เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ - บทที่ 93 สามีที่ช่างเกรงใจภรรยา
เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 93 สามีที่ช่างเกรงใจภรรยา
เอรี่หดหู่อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเธอเห็นเฮเลนปกป้องแอเรียนความโกรธของเธอก็ระเบิดออกมาอย่างเต็มกำลัง “ครั้งสุดท้ายที่แม่ตบหนูมันเป็นเพราะเธอและแม่ก็ห้ามไม่ให้หนูดุเธอ เธอเป็นเพียงเศษขยะที่เเม่ทิ้งไปเท่านั้น เธอถือเป็นลูกสาวของแม่ไม่ได้ ทำไมคุณเเม่ถึงปกป้องเธอมากขนาดนี้? รู้สึกผิดอย่างนั้นเหรอ? คุณเเม่ไม่เคยทำตามความรับผิดชอบในฐานะแม่ของเธอมาก่อน แล้วความเสเเสร้งนี่คืออะไร?”
การแสดงออกของเฮเลนทรุดลง “แอรี่ ถ้าแม่ได้ยินเธอพูดเรื่องแบบนี้อีก เราขาดกัน!”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทะเลาะกันเพราะแอเรียน แอรี่ขี้เกียจที่จะโต้เถียงกับแม่ของเธอ “ก็ดี ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณ เเต่เธอเป็น! คุณมีความสุขไหม?”
เฮเลนหันกลับมาและจากไปด้วยใบหน้าที่มืดมน ขังเเอรี่ไว้ในห้องของเธอ “เธอจะอยู่ในห้องนี้จนกว่าจะสงบลง อย่าทำให้ฉันเดือดร้อนอีก!”
…
เมื่อถึงเวลาที่แอเรียนตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว แมรี่เมื่อเห็นว่าเธออารมณ์แปรปรวนแค่ไหน ก็กลัวที่จะปลุกเธอในขณะที่เธอพล้อยหลับไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เธอทำได้คือเสิร์ฟโจ๊กทะเลที่ทำสดใหม่ให้เธอหนึ่งชามเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
เธอสูดกลิ่นคาวในโจ๊กและพบว่าเธอไม่รู้สึกอยากอาหารเลย “แมรี่… หนูไม่อยากกินมัน ขอของที่ไม่มีกลิ่นคาวแทนได้ไหม? มาร์คได้บอกไหมว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมา?”
“ไม่นะ แต่เขาโทรมาและบอกว่าจะให้เธอโทรกลับเมื่อเธอตื่นแล้ว” แมรี่ตอบ
แอเรียนรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อตรวจสอบมีสายที่ไม่ได้รับ เธอรีบโทรกลับหาเขาทันที
ในขณะเดียวกันมาร์คอยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขา คราวนี้เขามองหน้าจอโทรศัพท์อย่างชัดเจนและยืนยันว่าเป็นแอเรียน เขาลุกขึ้นและพูดว่า “ขอตัวนะครับ” กับแขกที่โต๊ะของเขา เขาเดินออกไปข้างนอกและรับสาย “มีอะไร?”
กลัวว่าเขาจะไม่ว่าง แอเรียนก็ตรงไปที่ประเด็น “คุณกำลังเดินทางไปทำธุรกิจใช่ไหม? เมื่อไหร่คุณจะกลับมา?”
เขาเหลือบมองกลับไปที่ห้องและพูดว่า “น่าจะเป็นวันมะรืนนี้ ผมมีธุระสำคัญ ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็รอผมก่อน ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนก็มาที่นี่เลย”
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจทันที “ฉันกำลังไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเขากลับไปที่ห้องหลังจากรับสาย ชายชราร่างใหญ่ที่โต๊ะก็ล้อว่า “มีใครบางคนที่มีอำนาจพอที่จะให้คุณรับสายระหว่างทานอาหารได้จริงเหรอครับ คุณเทรมอนต์? ผมอยากรู้ว่าใครทำได้บ้าง…”
มาร์คยิ้มเยาะ “ผมออกไปข้างนอกมาแค่ครู่เดียว เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนบางคนที่บ้านจะตั้งสมมติฐานที่ไม่เหมาะสม เป็นเรื่องปกติที่เธอจะโทรหาผม คุณเป็นผู้ชายที่มีชื่อเสียงในเรื่องเกรงใจภรรยา คุณไม่จำเป็นต้องล้อผมเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก ถูกไหมครับ?”
ฌอน เยตส์ ลูบท้องของเขาซึ่งคล้ายขนาดของหญิงตั้งครรภ์หกถึงเจ็ดเดือนแล้วหัวเราะ “คนขี้โกง คุณนี่พูดเก่งนะ ใช่ไหมล่ะ? ร่างกายของผมไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นมาก่อน ผมดื่มกับคุณไม่ได้ แล้วดื่มกับเลขาของผมแทนดีไหม?”
เลขาสาวสวยของฌอน เยตส์ ที่นั่งข้าง ๆ เขาเดินมานั่งข้าง ๆ มาร์ค อย่างไรก็ตามมาร์คดันแก้วเหล้าของเขาที่อยู่ตรงหน้าออกไปด้วยนิ้วของเขา “เราจะไม่ดื่มถ้าคุณดื่มไม่ได้นะครับ คุณเยตส์ อย่าลองกับผมเลย เราทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว เราไม่ต้องการแอลกอฮอล์ในการทำธุรกิจ มาทานอาหารด้วยกันเหมือนเพื่อนกันเถอะนะครับ”
ดวงตาของฌอนสว่างขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ผมรู้ว่าคุณเป็นสามีที่ภัคดีต่อภรรยาเหมือนผม คุณไม่จำเป็นต้องแกล้งผมด้วยเรื่องนั้นอีกต่อไป เอาล่ะ ได้เลย ไปกินข้าวกันเถอะครับ ฮ่าฮ่า…”
มันจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทางไปยังเมืองหลวงที่อยู่ใกล้เคียงด้วยรถไฟความเร็วสูง แอรียนมาถึงร้านอาหารที่มาร์คกำลังรับประทานอาหารในเวลาสี่ทุ่มเธอเห็นรถของเขาจอดอยู่นอกร้านอาหาร แต่ไม่มีใครอยู่ข้างใน เธอกลัวที่จะเข้าไปรบกวนเขาเพราะเธอไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ระหว่างมื้อค่ำมื้อสำคัญหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอข้างนอก
ลมหนาวพัดเข้ามาในคอเสื้อของเธอ เธอย่ำเท้ารู้สึกหนาวหลังจากที่ยืนได้สักพัก