เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่336 ฝันร้าย
ถ้าหากเธอปฏิเสธไปอย่างตรงไปตรงมา เขาในฐานะที่เป็นพี่ชายก็คงจะเสียใจ
ดังนั้นสุดท้ายแล้วเสิ่นเฉียวจึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา จึงถือว่าเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
หานชิงไม่ได้ใช้เวลาอยู่นาน หลังจากที่เห็นว่าเธอกินข้าวต้มเสร็จแล้วนั้น เขาก็กลับออกไป โดยก่อนที่จะไปจึงเอ่ยขึ้นมา : “ฉันส่งคนให้มาคอยดูแลความปลอดภัยของเธอบริเวณใกล้ๆนี้ อย่างเมื่อกี้นี้ที่ยังดูไม่ชัดว่าใครมา แล้วก็เปิดประตูห้องให้เลยแบบนี้อย่าทำอีกนะ”
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะในหัวของเธอกำลังสับสนวุ่นวาย ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้นถึงได้ทำเรื่องแบบนั้นไป หลังจากนั้นนับว่าโชคดีที่คนที่มานั้นคือหานชิง ถ้าหากเป็นคนที่คิดอยากจะทำร้ายเธอ คืนนี้เธออาจจะแย่แล้วก็ได้
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีข้อคิดเห็นที่แย้งไป แล้วพยักหน้ารับ : “ฉันทราบค่ะ”
หลังจากที่หานชิงกลับไปแล้วนั้น เสิ่นเฉียวจึงปิดประตูแล้วกลับมาตรงเตียง พบว่าโทรศัพท์มือถือของตัวเองนั้นกำลังชาร์ตแบตอยู่ และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนตู้ตรงหัวเตียง
ภายนอกดูเหมือนจะไม่ใช่ของใหม่ เสิ่นเฉียวที่เพิ่งจะหยิบออกมานั้น ก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ปลิวลงมา ด้านบนนั้นมีรหัสล็อกอินเข้าเครื่องเขียนไว้
เธอล็อกอินเข้าไปเหมือนกับคนที่มีพฤติกรรมไม่ปกติ แล้วพบว่าตรงหน้าจอนั้นยังคงมีข้อมูลที่ยังไม่จัดการอยู่บ้างเล็กน้อย
นี่…..คืองานของหานชิงอย่างนั้นหรือ?
ไม่คิดว่าเขาจะเอามาให้ตัวเองแบบนี้? เขาเองก็ไม่กลัวว่าเธอจะเห็นข้อมูลความลับทางธุรกิจเข้าเลยหรือไงกัน?
หรือจะว่าไป เป็นเพราะหาตัวน้องสาวเจอแล้ว ดังนั้นจึงใช้ความคิดทั้งหมดนี้กับเธอ เรื่องอื่นก็ไม่ได้สนใจแล้วอย่างนั้นหรือ?
คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเสิ่นเฉียวนั้นก็เริ่มรู้สึกสับสนวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง เธอปิดเครื่องลง หลังจากนั้นจึงวางกลับไปที่เดิม รอจนโทรศัพท์มือถือชาร์ตจนเกือบเต็มแล้ว เสิ่นเฉียวถึงได้เปิดเครื่องขึ้น
พอเปิดเครื่องก็มีสายเข้าและข้อความจากเสี่ยวเหยียนปรากฏขึ้นมาทันที จากตัวอักษรที่พิมพ์มานั้นก็สามารถดูออกได้ถึงความเป็นกังวลของเสี่ยวเหยียน เสิ่นเฉียวจึงโทรกลับหาเธอ
ตอนที่โทรกลับไปนั้นทันใดนั้นเองเสิ่นเฉียวก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอโทรไปใครจะรับสายเธอกัน?
และเมื่อเสิ่นเฉียวกำลังจะวางสายไปนั้น ปลายสายก็รับขึ้นมาเสียก่อน
“ฮัลโหล? เฉียวเฉียวใช่ไหม?” เสียงของเสี่ยวเหยียนนั้นดูร้อนใจมาก
เสิ่นเฉียวรู้สึกแสบจมูกแปลกๆ แล้วตอบกลับ : “ฉันเอง”
“ใช่เธอจริงๆใช่ไหม? เธอไม่เป็นอะไรนะ? เฉียวเฉียว……เธอรู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็นห่วงเธอมากนะ ฉันเพิ่งจะหันออกไปคุยโทรศัพท์เธอก็หายไปแล้ว ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง? อยู่ที่ไหนน่ะ?”
“ไม่ต้องกังวลหรอก” เสิ่นเฉียวอธิบายอย่างเรียบง่าย : “ตอนนี้ฉันอยู่โรงแรม ฉันไม่เป็นอะไร เพียงแต่……ฉันอยากจะอยู่เงียบๆคนเดียวน่ะ ถึงได้เดินออกมาเอง ทำให้เธอเป็นห่วง ขอโทษนะ”
เสี่ยวเหยียนถอนหายใจออกมา : “แน่นอนว่าฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าเธออยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว แต่ในสถานการณ์แบบนั้นฉันเองก็กลัวมากเลยนะ จนถึงตอนนี้เธอถึงได้โทรหาฉัน นับว่ายังดีนะที่เธอยังนึกถึงฉันอยู่บ้าง ถ้าคืนนี้เธอไม่โทรมารายงานความปลอดภัยของตัวเอง คาดว่าคืนนี้ทั้งคืนฉันคงไม่ต้องนอนแล้วล่ะ”
“เอาน่า ตอนนี้ฉันก็โทรมารายงานความปลอดภัยกับเธอแล้วไง ดึกแล้วเธอพักผ่อนเถอะ”
“ไม่ได้! เธอส่งที่อยู่เธอมาให้ฉันหน่อย ให้ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนฉันถึงจะนอนหลับได้อย่างสบายใจ”
ในใจของเสิ่นเฉียวนั้นรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เธอพยักหน้า : “รู้แล้ว เดี๋ยววางสายจากเธอแล้วฉันจะส่งที่อยู่ไปให้นะ”
“เธอวางตอนนี้เลยแล้วก็ส่งตอนนี้ด้วยนะ”
ติ๊ด!
ทางฝั่งนั้นวางสายเธอแล้ว เสิ่นเฉียวยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองก็ได้ยินเสียงสายไม่ว่างไปเสียแล้ว หลังจากนั้นเธอจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องล็อคอินเข้าwe chat หลังจากนั้นก็แชร์ที่อยู่ตัวเองให้กับเสี่ยวเหยียน
หลังจากที่ได้รับการแชร์ตำแหน่งที่อยู่ของตัวเองแล้วนั้น เสี่ยวเหยียนถึงได้วางใจ
แล้วก็มีคำพูดเตือนเธอให้ระวังเรื่องความปลอดภัยตามมาอีก มิเช่นนั้นเผื่อมีคนมาทำอะไรในห้องเธอ ทั้งสองคนถึงได้สิ้นสุดบทสนทนาลง
สมบุกสมบันมาทั้งวัน เสิ่นเฉียวเองก็เหนื่อยมากเช่นกัน ประกอบกับช่วงนี้ร่างกายของเธอนั้นดูจะขี้เซาอยู่บ้าง ดังนั้นตอนนี้เธอเองก็ง่วงเสียจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว หลังจากที่วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ในความฝันนั้นก็ยังคงไม่สวยงามเช่นเคย หรือแม้กระทั่ง…..โหดร้ายเสียจนเธออยากจะตื่นขึ้นมาเสียเลย
“หลังจากวันนี้เป็นต้นไปพวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีก เซ็นชื่อในหนังสือสัญญาหย่าแล้ว เธอก็ไม่ใช่คุณนายน้อยสองของตระกูลเย่อีกแล้ว”
“ไสหัวไปซะ ผู้หญิงมือสองแบบเธอ ฉันเย่โม่เซินจะชอบลงได้อย่างไร?”
“ฉันท้องลูกของโม่เซิน ส่วนเธอท้องลูกนอกคอก เฉียวเฉียว เธออยากจะแข่งกับฉันล่ะก็ เธอไม่มีทางเทียบฉันได้หรอก”
ความฝันทั้งคืน ในที่สุดเสิ่นเฉียวก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นภายในห้องนั้นมีแสงสว่างไปทั้งห้อง แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง เสิ่นเฉียวเอามือสัมผัสหน้าผากของเธอ เต็มไปด้วยเหงื่ออย่างที่คิดไว้จริงๆ
เธอลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน หลังจากนั้นก็เดินออกมา
และรอจนกระทั่งเธออาบน้ำเสร็จแล้วนั้นก็ได้ยินเสียงออดตรงประตูดังขึ้น เสิ่นเฉียวมองดูเวลา พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว เธอเดินมาตรงหน้าประตูเดิมทีที่คิดจะเปิดประตูนั้น เธอก็นึกถึงคำพูดของหานชิงที่พูดกับเธอเอาไว้เมื่อคืน จึงส่องดูด้านนอกตรงตาแมวที่ประตูก่อน พบว่ามีผู้หญิงหน้าตาใจดีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
เธอชะงักไปแล้วจึงเปิดประตูออก
“มาหาฉันหรือคะ?”
“คุณหนู ตื่นแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วโบกถุงที่อยู่ในมือไปมา : “ฉันมาส่งอาหารเช้าให้คุณหนูตามคำสั่งของคุณหานค่ะ”
เป็นอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆว่าจะให้คนมารับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อของเธอ ไม่คิดว่าเขาจะเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว แต่…..เมื่อวานตอนที่เธอมาที่โรงแรมนี้ก็ดึกมากแล้ว แต่หานชิงกลับจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้วอย่างนั้นหรือ
เขาได้นอนตอนกลางดึกอย่างนั้นหรือ?
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสิ่นเฉียวจึงหันกลับไปแล้วเอ่ยพูดขึ้น : “ขอบคุณค่ะ เข้ามาด้านในก่อนสิคะ”
ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา สายตาของเธอนั้นก็ไม่ได้มองไปทั่วเช่นกัน หลังจากที่เข้ามาแล้วก็เปิดถุงเหล่านั้นออก แล้วจึงเอากล่องอาหารออกมาวางเรียงกันไว้บนโต๊ะ พลางเอ่ยขึ้น : “เป็นครั้งแรกที่ได้มาดูแลคุณหนู ก็เลยจะยังไม่รู้อาหารที่ถูกปากของคุณนะคะ แต่คุณหนูเสิ่นชอบอะไรรสชาติแบบไหนก็บอกฉันมาได้เลยนะคะ ฉันทำให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้หรอกค่ะ เรียกฉันว่าป้าเหลียนก็ได้นะคะ”
“ขอบคุณนะคะป้าเหลียน นอกจากรสหวานแล้ว…..รสชาติอื่นฉันทานได้หมดไม่ค่อยเลือกอยู่แล้วค่ะ”
ป้าเหลียนพยักหน้าพลางยิ้ม : “ได้ค่ะ ป้าเหลียนจะจำไว้นะ คุณหนูเสิ่นเพิ่งตื่นนอนใช่ไหมคะ? ล้างหน้าบ้วนปากแล้วหรือยังคะ?”
“ค่ะ”
“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นอาหารเช้าป้าเอาวางไว้บนโต๊ะนี่นะคะ คุณหนูเสิ่นมีของใช้ส่วนตัวอะไรที่จะให้ป้าช่วยไปซื้อให้หรือเปล่าคะ?”
“ขอบคุณนะคะป้า ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจำเป็นหรอกค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นป้าเหลียนไปก่อนนะคะ”
“กลับดีๆนะคะป้าเหลียน”
ป้าเหลียนที่เดินไปได้เพียงแค่นิดเดียวนั้น จู่ๆเสิ่นเฉียวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงร้องเรียกเธอไว้ ป้าเหลียนที่ไม่เข้าใจจึงชะงักเท้าของตัวเองไว้ “คุณหนูเสิ่น?”
เสิ่นเฉียวลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงข้างๆหัวเตียงหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คขึ้นมาใส่ลงในกระเป๋าแล้วยื่นส่งให้ป้าเหลียน “นี่ของคุณหานค่ะ…..เมื่อคืนเขาทิ้งเอาไว้ที่นี่ ฝากป้าเหลียนช่วยฉันเอาไปคืนให้เขาหน่อยได้ไหมคะ?”
ได้ยินแล้วนั้น ป้าเหลียนก็มองไปยังคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แล้วยิ้มออกมาพลางเอ่ยขึ้น : “คอมพิวเตอร์ของคุณหานป้าไม่กล้าเอาไปคืนให้เขาแทนคุณหนูเสิ่นหรอกค่ะ ยกโทษให้ป้าด้วยนะคะ มือหยาบๆอย่างป้า ปกติแล้วก็เป็นคนทำแต่งานหยาบๆ ถ้าทำคอมพิวเตอร์หล่นพังไป….”
ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เสิ่นเฉียวก็เข้าใจว่าเธอกำลังปฏิเสธตัวเองแบบอ้อมๆ คิดแล้วเธอเองที่ไม่รอบคอบ ถ้าหากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เป็นเครื่องที่หานชิงใช้ทำงานจริง ไม่แน่ว่าในเครื่องนี้จะต้องมีความลับอะไร เธอไม่ควรที่จะเอาให้คนอื่นไปแบบนั้นจริงๆ