เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 389 พี่ใหญ่สุดที่รักของผม
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 389 พี่ใหญ่สุดที่รักของผม
อีธานรู้สึกยินดีกับการแก้แค้นขณะที่เขาเฝ้าดูอารมณ์ที่ขัดแย้งกันบนใบหน้าของมาร์ค “ถ้าคุณไม่อยากให้จดหมายฉบับนี้ตกไปถึงมือของแอเรียนก็อย่ายุ่งกับเรื่องของผม ที่ดินนั้นเป็นของผมและไม่ใช่ของใครอื่น ถ้าคุณปล่อยให้ทิฟฟานี่รู้ว่าผมทำอะไรลงไปบ้างคุณก็พนันได้เลยว่าแอเรียนจะรู้เรื่องของคุณเช่นกัน”
มาร์คหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับต่อสู้กับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกเขา เขาจะไม่มีวันเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกนั้น เขายอมแบกรับมันไว้คนเดียวแทนที่จะเปิดโปงแม่ของเขา ท้ายที่สุดแล้วความประทับใจอย่างแรงกล้าที่มีต่อแม่ของเขาที่เป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลและใจดียังคงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเขา เขาจะไม่ยอมทำความประทับใจสุดท้ายที่เขายังมีต่อเธอแปดเปื้อน
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้านายได้ที่นั้นและทิฟฟานี่? นายจะใช้เรื่องนี้ขู่ฉันอีกนานแค่ไหน?”
อีธานหัวเราะเยาะ “คุณจะเชื่อผมไหมถ้าผมจะบอกว่าเราสองก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเคียงข้างผู้หญิงที่มีค่าที่สุดสำหรับเราขณะที่เราฝังควาหลับสุดยอดของเราไว้?”
ไม่มีทางที่มาร์คจะเชื่ออย่างนั้น ขณะนี้ทั้งคู่เก็บความลับสุดยอดของกันและกันไว้ แต่พวกเขาไม่ได้มีอำนาจเท่าเทียมกัน ผู้หญิงเป็นชิปต่อรองสำหรับพวกเขา ในที่สุด เครื่องมือในการวัดก็คือว่าแอเรียนและทิฟฟานี่มีความหมายกับพวกเขามากแค่ไหน เห็นได้ชัดว่าอีธานสามารถอยู่ได้โดยไม่มีทิฟฟานี่ แต่มาร์คไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากแอรียน แอเรียนคือจุดอ่อนของเขา!
มาร์คพูดอย่างคำราม “ฉันต้องทำอย่างไรนายถึงจะให้จดหมายต้นฉบับกับฉัน?”
“โอ้ ดูเหมือนคุณจะแคร์แอเรียนมากเลยนะ” อีธานส่งเสียงเจื้อยแจ้ว “ผมว่ามันคงเป็นเรื่องปกติแหละ คุณอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีแล้ว คุณอยากได้จดหมายเหรอ? ทำไมคุณไม่ยกทุกอย่างที่เป็นของพวกเทรมอนต์ให้ผมล่ะ?”
ทุกอย่างที่เป็นของพวกเทรมอนต์? มีเพียงอีธานเท่านั้นที่จะกล้าแนะนำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้!
มาร์คไม่แม้แต่จะคิดก่อนที่เขาจะตอบว่า “ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ”
อีธานไม่แปลกใจ เขามีแผนอื่นอยู่แล้ว “ผมเดาว่าสุดท้ายเงินก็ชนะความรักสินะ โถ่ คุณเชื่อจริงเหรอว่าผมอยากได้สมบัติของพวกเทรมอนต์? ไม่เลย สิ่งที่ผมต้องการคือผมต้องการให้คุณเจ็บปวดอย่างที่ผมเคยเจ็บปวด” อีธานตอบอย่างเปิดเผย “ดูเหมือนเราทั้งคู่ไม่มีทางออกสำหรับปัญหานี้ เอาอย่างงี้ดีไหม? คุณอยากเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไปถูกไหม? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องพูดถึงมัน แล้วเราก็หายกัน ตกลงไหม?”
“โอ้ อีกเรื่อง ทิฟฟานี่กับผมจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน พี่ใหญ่สุดที่รักของผมจะซื้อที่ดินพื้นนั้นเป็นของขวัญวันแต่งงานให้ได้ไหมนะ? คือ สววรค์เขากำหนดมาว่าต้องทำให้ทิฟฟานี่ไม่มีทางสงสัยได้ว่าผมต้องการเขาเพียงเพราะเพื่อสิ่งนั้น เข้าใจใช่ไหม?”
…
ทันทีที่มาร์คออกมาจากโรงพยาบาลนั้นเขาก็ไปบ้านทิฟฟานี่ทันที
ลิเลียนยังคงนอนอยู่เมื่อเธอได้ยินเสียงคนเคาะประตู ความขุ่นเคืองทั้งหมดของเธอหายไปเมื่อเธอเห็นว่ามาร์คอยู่หลังประตูนั้น “อ๋อ ฉันหาจนทั่วแล้ว แต่ไม่เจอโฉนดเลย ที่นี้มีขยะเยอะมาก เพราะฉะนั้นจะเป็นอะไรไหมถ้าหากคุณจะช่วยฉันหา?”
มาร์คไม่ได้ตอบ เขาเพียงแต่เริ่มค้นทั่วบ้านของครอบครัวเลน เนื่องจากไม่มีใครสนใจหามันมาเป็นเวลาสองปีแล้ว พอพวกเขาเจอมัน มือของมาร์คก็เต็มไปด้วยฝุ่น
ลิเลียนถอนหายใจอย่างโล่งอก “เจอสักที! คุณคิดว่าที่ดินนี้จะทำราคาได้เท่าไหร่?”
บนใบหน้าของมาร์คปรากฏการแสดงอย่างรุนแรงชั่วครู่ แต่ลิเลียนสังเกตเห็นทันก่อน มันทำให้ความคาดหวังของเธอลดน้อยลง “เอ่อ พอคิดดูแล้ว คุณสามารถเสนอราคาที่คุณคิดว่ายุติธรรมได้เลย ผมไม่ได้ขี้เหนียวขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ทิฟฟ์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแอริด้วย”
มาร์คเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อว่า “ไม่ต้องห่วง ผมไม่กดราคาแน่นอน ตอนนี้ เก็บโฉนดนี้ไว้อย่างปลอดภัยในขณะที่ผมให้ผู้เชี่ยวชาญเริ่มขั้นตอนการตรวจสอบ”
ลิเลียนโล่งอก “ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น ฉันฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณด้วยนะ คนแบบคุณนี้ดีจริง ๆ คุณฉลาดและมีความสามารถจนฉันไม่ต้องกังวลอะไร”
ในคืนนั้นมาร์คไม่ได้กลับบ้าน เวลานั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วและทั้งตึกก็มือสนิทยกเว้นไฟที่ส่องแสงสว่างจากชั้นที่ 46 วันนั้นเขาเมินทุกสายที่โทรเข้าและข้อความของแอเรียน จดหมายที่อยู่ในการครอบครองของอีธานนั้นเหมือนเป็นระเบิดที่นับถ้อยหลังที่เขาไม่รู้ว่ามันจะหมดเวลาเมื่อไหร่ แทนที่เขาจะยอมจำนน การวางแผนไว้ล่วงหน้านั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ขณะนี้ มาร์คไม่สามารถเข้าไปขัดอีธานและทิฟฟานี่ได้ เช่นเดียวกับที่เขาไม่สามารถให้แอเรียนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องได้ด้วย ในทางกลับกัน จริง ๆ แล้วเขารู้สึกผิดที่ได้เปิดเผยข้อมูลกับแอเรียนไปตั้งเยอะ ถ้าเขาไม่ได้พูดอะไร การที่จะต้องปิดบังเรื่องนี้จะง่ายขึ้นเยอะ ตอนนี้ เขาไม่กล้าแม้จะกลับบ้านเพราะกลัวคำถามของเธอ เขากลัวว่าเขาจะไม่สามารถโกหกได้เนียนพอ
ที่ชั้น 46 นั้นเงียบงันอย่างกับป่าช้าจึงเป็นไปไม่ได้ที่มาร์คจะไม่ได้ยินเสียงที่ทางเดิน ไม่มีทางที่ รปภ. เขาจะปล่อยให้ใครขึ้นมาชั้นนี้โดยที่ยังใส่รองเท้า และคนนี้ยังกระทืบเท้าอีกด้วย
ก่อนที่เขาจะทันได้คาดการณ์ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ประตูสู่ห้องทำงานเขาก็ถูกเปิดออก
แอเรียนจ้องมองเขาด้วยสายตาพิฆาต แก้มของเธอแดง คงจะเป็นเพราะความร้อนของฤดูร้อน
มาร์คที่กำลังเอนกายอย่างอ่อนแรงทันใดนั้นก็ยืดหลังและทุกเส้นที่กำลังเกร็งของเขา “เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“ทำไมคุณถึงยังทำงานอยู่?” เธอบ่น “ฉันไม่เห็นว่าจะมีคนอื่นทำงานล่วงเวลาตอนที่ฉันขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นทำไมคุณถึงยังไม่เลิกงาน? ฉันทั้งโทรและส่งข้อความหาคุณ แต่คุณเมินทุกอย่าง ฉันรู้ว่าเรื่องของทิฟฟานี่นั้นทำให้คุณลำบากแค่ไหน แต่ฉัน… ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร เข้าใจใช่ไหม?”
ขณะนั้น หน้าที่บึ้งตึงของมาร์คก็อ่อนลง เขาตระหนักรู้แล้วว่า แม้ว่าเขาจะเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง คนแรกที่แอเรียนนึกถึงเมื่อเธอมีปัญหานั้นก็คือเขา