เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 376 เธอไม่อาจบอกได้ว่าเขาโกหกหรือเปล่า
- Home
- เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
- บทที่ 376 เธอไม่อาจบอกได้ว่าเขาโกหกหรือเปล่า
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 376 เธอไม่อาจบอกได้ว่าเขาโกหกหรือเปล่า
อีธานสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องถามทิฟฟานี่ว่าที่ทำงานของเธออยู่ไหน มันชัดเจนว่าเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ “ตอนนั้นฉันถูกบังคับให้ต้องเลิกกับเธอ ฉันรู้ว่ามันฟังดูไร้สาระ แต่ฉันพูดเรื่องจริงนะ ฉันกังวลมาก พอเห็นว่าครอบครัวเธอมีปัญหา เพราะว่าฉันไม่สามารถมอบชีวิตที่เธอเคยชินให้กับเธอได้ ฉันเลยตัดสินใจใช้เงินทั้งหมดที่ฉันมีลงทุนโปรเจกต์กับเพื่อน เธอไม่รู้ แต่ฉันยังเอารถที่เธอให้ฉันไปจำนองเพื่อกู้เงินจากธนาคารด้วย” เขาพูดต่อว่า “ฉันไม่อยากรบกวนเธอ เพราะฉันเผื่อโอกาสไว้ว่าการลงทุนของฉันอาจจะล้มเหลวได้ ฉันเลยเลิกกับเธอ ฉันไม่เคยมีคนอื่น ใครจะรู้ว่าการลงทุนของฉันจะสำเร็จ? ต่อจากนี้ไป ฉันตั้งใจว่าจะขยายธุรกิจของฉัน เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนได้ ทิฟฟ์ ในอดีตเธอดีกับฉันมาตลอดนะ ตอนนี้ถึงตาฉันที่ต้องดูแลเธอให้ดี ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บ เรามาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม?”
ในช่วงเวลาที่เขาเคยอยู่ด้วยกัน อีธานไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนไหวและจะใช้คำพูดเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปและทิฟฟานี่ก็คงจะโกหกหากเธอบอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับคำพูดเหล่านั้น เธอเห็นความรักที่เขามีต่อเธอลึก ๆ อยู่ในตาของเขาอย่างชัดเจน เรื่องนี้จึงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ พวกเขาคบกันเป็นเวลา 3 ปี และแม้กระทั่งในเวลานั้นเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย เธอรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านในร่างกายและหัวใจของเธอที่เต้นแรง หน้าเธอแดงอย่าเห็นได้ชัด
ทิฟฟานี่ตื่นเต้นมากจนเธอพูดติดอ่าง “ฉัน… ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่านายพูดความจริง? นายเหยียดฉันอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่ได้หยิ่งหรือเป็นคนวัตถุนิยมอย่างนั้น ตอนเราคบกัน นายเองไม่ได้มีเงินเยอะมากมายและมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับฉัน ฉันไม่เคยสนใจเรื่องเงินเลย เพราะฉะนั้น นายเอามันมาเป็นข้ออ้างในการเลิกกับฉันได้อย่างไร? ถึงนายจะทำเพื่อฉันก็เถอะ ฉันไม่เคยต้องการแบบนั้น แต่ตอนนี้นายกลับพูดแบบนี้กับฉัน ฉันต้องขอยอมรับเลยว่าฉันสับสนจริง ๆ “
อีธานไม่กดดันเธอต่อ “ไม่เป็นไร ฉันพร้อมรอจนกว่าเธอจะให้อภัยฉัน ให้ฉันได้ดูแลเธอต่อจากนี้ไป โอเคไหม? ฉันจะชดเชยเรื่องที่ผ่านมาให้เธอและเมื่อไหร่ที่เธอพร้อมฉันจะจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่เลย”
ทิฟฟานี่พยักหน้าเบา ๆ “ฉันจะลองคิดดู”
ถึงแม้ว่าทิฟฟานี่จะไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธไป อีธานก็ยังทำเหมือนว่าเธอได้ตกลงที่จะเป็นแฟนเขาไปแล้ว เขาลูบหัวเธออยากคลั่งรักและถามว่า “เธอกินอาหารเช้ามาหรือยัง? ดูที่เบาะหลังสิ ดูสิว่ามีอะไรบ้าง”
ทิฟฟานี่หันไปดูด้านหลังโดยสัญชาตญาณ ที่เบาะหลังมีถุงพลาสติกอยู่ เธอเห็นส่วนหนึ่งของไข่ม้วน มันเป็นของร้านที่เธอชอบมากที่สุด น่าแปลกใจที่เขาไปต่อแถวซื้ออาหารเช้าให้เธอตั้งแต่เช้าตรู่ เธอคงจะโกหกตัวเองถ้าเธอบอกว่าเธอไม่หวั่นไหว ที่ผ่านมาเธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับเขาเป็นทุกอย่างสำหรับเธอ แต่เขาไม่เคยสนใจเธอเลย เขาห่างเหินกับเธอมาตลอด อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปและกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลเธอให้ดีที่สุด แน่นอนว่านี่คือความรู้สึกเมื่อคนหนึ่งได้รับความรักอย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขายังคบกันมันเหมือนเป็นความสัมพันธ์ของความรักฝ่ายเดียว เธอเป็นคนเดียวที่เสียสละทุกอย่างเพื่อความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะรู้สึกหวั่นไหว แต่เธอก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยเช่นกัน สุดท้ายแล้วเธอรู้สึกด้อยค่ามากในช่วงที่เขาเคยคบกัน เธอช่างน่าสมเพชเสียจริง
เธอไม่ได้หยิบไข่ม้วนนั้น เธอเอียงศีรษะเพื่อมองเขาแล้วถามว่า “อีธาน ฉันอยากรู้ว่านายพูดความจริงหรือไม่ ฉันคิดเสมอว่านายไม่เคยรักฉัน นานห่างเหินกับฉันมาตลอด ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่นายเป็นและบางทีคุณอาจไม่รู้วิธีแสดงความรัก นั่นคือเหตุผลที่ฉันริเริ่มมอบความรักทั้งหมดที่ฉันมีให้กับนาน มันไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดว่าฉันน่าสงสารหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้ดูเหมือนว่านานก็รู้วิธีที่จะแสดงความรัก ในเมื่อนายบอกว่านายรักฉันแล้วทำไมที่ผ่านมานายถึงไม่ปฏิบัติต่อฉันเหมือนที่นานกำลังทำอยู่ตอนนี้?”
อีธานเงียบสักพักก่อนที่จะพูดว่า “ฉันเพิ่งจะรู้ว่าต้องแสดงความรักอย่างไรหลังจากที่ฉันเลิกกับเธอ ที่ผ่านมาเธอดีกับฉันมาก ตอนนั้นฉันเพลิดเพลินกับความรักและความห่วงใยที่เธอมอบให้จนลืมที่จะตอบแทนเธอ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ”
ในขณะนี้ทิฟฟานี่ก็คว้าไข่ม้วนมากิน อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถลิ้มรสมันได้เลย เธอเพียงแต่ได้รสความขมขื่นของช่วงสามปีที่ผ่านมา
เมื่อพวกเขาไปถึงที่บริษัท อีธานก็ลงจากรถก่อนเพื่อที่จะไปเปิดประตูให้ทิฟฟานี่ เขาแม้แต่วางมือเขาไว้บนหัวเธอเพื่อป้องกันไม่ให้หัวเธอชนกับรถเขาตอนที่ลุกออกมา “ตอนบ่ายฉันจะมารับไปทานมื้อเที่ยงนะ”
ทิฟฟานี่จำได้ว่าเธอตกลงที่จะไปหาแอเรียน เธอจึงพูดว่า “ตอนบ่ายฉันไม่ว่าง ฉันนัดกับแอริไว้แล้ว เธอต้องอยู่บ้านเพราะเธอยังอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ลาคลอด เธอก็เลยเบื่อน่ะ ฉันเลยจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอสักหน่อย”
สีหน้าของอีธานแสดงให้เห็นถึงความผิดหวัง “งั้น…ไม่เป็นไร คืนนี้ล่ะว่าไง?”
เมื่อเธอเห็นว่าเขาผิดหวังมากแค่ไหนเธอก็ใจอ่อนและยอมแพ้ เธอพูดด้วยความยอมจำนนว่า “ช่างมันเถอะ ฉันจะไปกินข้าวเที่ยงกับนาย ฉันค่อยไปหาแอริตอนกลางคืนได้ ฉันจะได้มีเวลาอยู่กับเธอมากขึ้นด้วย”
พออีธานได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาทันที “โอเค”
นี่คือความรู้สึกของคนที่มีความรัก เพียงแค่รอยยิ้มเดียวก็ส่งผลต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อทิฟฟานี่กลับไปที่ที่นั่งในห้องทำงานของเธอ เธอก็ยังคงยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ เธอบอกกับแอเรียนว่าเธอไม่สามารถไปพบแอเรียนตอนเที่ยงได้จึงจะไปหาตอนกลางคืนแทน ทันใดนั้น เธอก็นึกได้ว่าวันนี้แจ็คสันอาจจะนำอาหารกลางวันมาให้เธอ เธอจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ห้องทำงานของแจ็คสัน เธอเปิดประตูทันที “วันนี้คุณเอาอาหารกลางวันมาให้ฉันไหม?”
แจ็คสันโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “วันนี้ผมตื่นสายเลยไม่ได้เอาอาหารกลางวันมาให้ ไว้วันหลังผมจะเลี้ยงอาหารกลางวันคุณแทน”
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่ ไม่ ดีแล้วที่วันนี้คุณไม่ได้เอาอาหารกลางวันมาให้ฉัน วันนี้ฉันมีนัดทานอาหารกลางวันกับใครบางคนพอดี โอ้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณไม่ต้องเอาอาหารกลางวันมาให้ฉันอีกแล้วนะ”
แจ็คสันหรี่ตาทันที ในฐานะเพลย์บอยที่มีประสบการณ์ในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มามาก เขาจึงสามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาแทบจะได้กลิ่นความรักในอากาศ “คุณหมายถึงอะไร? คุณกับอีธานดีกันแล้วเหรอ?”