เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 352 รถสปอร์ตสีเงิน
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 352 รถสปอร์ตสีเงิน
ทิฟฟานี่มาถึงโดยรถแท็กซี่ แอเรียนตั้งใจว่าจะให้ทิฟฟานี่เอารถในโรงจอดรถมาขับสักคัน แต่ลุงเฮนรี่หายไปไหนก็ไม่รู้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสุ่มเลือกกุญแจมาจากลิ้นชักในห้องของเฮนรี่ เธอถือซุปไก่ท่ามกลางแดดร้อนระหว่างที่รอให้ทิฟฟานี่ขับรถออกมาจากโรงจอดรถ ทันใดนั้น เธอก็เห็นรถสปอร์ตสีเงินขับออกมาอย่างระยิบระยับท่ามแสงแดด โดยรวมแล้วมันดูน่าทึ่งมาก
เธอตะลึง มันคือรถสปอร์ตแบบสองที่นั่ง ความประทับใจแรกของเธอคือความเท่ห์ของมัน การได้ขับรถคันนี้ออกไปจะต้องยอดเยี่ยมที่สุด!
ทิฟฟานี่เหงื่อตกด้วยความตื่นเต้น “แอริ เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันขับคันนี้ไปส่งซุปไก่กับเธอ? ถ้ามาร์ครู้เข้าเขาจะฆ่าเธอไหม?”
แอเรียนเองไม่ได้เรื่องมากเรื่องรถอยู่แล้ว ขอให้มันขับได้ก็พอ เธอจึงขึ้นรถโดยไม่ลังเล “ไม่เป็นไรหรอก ขับ ๆ ไปเถอะ เขาอาจจะบีบคอฉัน แต่ไม่ใช่คอเธอ อีกอย่าง เราเอาซุปนี้ไปให้เขา เราไม่ได้ไปไกลสะหน่อย รถคันนี้… แพงเหรอ?”
ทิฟฟานี่พยักหน้าเหมือนไก่ที่กำลังจิกเม็ดข้าว ดวงตาสีอัลมอนด์ของเธอเปล่งประกายแวววาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข “ถูกต้อง ราคาไม่เบา ไม่เบาเลยแหละ มันเป็นรถที่ไม่สามารถหาเจอที่ไหนได้ ลิมิเต็ดอิดิชั่นระดับสากลเลย ถ้าเธอเอามันไปขาย เธอจะต้องได้ราคาที่ดีมาก ๆ แน่ ๆ ตอนเด็กตอนที่ฉันยังไร้เดียงสาอยู่ฉันเคยบังคับให้พ่อซื้อคันนี้ให้ฉัน พ่อฉันบอกว่าฉันกำลังจะฆ่าเขา…”
แม้ว่าแอเรียนจะอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ เทรมอนต์ มาเป็นเวลาหลายปี แต่เธอก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ทั่วโลกมามาก อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยเข้าใจเรื่องรถมากเท่าไหร่ ทำไมพวกมันถึงต้องแพงขนาดนี้? แน่นอน เธอไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของทิฟฟานี่ในตอนนี้ได้
แน่นอนว่าระหว่างทางพวกเธอได้เจอกับรถที่บีบแตรใส่มากมายเนื่องจากพวกเขาชื่นชมในรถของมาร์ค คันนึงแม้กระทั่งตามพวกเธอโดยไม่ยอมเลิกลา อย่างไรก็ตาม พวกเธอไม่สามารถเร่งความเร็วหนีได้เพราะว่ายังคงอยู่ในแถบชนบท ไม่อย่างนั้นพวกเธอคงจะสละรถคันนั้นหลุดไปแล้ว
ความทะนงของทิฟฟานี่เพิ่มขึ้นเยอะมากจนเธอแทบจะระเบิด “ช่างเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมยอด ฉันไม่เคยขับรถที่ดีขนาดนี้หรือรู้สึกอะไรที่ดีขนาดนี้มาก่อน ดูอย่างกับ Meserati ข้างหลังเราสิ มันตามเรามาตลอดทางเลย ฉันเห็นมาร์คเป็นคนที่ใจเย็นและสำรวมตลอด ไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนชอบอะดรีนาลีนขนาดนี้”
แอเรียนยิ้มโดยไม่พูดอะไร เธอสังเกตเห็นแล้วว่ารถที่จอดในโรงจอดรถส่วนใหญ่จะเป็นรถสปอร์ตทั้งนั้น แต่เธอไม่เคยเห็นมาร์คขับพวกมันเลย เขาน่าจะชื่นชอบพวกมันตอนที่เขาอายุน้อยกว่านี้ แต่พอเวลาผ่านไปและเขาเติบโตขึ้นเขาจึงไม่ค่อยได้ขับพวกมัน แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ชื่นชอบพวกมันแล้ว พวกมันน่าจะมีความหมายสำหรับเขา
พวกเขามาถึงที่โรงพยาบาลและกำลังเดินผ่านทางเดินสีขาว ทิฟฟานี่รู้สึกเกรงกลัวเมื่อเห็นบอดี้การ์ดข้างหน้าห้องของมาร์ค “แอริ ไปเลย ฉันจะไม่เข้าไป เดี๋ยวฉันรอข้างนอกนี่แหละ อ่ะ เอากุญแจรถไปด้วย ดูแลมันให้ดีนะ ฉันกลัวว่าฉันอาจจะทำมันหายโดยไม่ได้ตั้งใจ”
แอเรียนรับกุญแจมาและเดินเข้าห้องไป เธอคาดหวังว่ามาร์คจะยังคงนอนอยู่บนเตียงและเจ็บป่วยหลังจากได้รับอุบัติเหตุมาจนต้องการความช่วยเหลือ แต่ทว่า เขากลับนั่งได้แล้วและมิหนำซ้ำยังพิมพ์งานบนโน๊ตบุ๊คของเขาอีกด้วย
เขาเหลือบมองเธออย่างไม่สนใจเมื่อเห็นเธอเดินเข้าห้องมา “เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันจะไปช้อปปิ้งกับทิฟฟ์ ฉันเลยแวะเอาซุปไก่มาให้ แมรี่เป็นคนทำ ดื่มมันระหว่างที่มันยังร้อนอยู่นะ” เธอวางซุปไว้บนตู้ข้างหัวเตียง กุญแจที่เธอถือในมือกระทบกับปิ่นโตจนเกิดเป็นเสียง
มาร์คจ้องมองเธอด้วยหางตา สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีหน้าของคนอกหัก “เธอขับรถคันนั้นมาหรอ?”
“ใช่” เธอตอบอย่างจริงใจ “เฮนรี่ไม่อยู่ฉันเลยหยิบกุญแจเอง ฉันว่าน้ำมันมันน่าจะใกล้หมดด้วย เดี๋ยวฉันค่อยไปเติมให้”
“เอ่อ… อืม ตราบใดที่เธอมีความสุขก็ทำเถอะ” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปจ้องจอคอมพิวเตอร์ต่อ
เธออยากจะชักชวนไม่ให้เขาลุกขึ้นและทำงานโดยเร็วแบบนี้เพราะเขาควรจะใช้เวลาในการพักฟื้น แต่เธอก็กลัวว่าเขาจะอารมณ์เสียถ้าเธอพูดมากเกินไป เธอจึงไม่ได้พูดอะไรและนำหมอนไปหนุนหลังให้เขา “เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว อย่าลืมกินซุปด้วยล่ะ”
เขาไม่ตอบ แต่พอเธอถึงประตูเขาก็พูดขึ้นมาว่า “บอกทิฟฟานี่ให้ขับรถระวังด้วยนะ และอย่าได้ไปข่วนอะไร ถึงบ้านแล้วอย่าลืมล้างรถด้วย”
เธอเพิ่งจะรับรู้ได้ว่ารถคันนั้นมีค่ากับเขาขนาดไหน นี้จึงอธิบายได้ดีว่าทำไมตอนนั้นสีหน้าของเขาจึงได้แปลกไป “เข้าใจแล้ว”
ก่อนที่เธอจะได้ก้าวออกจากห้องเขาก็หยุดเธออีกครั้ง “เอิ่ม เรื่องนั้นน่ะ… ลืมมันเถอะ ถึงบ้านแล้วค่อยบอกให้ไบรอันเอามันไปล้างก็แล้วกัน เธอไม่ต้องทำหรอก อากาศมันร้อน อย่าออกไปข้างนอกบ่อยแล้วก็พยายามอย่ากินอะไรเย็น ๆ ด้วย”
แอเรียนหยุดก่อนที่หันกลับไปและจ้องมองเขา ริมฝีปากของเธอยิ้มอย่างเยาะเย้ย อยู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนเรื่อง “แอรี่มาหาคุณที่โรงพยาบาลด้วย แต่เธอไม่สามารถเข้ามาได้ เธอถามถึงคุณนะ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นห่วงคุณจริง ๆ คุณไม่อยากเจอเธอบ้างหรอ?”
เขาได้ยินความเยาะเย้ยในเสียงของเธอและรู้ว่าเธอกำลังทดสอบเขา เขาจ้องมองเธอด้วยหางตา “เธอกำลังพยายามจะสื่ออะไร?”
เธอยิ่ม “ไม่มีอะไร ฉันแค่ส่งข้อความต่อให้ บาย”
เขาเฝ้าดูร่างของเธอเดินหายไปหลังจากที่ปิดประตูก่อนที่เขาจะปิดโน๊ตบุ๊คและค่อย ๆ นอนลงไป กลิ่นของซุปไก่บนหัวเตียงหอมโชยมาแต่เขาไม่มีความตั้งใจว่าจะกินมันเลย เขากลับปิดตาลงด้วยความหมดแรงแทน