เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1289 ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้เอง
ตอนที่ 1,289 ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้เอง
หุบผาอเวจีแดน 6 มีสภาพเป็นถ้ำใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ไร้จุดสิ้นสุด
ด้านในมืดสลัว
ต้นไม้บางชนิดออกดอกออกใบเป็นสีเงินให้แสงสว่างริบหรี่
หลินเป่ยเฉินเดินเข้าไปในโพรงถ้ำใต้ดินแห่งหนึ่งและสังหารกลุ่มอสูรสิงโตที่อยู่ในนั้นและยึดครองรังของมันเป็นที่พักของตนเอง
เขานำโทรศัพท์มือถือออกมา
เช่นเดียวกับการอัปเดตระบบทุกครั้ง เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการอัปเดตแล้ว หลินเป่ยเฉินก็จะได้เลือกแอปพลิเคชันใหม่แบบสุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีข้อความแจ้งเตือนถึงการอัปเดตแพตช์ของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์อีกด้วย
และครั้งนี้ แอปพลิเคชันที่จะได้รับการอัปเดตแพตช์ก็คือแอปวีแชตกับแอป Keep
“ขนาดผ่านการดัดแปลงให้อยู่ในโทรศัพท์มือถือของยมทูตแล้ว แอปพลิเคชันพวกนี้ยังต้องอัปเดตแพตช์อีกเหรอเนี่ย?”
หลินเป่ยเฉินครุ่นคิด
การอัปเดตแพตช์ของแอปพลิเคชัน Keep คือสิ่งที่ทำให้หลินเป่ยเฉินมีความสุขมาก
เพราะมันเป็นเครื่องมือช่วยเหลือที่ทำให้เขารอดพ้นวิกฤตการณ์มาได้หลายครั้งหลายครา
แต่หลังจากที่เด็กหนุ่มขึ้นมาอยู่บนดินแดนทวยเทพ แอปพลิเคชันนี้ก็ดูจะเงียบ ๆ ไป
หากอัปเดตแพตช์เรียบร้อย บางทีเขาอาจจะสามารถใช้งานมันในดินแดนทวยเทพก็ได้กระมัง?
ส่วนการอัปเดตแอปวีแชต…
ก็น่าจะเป็นเรื่องดี
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินเป่ยเฉินก็ไม่ลังเลที่จะอัปเดตแพตช์ของทั้งสองแอปพลิเคชันนั้น
เป็นไปตามคาด การอัปเดตแพตช์ต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างกาย
หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็เข้าไปในแอปสโตร์และจัดการหมุนกงล้อเสี่ยงโชคเพื่อเลือกแอปพลิเคชันใหม่มาติดตั้ง
ในที่สุด กงล้อเสี่ยงโชคก็หยุดหมุน
แล้วโลโก้ของแอปพลิเคชันที่มีนกนางนวลสีขาวอยู่บนฉากหลังสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
“แอป… สวิ่นเล่ย?”
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง
เป็นแอปพลิเคชันนี้ไปได้อย่างไร?
ในความทรงจำของหลินเป่ยเฉิน มันเป็นโปรแกรมที่ส่วนใหญ่เขาจะเอาไว้ใช้ดาวน์โหลดภาพยนตร์เถื่อนในชาติภพที่แล้ว…
ซึ่งส่วนใหญ่เขามักจะใช้ในคอมพิวเตอร์
แทบไม่เคยใช้ในโทรศัพท์มือถือ
ไม่รู้เลยว่าแอปสวิ่นเล่ยเมื่อมาอยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ มันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
หลินเป่ยเฉินเสียเวลาคิดเพียงเล็กน้อย ก็เลือกดาวน์โหลดโดยไม่ลังเล
‘ติ๊ง’
‘การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสวิ่นเล่ยจำเป็นต้องใช้อัตราการโอนถ่ายข้อมูล 80 GB กรุณาตรวจสอบพลังงานแบตเตอรี่และสัญญาณอินเทอร์เน็ตของท่าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดระหว่างการดาวน์โหลด…’
‘ต้องการดาวน์โหลดเลยหรือไม่?’
หลินเป่ยเฉินกดตกลงโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
การดาวน์โหลดเริ่มต้นขึ้น
หลินเป่ยเฉินส่งเสียงครางในลำคอ
แล้วพลังศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในร่างกายของเขาก็ถูกสูบออกมา
เด็กหนุ่มนั่งขัดสมาธิ
ใช้โอกาสนี้หยิบกระบองทมิฬออกมา
“ยังไม่รีบไสหัวออกมาอีก เจ้าสุนัขเฒ่า”
หลินเป่ยเฉินฟาดไม้กระบองลงไปบนก้อนหินใหญ่ที่อยู่ข้างตัว
“สุนัขเฒ่าอย่างนั้นหรือ? หุบปากของเจ้าซะ”
เสียงของราชาหมาป่าศิลาดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ากล้าดีอย่างไรมาเรียกข้าด้วยนามอันต่ำต้อยเช่นนั้น?”
“สุนัขเฒ่า เหตุไฉนเมื่อคืนนี้ถึงแกล้งตาย?”
หลินเป่ยเฉินตั้งคำถาม “ข้าเกือบจะถูกหอกทองคำเล่มนั้นฆ่าตายอยู่แล้ว ไม่เห็นเจ้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หรือว่าลืมเลือนคำสัญญาของพวกเราไปแล้ว?”
ราชาหมาป่าศิลาเงียบไปเลยน้อย แต่สุดท้ายก็ตอบกลับมา “บัดนี้เจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือ?”
ไอ้หมอนี่…
หลินเป่ยเฉินชักจะโมโหขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?”
“นักเวทชราอยู่ที่นั่นตั้งแต่ที่พานตั่วชิงปรากฏตัวออกมาแล้ว”
ราชาหมาป่าศิลาอธิบาย
“แล้วไงล่ะ?”
หลินเป่ยเฉินชะงักไปเล็กน้อยและเขาก็เข้าใจความหมายในคำตอบของอีกฝ่าย “เจ้ากลัวว่าจะถูกนักเวทอู่จิวค้นพบ? ก็เลยไม่กล้าเสนอหน้าออกมา? นี่เจ้ากลัวเขาอย่างนั้นหรือ?”
ราชาหมาป่าศิลาตอบว่า “ข้าไม่ได้กลัว แต่นักเวทชราผู้นั้นเป็นบุคคลที่รับมือด้วยยาก โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นเจ้านายของเขา ยามปกติข้าคงจัดการพวกเขาได้ไม่มีปัญหา แต่สภาพของข้าในยามนี้จะไปจัดการได้อย่างไร?”
หลินเป่ยเฉินไม่สนใจถ้อยคำคุยโวของราชาหมาป่าศิลา
สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือราชาหมาป่าศิลายอมรับแล้วว่านักเวทอู่จิวคือผู้ที่ยากต่อการรับมือจริง ๆ
เพราะเหตุใด นักเวทอู่จิวถึงน่ากลัวขนาดนั้น?
เขาคงไม่ได้มีดีเพียงสร้างประตูมิติแล้วกระมัง?
บางทีชิงเล่ยอาจเรียนรู้อะไรบางอย่างมาจากชายชราบ้างก็ได้?
ดูเหมือนเขาคงต้องเปลี่ยนมุมมองต่อนักเวทชราผู้นี้เสียแล้ว
หลินเป่ยเฉินตั้งใจว่ากลับออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่ เขาจะกำชับให้ชิงเล่ยแสดงความเคารพต่อชายชรามากขึ้น
ถึงอย่างไร ลูกศิษย์ที่ดีก็ควรเคารพอาจารย์อยู่แล้ว
“เจ้ายังไม่เจอคนที่เจ้าอยากตามหาอีกหรือ?”
หลินเป่ยเฉินถาม
วิญญาณของราชาหมาป่าศิลาตอบว่า “น่าเสียดายที่ยังไม่เจอ”
“งั้นเจ้าก็ต้องภาวนาให้รีบเจอเร็ว ๆ แล้วล่ะ”
หลินเป่ยเฉินกล่าว “เพราะอีกไม่นาน ข้าก็จะไปจากที่นี่แล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็จะโยนไม้กระบองท่อนนี้ใส่ในบ่ออุจจาระ เจ้าก็ค่อย ๆ ตามหาเองแล้วกัน”
“ตัวบัดซบ”
ราชาหมาป่าศิลาหัวเราะเยาะ “ตนเองกำลังจะตาย ยังกล้ามาข่มขู่ข้าอีกหรือ?”
“ข้าบอกตอนไหนว่าข้ากำลังจะตาย?” หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะตอบกลับไปเช่นกัน
“ฮ่า ๆๆ…”
กระบองทมิฬสั่นสะเทือนเล็กน้อยและเสียงของวิญญาณราชาหมาป่าก็กล่าวต่อ “บัดนี้ เจ้าเป็นบริวารของใต้เท้ากั้ว เจ้าไม่คิดแปลกใจสงสัยบ้างเลยหรือ? นอกจากเขาจะรับเจ้าเป็นบริวารแล้ว ยังแบ่งปันพลังศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้าและมอบตำแหน่งเทพเจ้าแห่งแดนรกร้างให้กับเจ้าอีก…”
หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ
เพราะเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาสงสัยอยู่เหมือนกัน
เหตุไฉนใต้เท้ากั้วจึงแบ่งปันพลังศักดิ์สิทธิ์มาให้เขา?
เหตุไฉนใต้เท้ากั้วถึงรับเขาเป็นบริวารอย่างง่ายดาย?
แต่ตอนนั้นหลินเป่ยเฉินไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ
การปฏิเสธใต้เท้ากั้ว คงเท่ากับเป็นการรนหาที่ตายแล้ว
“ท่านราชาหมาป่าที่เคารพ”
หลินเป่ยเฉินรีบเปลี่ยนสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงของตนเองอย่างรวดเร็ว “ท่านกำลังหมายความว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกปล่อยเข้ามาในร่างกายของข้ามีปัญหาใช่หรือไม่?”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”
ราชาหมาป่าศิลาตอบ “หากเจ้าไม่รีบหลอมรวมพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นให้เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของตนเอง อีกไม่นาน เจ้าก็จะกลายเป็นเพียงหุ่นเชิดของใต้เท้ากั้ว”
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง “ละ…แล้วข้าจะหลอมรวมพลังได้อย่างไร?”
“นี่เจ้ากำลังขอร้องอ้อนวอนข้าอยู่หรือ?”
ราชาหมาป่าศิลาสบโอกาสเหยียดหยาม
“หากถึงเวลาที่ข้าต้องไปจากที่นี่ ข้าจะจัดการเรื่องราวของท่านให้เรียบร้อยเสียก่อน ข้าจะฝากกระบองท่อนนี้เอาไว้กับน้องชายร่วมสาบานสุดที่รักของข้า เขาเป็นคนที่พึ่งพาได้ เขาจะเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของท่าน เขาจะพาท่านตระเวนไปทั่วดินแดนทวยเทพ เพื่อตามหาบุคคลที่ท่านต้องการตามหาตัว”
หลินเป่ยเฉินยกมือตบหน้าอกด้วยความมั่นใจ
“เอาเถอะ ไม่ต้องพูดมากหรอก ข้าเองก็คิดว่าเจ้าเด็กอ้วนที่เป็นลูกสมุนของเจ้าก็น่าจะเป็นคนดีอยู่เหมือนกัน”
ราชาหมาป่าศิลากล่าว
“อ้อ เจ้าอ้วนนั่นน่ะหรือ เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่ข้าสามารถเชื่อใจได้ด้วยชีวิตในเมืองนี้ หากท่านต้องการจะใช้เขาเป็นเครื่องมือ… ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันสักเล็กน้อย”
หลินเป่ยเฉินเห็นช่องทางเจรจาต่อรอง
“ข้าจะสอนวิธีหลอมรวมพลังให้กับเจ้า”
ราชาหมาป่าศิลาพูด “ความจริง ถุงมือทองคำที่เจ้าได้รับมานั้นคือสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ เป็นใต้เท้ากั้วโง่เขลามากเกินไปถึงกับมอบให้แก่เจ้าเช่นนี้ และนี่ก็เป็นโอกาสดีของเจ้าแล้ว…”
“เจ้าทราบหรือไม่ว่าในอดีตนั้น เทพเจ้าแห่งแดนรกร้างมีความแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าใต้เท้ากั้วเสียอีก?”
หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ “ท่านรู้จักเทพเจ้าแห่งแดนรกร้างคนเก่าด้วยหรือ?”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
น้ำเสียงของราชาหมาป่าศิลาตอบกลับมาด้วยความขุ่นเคืองใจ “เจ้าหนู ปากของเจ้าช่างสกปรกเหลือเกิน ข้าเกรงว่านี่คงไม่ใช่เรื่องดี… ไม่เพียงแต่ข้าจะเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าแห่งแดนรกร้างเท่านั้น แต่ข้ายังยึดถือเขาเป็นต้นแบบในการเปิดหูเปิดตาสู่โลกใบใหม่อีกด้วย แต่โชคร้ายที่เทพเจ้าแห่งแดนรกร้างทำตามอุดมการณ์ของตนเองไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องตกตายโดยไร้ที่กลบฝัง…”
หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ
ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้เอง!