เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่420 ผมตอนนี้แค่อยากเจอคุณ
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่420 ผมตอนนี้แค่อยากเจอคุณ
บทที่420 ผมตอนนี้แค่อยากเจอคุณ
“ไม่สะดวก”
เย่โม่เซินปฏิเสธเธอตามตรง
“ผมตอนนี้แค่อยากเจอคุณ”
ประโยคเดียว ทำให้หานมู่จื่อจิตใจสั่นไหว ปวดขมับขึ้นมาด้วย
“บอกสถานที่มา ผมจะไปรับคุณเอง”
“นายเย่”
“อยากรู้ว่าตอนนี้คุณอยู่ไหน ไม่ใช่เรื่องอยาก” เย่โม่เซินหัวเราะเสียงต่ำ “แต่ว่า คุณแน่ใจนะ?”
หานมู่จื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ยกยิ้มเล็กน้อย “บอกที่อยู่ฉันมา ฉันจะเรียกรถไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เธอก็ตัดสายทันที
ไอ้บ้าเย่โม่เซิน!
หานมู่จื่อโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาตั้งใจตั้งแต่แรก!
ไม่ผิดหรอก อย่างเย่โม่เซินที่สามารถปกคลุมท้องฟ้าของเมืองเป่ยได้ เขาสามารถตรวจสอบที่พิกัดของเธอตอนนี้ได้แน่ แต่เธอยังพาเสี่ยวหมี่โต้วมาด้วย และเธอไม่อยากให้เย่โม่เซินรับรู้ถึงการมีอยู่ของเสี่ยวหมี่โต้ว
ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วทำได้แค่ประนีประนอม
หลังตัดสายไป หานมู่จื่อจัดการเก็บอารมณ์ตัวเอง จากนั้นค่อยเดินไปด้านหน้า
“มีอะไรเหรอ? เช้าขนาดนี้ใครโทรมา?”
หลังจากเดินเข้าไปใกล้ หานซิงก็ไต่ถามทันที
หานมู่จื่อหัวเราะเสียงเบา “ไม่มีอะไร ก็แค่ลูกค้าคนหนึ่ง”
“ลูกค้า? ช่วงนี้บริษัทยุ่งมากเหรอ?”
“ก็พอได้ ต้อนรับนักแสดงหญิงคนหนึ่งแล้ว ก็ได้รับลูกค้าจากการแนะนำมากมาย”
หานซิงพยักหน้า: “ก็ดี ถือว่าเริ่มต้นได้ดี”
“พี่ เสี่ยวเหยียน ฉันมีธุระต้องไปก่อน ฝากพวกพี่ดูแลเสี่ยวหมี่โต้วหน่อย”
เสี่ยวเหยียนเดิมทีจ้องเธออย่างอยากรู้อยากเห็น พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าตกใจถอดสีทันที รีบเดินมาลากเธอไปอีกด้าน
“เกิดอะไรขึ้น? เย่โม่เซินเรียกเธอไป?”
หานมู่จื่อยักไหล่เชิงว่าตัวเองก็จนใจ
เสี่ยวเหยียนพูดอย่างโมโห “ถ้าเธอไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเหลือแค่ฉันกับพี่ชายของเธอเหรอ? มันอึดอัดจะตาย”
ฟังแล้ว หานมู่จื่อก็พอใจ “นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ? อยู่กันลำพัง โอกาสเยอะ”
พูดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อเอื้อมมือไปตบบ่าเสี่ยวเหยียน พลางขยิบตา “สู้ๆ ฉันเอาใจช่วยเธอ”
“อา มู่จื่อเธอชักจะเกินไปแล้ว!” เสี่ยวเหยียนถูกเธอหยอกล้อสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที กัดริมฝีปากล่างของเธอ “พี่ชายเธอไม่ชอบฉัน ยิ่งกว่านั้น…..ฉันครั้งก่อนทำขายหน้าต่อหน้าเขายังเห็นอยู่รางๆ อยู่เลย ฉัน…..ฉันตอนนี้ไม่มีหน้าไปเผชิญหน้าเขาหรอก”
“แล้วแต่เธอเลย อย่างไรก็ตามพี่ชายก็ยังโสด ถ้าเธอกล้าอีกนิดอาจจะมีโอกาสก็ได้ เผื่อว่าวันหนึ่งเขาอยากแต่งงานขึ้นมา ถึงตอนนั้น…..อาจไม่มีโอกาสแล้ว”
คุยๆ อยู่โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา หานมู่จื่อมองแวบหนึ่งเป็นข้อความเข้าจากเย่โม่เซิน
“โอเค ได้ที่อยู่แล้ว ฉันตอนนี้ต้องรีบไป เสี่ยวหมี่โต้วกับพี่ชายฉันต้องฝากเธอ โทรศัพท์ให้ฉันยืมก่อนนะ”
“โอเค งั้นเธอรีบกลับมาเร็วๆ มีเรื่องอะไรจำไว้ให้โทรเข้าหาพี่ชายเธอ”
“รู้แล้ว”
หานมู่จื่อเดินออกจากโรงเรียนจากนั้นเดินไปริมถนนเพื่อโบกรถ รอจนขึ้นนั่งบนรถแล้วเธอถึงเปิดดูสถานที่
แต่หลังจากเห็นที่อยู่แล้ว หานมู่จื่อประกายแววตาหายไปทันที
วิลล่าไห่เจียง…..
นี่คือที่พักของเธอเมื่อห้าปีก่อน
สี่คำนี้ปรากฏในสายตาของหานมู่จื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดกลับเข้ามาในสมองเธอ สาดเข้ามา จากนั้นระเบิดไป
“คุณผู้หญิง? คุณผู้หญิง?”
คุณลุงคนขับเรียกเธอ
หานมู่จื่อสติถึงกลับมา
“จะไปไหน?” คุณลุงคนขับมองท่าทางเธอไม่ค่อยมีสติก็เป็นกังวล
หานมู่จื่อบอกที่หมายไป
แล้วเธอก็เงียบไป หลังจากปิดโทรศัพท์แล้ว มองออกไปด้านหน้าต่างใจลอยไปไกล
วิลล่าไห่เจียง
ทำไมเขาถึงเรียกเธอไปที่นั่น? เพราะเคยอยู่ที่นั่น ดังนั้นเขาเลยเรียกเธอไปที่นั่น ตั้งใจทำให้เธออับอายเหรอ?
เดิมทีเพราะเขาช่วยตัวเองเมื่อวานนี้ และอารมณ์ที่แกว่งไปแกว่งมาที่เกิดขึ้นกับเขานั้นได้หายไปจนหมดแล้ว หานมู่จื่อนัยน์ตาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นราวหิมะ แม้กระทั่งคนขับรถยังรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบลดลงไปไม่น้อย พูดอย่างอึดอัดออกมาประโยคหนึ่ง
“แปลก เมื่อกี้ยังร้อนไม่ไหว ทำไมอยู่ๆ ถึงรู้สึกหนาว…..หรือว่า เปิดแอร์แรงไป?”
“คุณผู้หญิง คุณหนาวไหม? ต้องการให้ปรับแอร์ไหม?”
ไม่มีใครตอบคำถามเขา คนขับรถเหลือบมองคนข้างหลังผ่านกระจกมองหลัง
เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้กำลังคิดอะไร
แปลกคนเสียจริง
คนขับรถคิดอย่างอึดอัด
ถึงวิลล่าไห่เจียงแล้ว หานมู่จื่อก็จ่ายค่ารถแล้วจากรถ
ผ่านไปห้าปีแล้ว คนเฝ้าหน้าประตูของวิลล่าไห่เจียงได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ล้วนแปลกหูแปลกตา
ตอนหานมู่จื่อเดินผ่านไป คนพวกนั้นยังเอาแต่จ้องมาที่เธอ
“เธอเป็นใคร? มาทำอะไร?”
หานมู่จื่อสีหน้าไม่เปลี่ยน ตอบเสียงเย็น “นักออกแบบShellyของบริษัทจื่อชวน ฉันนัดกับนายเย่ไว้แล้ววันนี้มาคุยธุระ”
เธอพูดตามความจริง แต่พวกเขานั้นกลับยังสบตากันอย่างสงสัย: “พวกเราไม่ได้รับแจ้งมา หรือคุณจะมาผิด?”
หานมู่จื่อเสียงเย็นชา: “คุณเข้าไปถามก็รู้แล้ว ฉันจะรออยู่ตรงนี้”
พูดจบ หานมู่จื่อจึงพาตัวเองไปยืนรออีกด้าน
เธอท่าทางไม่ร้อนรนเหมือนผู้หญิงที่ปกติมาติดต่อหาเย่โม่เซินเลยสักนิด บวกกับหน้าตาของเธอกับนิสัยก็ยอดเยี่ยม ไม่น่าจะใช่ประเภทที่จะมาประจบเพราะหวังเงินหรอก
จึงมีคนเข้าไปสอบถามให้
ริมทะเลลมแรงมาก หานมู่จื่อสวมชุดกระโปรงผ้าถักอยู่ตรงนั้น ดูเงียบสงบมาก
และผมดำขลับที่ไม่ทันได้รวบมัดปลิวไปตามลม สยายโค้งดูสวยงามในอากาศ
ทุกคนผงะเล็กน้อย
ผ่านไปไม่กี่นาที คนที่เข้าไปสอบถามวิ่งออกมา หอบเล็กน้อย
“คุณผู้หญิงท่านนี้ พวกเราจะพาคุณเข้าไปเอง”
“ขอบคุณ”
หานมู่จื่อหมุนตัวกลับมา ท่าทางเหมือนหุ่นไม้ที่โดนเชิดเดินไปข้างหน้า ใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้ม ดูแล้วเย็นชา แต่….ก็งดงามมาก
รอเธอไปแล้ว หลายคนอดไม่ได้ที่จะซุบซิบกัน
“เรื่องอะไรกัน? คุณชายเย่เรียกคนมาคุยงานตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เธอโง่เหรอ? คุยงานก็แค่บังหน้า คุณชายเย่ของพวกเราอยากเป็นส่วนตัวหรือเปล่า”
“นั่นก็ยิ่งแปลก คุณชายเย่ไม่ใช่ว่าไม่ใกล้ชิดผู้หญิงเหรอ? หลายปีมานี้มีผู้หญิงก้าวเข้ามาที่ไหน…..”
“ใครบอกว่าไม่ใกล้ชิดผู้หญิง? พวกเขากลุ่มก่อนหน้านี้ยังอยู่เคยพูดว่า ห้าปีก่อนที่นี่เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งพักที่นี่ นั่นคุณชายเย่ประคบประหงมราวไข่มุกล้ำค่า เพียงแต่ว่า…..ตอนนั้นคงเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นอีกเลย แต่ว่าวันนี้ดูแล้ว คุณชายเย่ของพวกเราไม่ใกล้ชิดผู้หญิงที่ไหน สายตายังดีอยู่ต่างหาก”
“……ที่พูดก็ใช่ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดูดี แต่ว่า…..เย็นชาไปนิด”
“เฮ้อ เธอจะรู้อะไร…..ไม่แน่ว่าคุณชายเย่ชอบคนสวยเย็นชาก็ได้”
และหานมู่จื่อที่ไม่รู้ตัวว่า ตัวเองนั้นได้กลายเป็นหัวข้อของบทสนทนา ยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างประหม่า