เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 392 หมาป่าลูกแกะและสุนัขเลี้ยงแกะ
- Home
- เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
- บทที่ 392 หมาป่าลูกแกะและสุนัขเลี้ยงแกะ
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 392 หมาป่าลูกแกะและสุนัขเลี้ยงแกะ
ลิเลียนยื่นโฉนดให้ลูกสาวดู “นี่ สิ่งนี้ เป็นที่ดินของปู่ ตอนนี้มันมีค่ามาก และเดาสิว่าใครต้องการมัน? ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก มาร์ค เทรมอนต์ และเขาจะมาเซ็นสัญญาในวันนี้! เธอจะไม่ให้อารมณ์ดีได้อย่างไร? ขอบคุณพระเจ้าที่เราลืมที่ดินผืนนี้ ซึ่งยังคงเป็นของคุณปู่ของลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเราไม่ได้ระบุว่าเป็นทรัพย์สินของเราเมื่อเราประกาศล้มละลาย ทีนี้ แม่ขอตัวก่อนนะ – แม่มีสถานที่หลายแห่งที่จะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป!”
ทิฟฟานี่งุนงง ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่สามารถรวบรวมสติตนเองได้เมื่อนึกถึงมาร์คที่จ้องอยากได้ที่ดินนั้น ซึ่งแน่นอนว่า นั่นสื่อถึงคุณค่าของมันโดยอัตโนมัติ และมูลค่านั้นเป็นของครอบครัวของเธอ มันเป็นเรื่องที่ราวกับความฝันที่เป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันสามารถเป็นตั๋วที่พาพวกเขาออกจากความยากจนนี้ได้!
หลังจากที่ทิฟฟานี่อาบน้ำด้วยความเร่งรีบ อีธานก็โทรหาเธอเพื่อบอกว่าเขากำลังกลับบ้านจากโรงพยาบาล
บทสนทนานั้นทำให้เธอไปทำงานอย่างอืดอาด เมื่อเธอไปถึงที่ทำงานพร้อมกับเหงื่อที่ไหลรินตามผิวหนังเธอก็สายไปแล้วสิบห้านาที อย่างไรก็ตาม เธอสามารถไปที่ที่นั่งของเธอได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น เธอจึงหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ทันใดนั้น โครงร่างสูงตรงก็พาดผ่านทางเข้าสำนักงาน นั่นคือ แจ็คสัน เวสต์ ซึ่งวันนี้เขาได้ทำลายประเพณีของเขาที่ไม่เคยอืดอาดมาทำงาน แน่นอนว่าการเป็นเจ้านายของทั้งบริษัทจึงไม่มีใครสามารถไปหักค่าจ้างของเขาได้
แจ็คสันซึ่งดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องเขาหันหน้าไปทางทิฟฟานี่ สายตาของพวกเขาสบกันเพียงวินาทีเดียวก่อนที่เขาจะหลบหนีไปอย่างไม่ไยดี
ทิฟฟานี่ตกใจเล็กน้อย เธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนนั้นลึกซึ้งกว่านายจ้างและลูกจ้างทั่วไป แล้วทำไมเขาถึงเมินเธอเช่นนี้? นี้มันแตกต่างจากตอนที่เขาสองคนแกล้งคบกันโดยสินเชิง!
เธอใช้โอกาสในการแซวเขาตอนที่เธอเอาเอกสารไปส่งให้เขาให้เขาที่ห้องทำงาน “ว้าว ความสัมพันธ์เราพังทลายไปเร็วขนาดนั้นเลยหรอ? มิหนำซ้ำยังดึงหน้าแบบนั้นด้วย!”
แจ็คสันที่คร่ำครึมากเงยหน้าขึ้นมาหาเธอ “โอ้ อย่าเพิ่งยุ่งกับผมเลย คุณถูกจ้างเพื่อเล่นตามบทนั้น ทีนี้ก็วางเอกสารไว้ตรงนั้นแล้วก็ — ห้าว — ไปทำอะไรก็ตามที่คุณยังต้องทำต่อไป”
ทิฟฟานี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอจมลงเพียงเล็กน้อย “กะ-ก็ได้ คุณคงบ้าถ้าคุณคิดว่าฉันอยากอยู่ใกล้ ๆ คุณ!”
แจ็คสันมองดูเธอขณะที่เธอจากไปก่อนที่จะลดสายตาลงดูเอกสารและถอนหายใจแผ่วเบา มีเพียงปีศาจเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าต้องตื่นขึ้นมาตรงเวลานั้นยากเพียงใด ซัมเมอร์ออกจากบ้านกลางดึกเพียงเพื่อกลับมารบกวนการนอนอันมีค่าของเขาตั้งสองชั่วโมงโดยการจู้จี้ไม่หยุด
ในที่สุด ก็ถึงเวลาพักเที่ยง เพื่อนร่วมงานของทิฟฟานี่ทุกคนไปทานอาหารกลางวันกันหมดแล้ว แต่เธอเซื่องซึมเกินไปจึงตัดสินใจที่จะแอบงีบแทน จริง ๆ แล้วการพลาดมื้ออาหารในหนึ่งวันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอ
โดยไม่คาดคิดอีธานก็โทรมา เธอกลิ้งไปบนหน้าอกของเธอบนโต๊ะทำงานและรับสายด้วยน้ำเสียง “ฮันโย่?”
“ลงมา ฉันจะพาไปกินข้าว”
ร่างกายของเธอแข็งขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขยับไปที่หน้าต่างและมองลงไปด้านล่าง มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์ – ชั้นนั้นสูงเกินกว่าที่เธอจะมองเห็นอะไรข้างล่างนั้นได้ชัดเจน – แต่เธอแน่ใจว่าอีธานกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง
ทิฟฟานี่กวาดทุกอย่างลงในกระเป๋าถือของเธอตามยถากรรมและพุ่งไปที่ลิฟต์โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เธอบังเอิญไปโดนใครบางคนในกระบวนการนี้ แต่ก่อนที่คำขอโทษจะหลุดออกจากปากเธอก็เงยหน้าขึ้นและพบว่าตัวเองจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่ห่างเหินของแจ็คสัน
คำขอโทษใด ๆ ที่เธอคิดเมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้วกลับไหลลงคอ เธอกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ถึงความโง่เขลาของตนเองในขณะที่เธอวางสายและสอดโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋า
แจ็คสันชะโงกมองชื่อผู้โทรก่อนที่จะแสงจะหรี่ลงและเห็นชื่อของอีธานเต็ม ๆ ดวงตาของเขามืดลงเล็กน้อย “ไปทานอาหารกลางวันกับอีธานเหรอ?”
“อืม-อืม” เป็นการตอบสนองที่ค่อนข้างนุ่มนวล
เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถามว่า “ก็คือ พวกคุณกลับมาคบกันอย่างนั้นเหรอ?”
ทิฟฟานี่กลอกตา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ? โถ่เอ้ย ฉันรู้สึกไม่ดีกับคุณเลยบอส – คุณมีเรื่องสำคัญมากมายในใจรวมถึงชีวิตส่วนตัวของพนักงานด้วย!”
แจ็คสันไม่พูดอะไรมาก เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินออกไปอย่างเร็วที่สุดโดยปล่อยให้ทิฟฟานี่ร้องเสียงดังอยู่ข้างหลัง “ทำไมคุณต้องพยายามทำตัวเป็นคนออดทนแบบนี้? โอ้ย ฉันทำอะไรเหรอ? ฉันถ่มน้ำลายใส่อาหารคุณหรือไง?”
หลังจากเข้าไปในรถของอีธาน ชายคนนั้นได้ช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย และลดระยะห่างระหว่างทั้งสองคนโดยที่เขาอยู่เหนือเธอ พวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนผู้สังเกตการณ์ทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่าการกระทำของพวกเขาเป็นการกอดหรือจูบ — ซึ่งเป็นความคิดที่ทำให้เธอไม่สบายใจอย่างมาก
โชคดีที่อีธานยืดตัวให้ตรงหลังจากที่เขาทำในสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำเสร็จ “อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?”
ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบ ทันใดนั้น เธอก็สังเกตเห็นว่าแจ็คสัน เวสต์ ได้ขับรถผ่านพวกเขาอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาจ้องมาที่เธอ
“มะ-ไม่มี” เธอตอบขณะที่เธอหลีกเลี่ยงสายตาแจ็คสันอย่างประหม่า
อีธานเห็นแจ็คสันเช่นกัน เขาปัดปลายจมูกของทิฟฟานี่อย่างขี้เล่นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันเลือกนะ ฉันหวังว่าอาหารโปรดของเธอยังเหมือนเดิม เพราะตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะมาดูกันว่าฉันจำรายละเอียดเกี่ยวกับเธอได้ดีแค่ไหน”
ที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ แอเรียนรู้สึกว่าเธอกำลังถูกย่างอยู่บนโซฟาที่ร้อนมาก ๆ
แมรี่กังวลมากเกี่ยวกับการฟื้นตัวของแอเรียน ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมให้อุณหภูมิในห้องของแอเรียนลดลงจนเย็นสบาย เป็นผลให้ในห้องเย็นกว่าความร้อนที่แผดเผาภายนอกเพียงเล็กน้อย บางครั้งแอเรียนผู้น่าสงสารนั้นสามารถรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไหลผ่านร่างกายของเธอและทำให้เหงื่อออกจากตัวเธอ
เธออาบน้ำถึงสองครั้งแล้ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งผ่านมาครึ่งวันเอง
อีกครั้ง แอเรียนไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้โวยวายได้ “ข้างในนี้! มัน! ร้อน! มาก! แมรี่! ได้โปรดลดองศาลงนิดนึง!”
หัวของแมรี่โผล่ออกมาจากห้องครัว “ทำแบบนั้นไม่ได้นะสาวน้อย! เธอต้องทนอีกเพียงไม่กี่วัน… ถ้าพ้นระยะการรักษาตัวเธอจะเปิดแอร์ให้เย็นเหมือนขั่วโลกเนื้อเลยก็ได้! แต่ตอนนี้ บางทีถ้าเธอเลิกบ่นวันอาจจะเย็นลงอีกเยอะ! เห็นไหมฉันแทบไม่รู้สึกอะไรเลย!”
แอเรียนหมดความอดทน และการที่ข้าวปั้นมาคลอเคลียเธอตลอดเวลาก็ทำได้เพียงทำให้สถานการณ์ความร้อนของเธอแย่ลงด้วยขนของมัน “หยุด — อย่าเข้ามาใกล้ฉัน! หรือไม่อย่างนั้น… ฉันจะโกนขนให้เธอเปลือยเลย!”
เจ้าแมวร้องโหยหวนและยังคงขัดขืนความปรารถนาของเจ้านายด้วยความสำราญ
ในที่สุดแอเรียนก็ตัดสินใจที่จะไปหามาร์คที่ทำงาน — หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อไปเพลิดเพลินกับแอร์ของเขา เนื่องจากความทนทานต่อความร้อนของเขาแย่กว่าเธอแอเรียน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังระเบิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิต่ำมากในตอนนี้