เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 15 ผู้สร้างความอับอาย
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 15 ผู้สร้างความอับอาย
ความรู้สึกแบบนั้นหายวับไปในทันที ก่อนที่สายตาของมาร์ค เทรมอนต์ จะกลับสู่ความห่างเหินเหมือนดั่งเคย ตาของเธอเล่นตลกกับเธอหรือเปล่า?
“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า? เสียงของเขาไร้อารมณ์เสมอ
แอเรียน วินน์ ส่ายหัว เมื่อเห็นว่ามือของเขาอยู่เหนือตัวเธอ ความอุ่นก็พุ่งเข้ามาที่หน้าเธอ
“ฉันไม่เป็นไร… ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมาที่มหาวิทยาลัย ฉันทำให้คุณเดือดร้อน”
ทำให้เขาเดือนร้อน? มาร์ค เทรมอนต์ ขมวดคิ้ว “ไม่อยากทำให้ผมเดือดร้อน แต่คนอื่นเดือนร้อนก็ไม่เป็นไรใช่ไหม? ไม่จำเป็นต้องทำให้ดูอนาถใจเลย การขออะไรบางอย่างจากผมมันทำให้คุณค่าในตัวคุณลดลงเหรอ?”
แอเรียนกัดริมฝีปากของเธอด้วยความกลัว เขาโกรธอีกแล้ว…
หลังจากนั้นไม่นานมาร์ค เทรมอนต์ ก็ลุกขึ้นเพื่อดูวิตามินที่ใกล้จะหมดนั้นแล้วเรียกให้พยายาลเอาออก เขาไม่ละสายตาไปจากแอเรียนและพูดอย่างเย็นชาว่า “กลับกันเถอะ”
แอเรียนพลิกผ้าห่มแล้วดึงตัวเองขึ้นมา แต่รอยช้ำที่มือของเธอหลังจากการเจาะให้วิตามินทำให้เธอตัวสั่นในทุกท่วงท่า
มาร์ค เทรมอนต์ ถอดเสื้อโค้ทของเขาและโยนมันให้กับเธอ การเคลื่อนไหวของเขาสุดจะหยาบกร้านก่อนที่เขาจะก้มลงเพื่อช่วยสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวของเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่ผิดพลาด
เมื่อมองไปที่เสื้อโค้ทในตัวของเธอและรองเท้าผ้าใบบนเท้าของเธอ แอเรียนถึงกับชะงัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอะไรแบบนี่กับเธอ แม้ว่ามันจะดูอ่อนโยนน้อยที่สุด และเธอก็ยังรู้สึกราวกับว่ามีอย่างหลุดออกจากใจของเธอไป…
เธอออกจากความมึนงงและออกมาจากตึกคนไข้ มาร์ค เทรมอนต์ก็อยู่ข้างหน้าไม่ไกลจากเธอ ขณะที่เขายืนอยู่ตรงสุดทางเดินเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอที่ใกล้เข้ามาและเขาก็ยังคงเดินนำหน้าไป
คนที่ถูกทิ้งไว้ขางหลัง พวกเขาออกจากโรงพยาบาล มาร์ค เทรมอนต์ เข้ามาที่นั่งด้านคนขับรถ แอเรียนเปิดประตูหลังและเข้าไปนั่ง เสียงของมาร์ค เทรมอนต์แหบพร่า “มานั่งข้างหน้า”.
ไม่กล้าที่จะรอข้า เธอเด้งตัวเองย้ายไปนั่งที่เบาะหน้า เมื่อเธอคาดเข็มขัดนิรภัย มาร์ค เทรมอนต์ ก็เหยียบคันเร่ง
ความเร็วในการขับทำให้หัวใจของเธอเสียววาบ แอเรียนมองไปข้างหน้าด้วยความหวาดกลัว รู้สึกราวกับว่าพวกเขาจะพังทลายได้ในทุกวินาที เมื่อพวกเขาถึงที่ประตูคฤหาสน์เทรมอนต์ เธอก็รีบออกมาจากรถและอาเจียนข้างๆรถ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง มาร์ค เทรมอนต์ ก็กลับเข้าไปในบ้านแล้ว แอเรียนเข้ามาโดยผ่านประตูหลังและหยุดลงตรงทางเดินเมื่อเห็นแมรี่อยู่ในห้องครัว
“แอริ เธอกลับมาพร้อมท่านหรือเปล่า? ท่านเป็นยังไงบ้าง? วันนี้เขาดูโกรธมากเป็นพิเศษ บางทีอาจจะให้นิ้วกลางไปเลยก็ได้ถ้าเขาจะทำ”
แอเรียนไม่ได้พูดอะไร เพราะเขามักจะโกรธอะไรด้วยเหตุผลสุดประหลาดอยู่แล้ว
เวลาล่วงเลยไปกว่าบ่ายสองโมงแล้วและเวลาอาหารกลางวันก็ผ่านมานานแล้วเช่นกัน แอเรียนรู้สึกปั่นป่วนที่ท้อง เธอรีบเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อทำพาสต้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอคิดว่ามาร์ค เทรมอนต์ ก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกันเธอจึงทำเผื่อเขาด้วย
แอเรียนนำพาสต้าขึ้นไปที่ชั้นบนและเคาะประตูห้องของเขา
“พาสต้าไหมคะ?”
ไม่มีเสียงๆใดจากภายในห้อง แอเรียนหายใจอย่างผ่อนคลาย เธอหันหน้ามองลงไปที่ชั้นล่างและเปิดประตูที่อยู่ด้านหลังของเธอออกทันที
เธอหันกลับมาอีกครั้งและเห็นชายผู้ซึ่งยืนขวางอยู่กลางประตู
“คุณ…ต้องการพาสต้าไหมคะ?”
มาร์ค เทรมอนต์ ไม่ส่งเสียงใดๆ เขาเพียงมองไปที่แอเรียน ใบหน้าที่หล่อและเย้าย้วยของเขานั้นไร้ซึ่งอารมณ์
ไม่ตอบก็แปลว่าไม่ได้ปฏิเสธ แอเรียนนำพาสต้าไปวางไว้บนโต๊ะกาแฟและได้ยินเพียงเสียงปิดประตู หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นแบบพุ่งปรี๊ด
“ผมหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้นั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ใครก็ตามที่กล้าช่วยเหลือสิ่งต่างๆให้กับคุณ ผมจะทำให้พวกมันหายไปจากคุณ คุณขอได้เพียงแค่จากผมเท่านั้น!” ความโกรธที่ยังคงโหมกระหน่ำเข้ามา บางทีมันอาจจะปะทุขึ้นไปอีก
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ…” แอเรียนตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล
เห็นได้ชัดว่ามาร์ค เทรมอนต์ ไม่เชื่อในคำพูดของเธอเขาจึงสวนกลับไป “เข้าใจ? มั่นใจไหม? ที่ผ่านมาผมได้ทำให้มันชัดเจนแล้วใช่ไหม หรือผมไม่? การแอบไปทำงานพาร์ทไทม์ในขณะที่ตัวผมนั้นอยู่ต่างประเทศ ทุกคนจึงรู้ว่าคุณน่าเวทนา” เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยได้รู้ หลังจากที่เขาได้รู้ เขาก็แค่อยากจะเห็นว่าเธอจะอดทนไปได้นานแค่ไหนก่อนที่เธอจะมาขอร้องเขา…
“ขอโทษที่ทำให้คุณต้องอับอาย…”แอเรียนหมดสติไป เธอล้มลงสู่อ้อมกอดของเขา ผู้คนมากมายต่างเห็นพวกเขา เธอคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะถูกเผยออกมา เธอคิดไปเองว่าเขามองเธอว่าเป็นตัวสร้างความอับอายขายขี้หน้าให้กับเขา
ต่อหน้าสาธารณะชนเขานั้นดูไร้ที่ติ เขาทนกับข้อบกพร่องเหล่านั้นได้อย่างไรกัน?
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด มาร์ค เทรมอนต์ ก็หน้างอไปเลย เขาดึงเธอไปที่ข้างเตียงอย่างฉับพลันด้วยแรงที่มากพอจนเธอล้มลงไปบนเตียง