนึกถึงว่าต้องถอดเสื้อต่อหน้าเขา หน้าของเสิ่นเฉียวก็แดงขึ้น เดินไปจะเอายาจากเขา: “ฉันทาเองเถอะ”
คิดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะเก็บมือไป มองเธอ: “เธอทาข้างหลังได้หรอ?”
เสิ่นเฉียว: “……”
ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายเสิ่นเฉียวเองก็เงียบ ทำได้แค่ตกลงให้เขาทาให้
“ถอดเถอะ” เย่โม่เซินออกคำสั่ง
เสิ่นเฉียว: “……หรือว่า หาคนใช้ทาให้ฉันไหม?”
เธอยังคงขัดขืน เธอไม่สามารถถอดเสื้อต่อหน้าเย่โม่เซินได้
เย่โม่เซินยกคิ้ว ยิ้มอ่อนๆ: “ฉันทายาให้เธอเอง เธอยังรังเกียจหรอ?”
เสิ่นเฉียวกัดปาก ทำหน้าน่าสงสาร เธอไม่ได้รังเกียจ เธอก็แค่เก้อเขิน
“รีบถอดเถอะ” เย่โม่เซินมองหน้าเล็กๆของเธอที่บึ้งตึง ในใจก็รู้สึกสนุกขึ้นมา ก็รีบเร่งเธออย่างขบขัน