เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 387 ความจริงจะต้องตายจากไปตลาดกาล
- Home
- เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
- บทที่ 387 ความจริงจะต้องตายจากไปตลาดกาล
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 387 ความจริงจะต้องตายจากไปตลาดกาล
จู่ ๆ อีธานก็กระวนกระวาย “ทำไมผมต้องรู้สึกผิดด้วย? ตอนแรกผมก็รู้สึกผิดนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ไม่เลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้เป็นเพียงสุนัขเฝ้าบ้านที่ไม่อาจละความจงรักภักดีให้ครอบครัวคุณ แต่เขายังทำให้ผมเป็นแพะรับบาปของคุณมานานหลายปี! ถ้าผมไม่ได้เจอจดหมายสำหรับคุณที่ยังไม่ถูกส่งผมคงจะเชื่อจริง ๆ ว่าแผนเราสำเร็จ
“เหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะซ่อนมันจากผมคงเป็นเพราะเขาต้องการที่จะปกป้องคุณสินะ? เห็นได้ชัดว่าพระคุณของครอบครัวเทรมอนต์นั้นยิ่งใหญ่มากถึงขนาดที่เขาเต็มใจที่จะเป็นผู้รับใช้ที่ภักดี ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าอะไรทำให้คุณฆ่าสมาชิกในครอบครัวของคุณ”
มาร์คนิ่งเงียบ แต่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความต้องการที่จะฆ่าใครสักคน มือของเขาสั่นอย่างแรงเมื่อพูดถึงความลับสุดยอดของเขาที่เขาไม่อยากจดจำ
พ่อของมาร์คเรียกให้เขาไปหาที่ห้องทำงานในคืนก่อนที่เครื่องบินจะตก
เขาเข้าไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ในขณะที่เด็กชายที่ร่ำรวยอายุ 18 ปีควรจะใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายและสนุกไปกับความสนุกสนานของพวกเขา แต่มาร์คแตกต่างจากนั้นโดยสิ้นเชิงเนื่องจากระดับวุฒิภาวะของเขานั้นสูงกว่าคนรุ่นเดียวกัน
“มาร์ค พ่อมีเรื่องที่จะบอกลูก ลูกมีน้องชายคนเล็กคนนึง พ่อรู้ว่ามันเป็นความผิดของพ่อ พ่อไม่ได้ต้องการให้ลูกเข้าใจ แต่พ่อหวังว่าลูกจะคุยกันได้และไม่ทะเลาะกัน”
มาร์คไม่สามารถยอมรับได้เมื่อเขาได้ยินพ่อของเขาเล่าเรื่องนี้ด้วยท่าทางสบาย ๆ ภาพลักษณ์ของพ่อที่ดีของเขาถูกทำลายลงในทันที
กาลครั้งหนึ่งพ่อแม่ของมาร์คมีความสัมพันธ์ที่รักใคร่และปรองดองกันถึงขนาดที่การทรยศเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และมาร์คไม่เคยเห็นพวกเขาทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว อย่างน้อยพวกเขาก็ยังรักกันต่อหน้ามาร์คเสมอ สมาชิกของครอบครัวเทรมอนต์เริ่มต้นจากปู่ของมาร์คและคนรุ่นเก่า พวกเขาไม่ได้ทำการค้าตามกฎหมายดังนั้นแหล่งที่มาของรายได้ของพวกเขาจึงไม่ถูกต้องตามกฎหมายแม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยก็ตาม โชคดีที่พ่อของมาร์คหันมาทำธุรกิจที่ถูกต้องและถูกกฎหมายด้วยอิทธิพลของแม่ของมาร์คเมื่อเขากลายเป็นผู้สืบทอด ดังนั้นพ่อของมาร์คยังคงเข้มแข็งและเข้มงวดและสอนให้มาร์คพึงพาตนเองแม้ว่าจะดูอ่อนโยนและสุภาพเมื่อแต่งกายด้วยชุดสูทก็ตาม
ในทางกลับกันแม่ของมาร์คเป็นผู้หญิงที่มีความรู้และมีการศึกษาสูง นิสัยที่อ่อนโยนและสุภาพของเธอเข้ากับพ่อของมาร์คได้เป็นอย่างดี ทำให้เธอเข้ากันได้ดีกับเขา มาร์คคิดอย่างจริงใจว่าครอบครัวของพวกเขาจะสามัคคีกันตลอดไป แต่เขาไม่รู้ว่ามันได้เปลี่ยนไปเมื่อไหร่ บางทีอาจเป็นตอนที่มีมือที่สามเข้ามาในชีวิตการแต่งงานของพ่อแม่เขา…
พ่อของเขาตื่นตระหนกเมื่อเขาไม่ตอบสนอง “มาร์ค มันเป็นความผิดของพ่อทั้งหมด น้องชายของลูกและแม่ของเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาได้ไหม? นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อขอร้องลูก ได้โปรด?”
เขาไม่ได้ถามต่อ และก็ไม่ได้โวยวายด้วย เขาเพียงถามอย่างใจเย็นว่า “แม่ของผมรู้เรื่องนี้ไหม?”
พ่อของมาร์คครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดต่อว่า “พ่อยังไม่ได้บอกแม่และพ่อก็เก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาตลอด มันเป็นเพียงความผิดพลาดทั่วไปของผู้ชาย มันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายทุกสิ่ง พ่อไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าแม่ได้ทันสังเกตไหม”
มาร์คไม่ได้ให้ความเห็น แต่เงียบและสงบไม่เหมือนเด็กอายุ 18 ปี ทันใดนั้น เขารู้สึกราวกับว่าผู้ชายตรงหน้าเขาไม่ใช่พ่อที่เขาเคยนับถืออีกต่อไป
“อย่างที่ทราบกันดีว่าแม่ของลูกป่วยและไม่สามารถรักษาได้ พ่อจะพาแม่ไปเที่ยวและใช้เวลาสองสามวันสุดท้ายกับแม่ในสถานที่โปรดของแม่ ลูกก็ควรใช้เวลากับแม่ให้มากขึ้นด้วย แม่บอกว่าแม่ต้องการฝังศพที่ทะเล”
ใช่พ่อของเขาพูดถูก แม่ของเขากำลังจะตายและข่าวเกี่ยวกับการที่เขามีเมียน้อยและลูกชายนอกสมรสที่น่าเจ็บใจเช่นนี้ควรถูกปกปิดตลอดไป เขาดึงคอเสื้อพ่อของเขาอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาได้สติ “ถ้าแม่ผมรู้เรื่องนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณและผู้หญิงคนนั้นหรือลูกเมียน้อยคนนั้นอยู่อย่างสงบสุข! คนอย่างคุณไม่สมควรอยู่ในโลกนี้!”
มาร์คชนกับคนขับ จอร์จ ที่มาหาพ่อเขาตอนที่เขาก้าวออกจากห้องทำงาน เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างพ่อลูกและนั่นคือสาเหตุที่จอร์จคิดว่ามาร์คเป็นผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุเครื่องบินตก มาร์คไม่ได้พูดคุยกับจอร์จหรือทักทายเขาเนื่องจากจอร์จทำงานเป็นคนขับรถของพ่อ มาร์คโกรธเขาเช่นกันที่เขาพยายามปกปิดความจริงเรื่องที่พ่อนอกใจแม่เขา
ทุกคำในจดหมายที่ยังไม่ถูกส่งซึ่งเขียนโดยจอร์จนั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจของมาร์ค
“เรียนนายน้อย เมื่อนายน้อยอ่านจดหมายฉบับนี้ผมคงจากโลกนี้ไปแล้ว ผมเขียนเพื่อขอร้องให้นายน้อยไม่ไปยุ่งกับน้องชายของนายน้อย ผมเฝ้าดูเขาเติบโตและเขาเป็นเด็กที่น่าสงสาร”
“ตอนนั้นที่นายหญิงเทรมอนต์ป่วยหนักแม่ของน้องชายของนายน้อยก็ไม่ได้มีชีวิตที่เรียบง่ายเช่นกัน และยิ่งกว่านั้น นายท่านบอกเธอต่อหน้าน้องชายของนายน้อยว่าเธอไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเทรมอนต์ได้ และเขาต้องการที่จะตัดความสัมพันธ์ เนื่องจากผมเห็นการกระทำที่ผิดของนายท่าน ผมจึงรู้ดีว่าน้องชายของนายน้อยและแม่ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน ผมตกหลุมรักแม่ของน้องชายนายน้อยอย่างน่าขันและรู้สึกว่านายท่านรุนแรงกับพวกเขามากเกินไป ด้วยความเห็นอกเห็นใจผมอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อทั้งสองคน ด้วยเหตุนี้ผมจึงตกลงที่จะวางยากัปตันวินน์ก่อนออกเดินทางเพื่อให้เครื่องบินตก อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดผมก็ไม่ได้ทำเช่นนั้นเนื่องจากลูกสาวของซาคารี่ยังเด็กอยู่ โชคไม่ดีที่อุบัติเหตุนั้นยังคงเกิดขึ้นและเราทั้งคู่รู้ดีว่าใครคือผู้กระทำผิดเบื้องหลังเหตุนี้โดยที่เราไม่ต้องพูดถึง ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเสียจริง นายน้อยเด็ดขาดและโหดเหี้ยมเหมือนเฒ่าแก่เลย
“เนื่องจากเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ เพราะฉะนั้นเราควรทิ้งเรื่องในอดีตไว้ในอดีต ผมกำลังจะตายในไม่ช้า ดังนั้นจะไม่มีใครพบความจริงนี้ ผมจะรับบาปนั้นเป็นของตัวเองและฝังความจริงไว้ตลอดไปเพื่อชดใช้ความผิดในอดีตของผม ใช่ ผมได้ยินมาว่านายน้อยแต่งงานกับแอเรียนแล้ว ผมหวังอย่างยิ่งว่านายน้อยจะดีกับเธอ อันที่จริงผมเชื่อว่านายน้อยเป็นคนใจดีและรับเลี้ยงเธอเพราะความรู้สึกผิด
“ผมคิดว่าผมควรหยุดตรงนี้เพราะผมไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เชื่อผมเถอะ น้องชายของนายน้อยดื้อและเขาจะตามหานายน้อยและทำให้เกิดความยุ่งเหยิงอย่างแน่นอน ผมหวังว่านายน้อยจะสงบศึกกับเขาได้เพราะผมไม่ต้องการให้นายน้อยทั้งสองคนทะเลาะกัน ผมปฏิบัติกับเขาเหมือนดั่งลูกชายของผมเอง…”