เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1380 เราไม่ใช่ตัวร้ายสักหน่อย
ตอนที่ 1,380 เราไม่ใช่ตัวร้ายสักหน่อย
“แค่ก แค่ก…”
คนถ่อแพฮั่วเซี่ยรู้สึกระคายคอเป็นอย่างยิ่ง
หมอกควันสีขาวนี้คืออะไร?
ทำไมนอกจากบดบังสายตาแล้ว ยังทำให้รู้สึกระคายคออีกด้วย?
เขาได้แต่ควานมือในหมอกขาวอย่างไร้จุดหมาย และหมอกขาวเหล่านั้นก็เกาะติดตามร่างกายเสมือนฝุ่นแป้ง… แม้โคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ขับไล่ก็ไม่อาจขับไล่ได้สำเร็จ
ฮั่วเซี่ยจึงต้องระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม
และได้แต่สบถในใจว่า.. ‘ช่างร้ายกาจจริง ๆ’
เจี๋ยนเซียวเหยาถึงกับใช้วิธีการสกปรกเช่นนี้
ฮั่วเซี่ยพยายามระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างพื้นที่ในรัศมียี่สิบวารอบกายตนเองให้ปลอดโปร่ง ด้วยวิธีนี้ อีกฝ่ายจึงไม่สามารถเข้ามาลอบโจมตีได้สำเร็จ…
ตอนแรก ฮั่วเซี่ยไม่คิดเลยว่าการสังหารเจี๋ยนเซียวเหยาจะยากลำบากถึงเพียงนี้
ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้คิดระวังตัวเลยด้วยซ้ำ
แต่เมื่อเจี๋ยนเซียวเหยาแสดงความร้ายกาจออกมา ฮั่วเซี่ยก็ตระหนักแล้วว่าตนเองเพียงผู้เดียวคงไม่สามารถจัดการเจี๋ยนเซียวเหยาได้สำเร็จแน่ ๆ
นี่ทำให้คนถ่อแพจากแม่น้ำใต้ดินรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง
ความหงุดหงิดทำให้สมาธิสั่นคลอน
ทันใดนั้น ฮั่วเซี่ยพลันรู้สึกได้ถึงมวลพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คุกคามเข้ามาใกล้
“นั่นใครน่ะ?”
ฮั่วเซี่ยคำรามออกมาเสียงดัง หอกทมิฬในมือทิ่มแทงไปยังทิศทางของคลื่นพลังนั้น
วูบ!
เกิดม่านพลังดีดสะท้อนกลับมา
“ข้าเอง”
ใครบางคนกระซิบตอบกลับมา “เทพเจ้าหมิงรั่ว”
นั่นคือเสียงกระซิบของใต้เท้าหมิงรั่ว
แต่ฮั่วเซี่ยยังไม่กล้าวางใจ รีบตรวจสอบพลังศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายทันที
และพบว่านี่คือปราณเทวะประจำตัวเทพเจ้าหมิงรั่วจริง ๆ
ไม่มีทางผิดพลาด
ปราณเทวะประจำตัวเทพเจ้าแต่ละคนคือสิ่งที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้
ฮั่วเซี่ยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ข้าได้ค้นพบความลับบางประการของเจี๋ยนเซียวเหยา…”
เทพเจ้าหมิงรั่วกระซิบขณะเดินเข้ามาใกล้
“ความลับอันใด?”
ฮั่วเซี่ยถามกลับไปด้วยความสงสัย
แต่ในทันใดนั้นเอง…
สวบ!
หัวใจของเขารู้สึกเย็นวาบ
กระบี่เงินนอกสายตาแทงทะลุร่างกาย
ฮั่วเซี่ยสะดุ้งเฮือก อุทานด้วยความโกรธแค้น “เจ้า…”
คำว่า ‘เจ้ากำลังทำอะไร’ พูดไม่ทันจบประโยค ลำแสงสีเงินก็สาดประกายวูบ
กระบี่นอกสายตาแทงเข้าสู่ปากของเขา
แทงเข้าไปจนมิดด้าม
ฮั่วเซี่ยเบิกตาโต ในที่สุดก็สามารถมองเห็นผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าชัดเจน
เป็นเทพเจ้าหมิงรั่วอันใด?
นี่คือเจี๋ยนเซียวเหยาต่างหาก
เจี๋ยนเซียวเหยายืนถือด้ามจับกระบี่นอกสายตาอยู่ในมือขวา ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธแค้น ส่วนมือซ้ายนั้นกำลังถือ…
ศีรษะของเทพเจ้าหมิงรั่ว
เทพเจ้าหมิงรั่วตายแล้วหรือ?
เหตุไฉนถึงตายอย่างรวดเร็วเพียงนี้?
นับตั้งแต่จังหวะที่เจี๋ยนเซียวเหยาขว้างปาผงขาวออกมา นี่เพิ่งจะผ่านไปได้เพียงสามสิบลมหายใจเท่านั้น เจี๋ยนเซียวเหยาก็สามารถสังหารเทพเจ้าหมิงรั่วได้สำเร็จแล้ว?
ใช้การไม่ได้
นับเป็นเทพเจ้าที่อ่อนแอมากเกินไป
ในจิตใจของฮั่วเซี่ยคำถามมากมายปรากฏขึ้นมาและตัวเขาเองก็เกิดความตื่นตระหนกจนพูดอะไรไม่ออก
แต่หลินเป่ยเฉินไม่เปิดโอกาสให้ฮั่วเซี่ยได้พูดอะไรอีก
เด็กหนุ่มบิดข้อมือ
ลิ้น ฟันและลำคอของฮั่วเซี่ยระเบิดกระจุยในพริบตา
ลำคอของเขากลายเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่
หลินเป่ยเฉินชักกระบี่กลับออกมา
และแทงสวบอีกครั้ง
ฉึก!
ในขณะนี้
กระบี่นอกสายตาส่องแสงเป็นประกายราวกับดวงดาวบนท้องนภา ตลอดร่างกายของฮั่วเซี่ยไม่ทราบเลยว่าถูกทิ่มแทงเข้าไปกี่กระบี่และปรากฏรูโลหิตขึ้นมานับจำนวนไม่ถ้วน
มิหนำซ้ำ รูโลหิตเหล่านั้นยังปรากฏเปลวไฟพวยพุ่งออกมาอีกด้วย
นี่คือเปลวไฟจากพลังอัคคีเทวะ
เปลวไฟกำลังเผาไหม้มาจากด้านในร่างกายของฮั่วเซี่ย
“ฟี้ ๆๆ…”
ลำคอของฮั่วเซี่ยเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมส่งเสียงดังแปลกประหลาดออกมา
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงของพานตั่วชิงพลันดังขึ้นเบื้องหน้า
จังหวะที่สติสัมปชัญญะกำลังจะดับวูบลง ฮั่วเซี่ยเบิกตาโตและได้พบเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลก…
เจี๋ยนเซียวเหยาผู้ยืนถือกระบี่อยู่ตรงนั้น ร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าที่ปกคลุมด้วยเปลวไฟสีแดงสว่างไสว อยู่ดี ๆ เปลวไฟเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นสีดำทมิฬ
และเพียงไม่กี่ลมหายใจ พลังปราณเทวะจากตัวเจี๋ยนเซียวเหยาก็กลายเป็นพลังปราณเทวะของฮั่วเซี่ย
ความสามารถพิเศษของเจี๋ยนเซียวเหยา… คือการลอกเลียนแบบปราณเทวะของผู้อื่น!
ดังนั้น นี่จึงเป็นคำตอบถึงการลอบโจมตีของเจี๋ยนเซียวเหยาเมื่อสักครู่ใช่หรือไม่?
หลังจากนั้น ฮั่วเซี่ยก็ได้เห็นภาพที่ทำให้ตนเองต้องตัวสั่นระริก
เจี๋ยนเซียวเหยาแสยะยิ้มด้วยความเย้ยหยัน ลอกเลียนแบบเสียงของฮั่วเซี่ยตอบกลับพานตั่วชิงไปว่า
“เจี๋ยนเซียวเหยาลงมือแล้ว…”
“ระวังมันลอบโจมตี…”
“โอ๊ย ข้าถูกกระบี่ของมันแทงแล้ว…”
ระหว่างที่เจี๋ยนเซียวเหยาส่งเสียงตะโกน เด็กหนุ่มก็ทำท่ายกมือกุมหน้าอก เดินซวนเซเข้าไปหาทิศทางเสียงของพานตั่วชิงคล้ายกับเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ
ช่างร้ายกาจนัก!
ช่างไร้ยางอายนัก!
ช่างน่ากลัวนัก!
ดวงตาของฮั่วเซี่ยเป็นประกายวูบ
เขาเข้าใจแล้วว่าตนเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
สติสัมปชัญญะเริ่มดับสูญ
ความมืดมิดถาโถมเข้ามาจากรอบทิศทาง
ฮั่วเซี่ยรู้แล้วว่าตนเองกำลังจะตาย
เช่นเดียวกับชะตากรรมของพานตั่วชิง
แผนการสังหารที่ถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบรัดกุมโดยเทพเจ้าระดับสูง กลับต้องล่มสลายไม่เป็นท่าด้วยน้ำมือของเจี๋ยนเซียวเหยาเพียงผู้เดียว
…
พานตั่วชิงได้ยินเสียงร่ำร้องด้วยความเจ็บปวดของฮั่วเซี่ย
เขาจึงรีบก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความร้อนรน
ฮั่วเซี่ยเป็นพันธมิตรของเขา พานตั่วชิงย่อมไม่มีทางทนดูอีกฝ่ายถูกเจี๋ยนเซียวเหยาฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา
มิฉะนั้น เขาคงไม่มีหน้าไปสู้ผู้ใดได้อีก
ในฉับพลัน ร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นตรงหน้า
แม้มองเห็นเป็นเพียงเงาเลือนราง แต่พานตั่วชิงก็ทราบว่าเป็นฮั่วเซี่ยพันธมิตรของเขาเอง
รูปร่างหน้าตาและเสื้อผ้าอาจจะลอกเลียนแบบกันได้ แต่พลังปราณเทวะประจำตัว ไม่มีทางลอกเลียนแบบได้เด็ดขาด
นี่คือกฎเหล็กของดินแดนทวยเทพ
“เจี๋ยนเซียวเหยาอยู่ที่ใดแล้ว?”
พานตั่วชิงก้าวเข้าไปประคอง ‘ฮั่วเซี่ย’ ด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาก็กระชับหอกคู่กายแนบแน่น
“มันผู้นั้น…”
ฮั่วเซี่ยพลันส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอ “อยู่ตรงนี้ไงล่ะ อิอิ”
พานตั่วชิงสะดุ้งเฮือก
หัวใจเย็นวาบ
เขาค่อย ๆ ก้มหน้าลง
กระบี่หน้าตาประหลาดที่มีลักษณะเหมือนกิ่งไม้แทงทะลุชุดเกราะทองคำเข้าสู่หัวใจ
นี่คือกระบี่นอกสายตาไม่ใช่หรือ?
เจี๋ยนเซียวเหยา?!
พานตั่วชิงรีบดีดกายล่าถอยด้วยความตื่นตระหนก
แต่มีหรือที่หลินเป่ยเฉินจะปล่อยให้ศัตรูของตนเองหลุดมือ?
สวบ! สวบ! สวบ!
กระบี่นอกสายตาแทงทะลวงใส่อวัยวะภายในของพานตั่วชิงอีกหลายกระบวนท่า
แสงสีเงินสาดประกายเต็มท้องฟ้า
เอี๊ยด! เอี๊ยด! เอี๊ยด!
เสียงทองคำและโลหะเสียดสีกันดังขึ้นไม่หยุดยั้ง
พานตั่วชิงพยายามจะปัดป้องกระบี่นี้แล้ว แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว หอกทองคำหลุดมือไปในไม่กี่กระบวนท่า และม่านกระบี่สีเงินก็ครอบคลุมร่างกายของเขาราวกับฝนดาวตก…
เปลวไฟจากพลังอัคคีเทวะระเบิดออกมา
สูญสิ้นพลังตอบโต้
สูญสิ้นสติสัมปชัญญะ
สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
ฉับ!
แขนขวาข้างที่เคยถือหอกทองคำถูกตัดขาด
ฉับ!
แขนอีกข้างที่คาดโล่สุริยะก็ถูกตัดขาดเช่นกัน
“ข้าเคยบอกแล้วไงว่าโล่ของเจ้าก็ต้องเป็นของข้าด้วยเช่นกัน”
หลินเป่ยเฉินก้มเก็บโล่สุริยะโดยไม่ลังเล
ตุบ!
ร่างของพานตั่วชิงลอยตกลงไปกระแทกกับพื้นสะพานหินที่กลายเป็นน้ำแข็ง
หลินเป่ยเฉินตามติดไปอย่างกระชั้นชิดและกระทืบเท้าเหยียบลงไปบนหน้าอกของพานตั่วชิง
“คิดจะฆ่าข้าหรือ?”
เขายิ้มอย่างผู้ชนะ “อิอิ คนที่คิดขวางทางข้าต้องพบแก่ความตายทั้งสิ้น… ไม่ทราบว่าเจ้ายังต้องการทำสิ่งใดอีก? ถ้าอยากรอด ไหนลองเรียกข้าว่าท่านพ่อให้ฟังหน่อยสิ”
พานตั่วชิงอ้าปากพะงาบ ๆ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง
สวบ!
ทันใดนั้น กระบี่เงินก็เสียบเข้าไปในปากของเขา
ปลายกระบี่แทงทะลุลำคอลึกลงไปถึงขั้วปอด
“คิดจะเรียกจริง ๆ หรือ… เจ้าไม่มีค่ามาเรียกข้าว่าพ่อหรอก”
หลินเป่ยเฉินยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ก่อนจะโคจรพลังอัคคีเทวะผ่านตัวกระบี่ เผาไหม้ใบหน้าของพานตั่วชิงโดยตรง
ในบรรดานิยายออนไลน์ที่หลินเป่ยเฉินเคยอ่าน พวกตัวร้ายมักจะพลาดท่าเสียทีเมื่อปล่อยให้ฝ่ายพระเอกมีเวลาได้พูดมากเกินไป
แน่นอนว่าหลินเป่ยเฉินย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนั้นเกิดขึ้น เขาไม่ยอมให้พานตั่วชิงพูดออกมาแม้แต่คำเดียว คมกระบี่ก็แทงทะลวงเข้าไปในปากโดยทันที
เรื่องนี้ชักสนุกแล้วสิ
จัดการฌาปนกิจให้เลยดีไหม?
หืม?
เดี๋ยวก่อนสิ เราไม่ใช่ตัวร้ายสักหน่อย
ทำไมจะต้องกลัวพานตั่วชิงพูดมากด้วย?
หลินเป่ยเฉินรีบบอกตนเองให้ตั้งสติ
และกลับมาสนใจที่การคิดบัญชีแค้นอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิดขึ้น
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงคำรามดังกังวานไปทั่วหุบเหวโหยหวน
แล้วมือเทพเจ้าขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟลุกไหม้โชติช่วงชัชวาลก็พุ่งทะลุค่ายอาคมเข้ามายังตำแหน่งที่หลินเป่ยเฉินกำลังยืนอยู่พร้อมด้วยมวลพลังทำลายล้างมากมายมหาศาล!!