เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1438 เขามาแล้ว
ตอนที่ 1,438 เขามาแล้ว
ลำแสงสีเขียวสาดส่องสว่าง
เศษเนื้อเศษเลือดเศษกระดูกที่กระจายอยู่ในอากาศพลันกลับมารวมตัวกันคล้ายเวลาเดินถอยหลัง
หลังจากนั้น ผู้อาวุโสฉีก็ปรากฏตัวขึ้นมาห่างออกไปห้าสิบวา
ในมือถือขวดน้ำเต้าสีเหลืองซีด ตามร่างกายปรากฏรอยขีดข่วนและเส้นเลือดขึ้นปูดโปน
เมื่อกระดกดื่มสิ่งที่อยู่ในขวดน้ำเต้า ชายชราก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม
ผู้อาวุโสฉียังไม่ตาย
“ขวดน้ำเต้าเหมสุวรรณเป็นสมบัติสวรรค์ล้ำค่า ผู้คนมากมายอยากได้มาครอบครอง แต่ท่านกลับนำมาบรรจุสุราเท่านั้นเองหรือ?”
เว่ยหมิงเฉินไม่ได้แปลกใจกับการฟื้นคืนชีพของผู้อาวุโสฉีแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสฉีไม่ได้ตอบรับคำใด เมื่อดื่มสิ่งที่อยู่ในขวดน้ำเต้าจนพอใจแล้ว เขาจึงได้ลดขวดน้ำเต้าลงจากริมฝีปาก
เว่ยหมิงเฉินละสายตาจากขวดน้ำเต้าเหมสุวรรณและหันไปจ้องมองที่นักพรตหญิงชินอีกครั้ง “เจ้ายังมีกำลังเสริมอีกหรือไม่ บอกให้พวกเขาออกมาเถอะ ถึงลอบโจมตีข้าไปก็ไร้ความหมาย”
นักพรตหญิงชินไม่ได้ตอบรับคำใด
ปีกกระบี่บนแผ่นหลังของนางกางออกอย่างช้า ๆ
สิ่งที่ควรจะเป็นขนนกบนปีกนั้น ถูกแทนที่ด้วยมีดสั้นจำนวนนับไม่ถ้วน
มีดสั้นทุกเล่มมีม่านพลังสีเงินห่อหุ้มเอาไว้
ม่านพลังเหล่านั้นเชื่อมโยงกับค่ายอาคมแดนดาราดับอสูร ช่วยเสริมสร้างให้พลังของนักพรตหญิงชินแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ทันใดนั้น นักพรตหญิงชินถือกระบี่อยู่ในสองมือ จากนั้นก็ฟันกระบี่ออกมาข้างหน้า
ตู้ม!
สิ้นสุดการเคลื่อนไหวนี้ ด้านหลังของนางก็ปรากฏภาพมายาของหญิงสาวร่างยักษ์ผู้ถือกระบี่อยู่ในมือและฟาดฟันกระบี่ลงมาด้วยความดุดัน
พลัน ลำแสงกระบี่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า
ลมหายใจต่อมา
ลำแสงกระบี่นั้นก็พุ่งเป็นเส้นตรงลงมาที่จุดหมาย ซึ่งก็คือศีรษะของเว่ยหมิงเฉิน
ฉับพลันนั้น สีหน้าของพ่อบ้านและเหล่าองครักษ์แปรเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทราบดีถึงอานุภาพการทำลายล้างที่น่ากลัวของกระบี่นี้
หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาไปรับกระบี่นี้แทน ทุกคนก็คงต้องถึงแก่ความตายแล้ว
“นี่คือกระบวนท่าแสงกระบี่พิพากษาใช่หรือไม่?”
เส้นผมยาวสลวยของเว่ยหมิงเฉินปลิวไสว “ข้าเคยพบกับกระบวนท่านี้มาก่อน ฮ่า ๆๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็สามารถใช้ได้เช่นกัน… นับว่าน่าสนใจยิ่งนัก”
บุรุษหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้น งอนิ้วทั้งห้าลงเล็กน้อยและชูมือขึ้นไปบนท้องฟ้า
เว่ยหมิงเฉินตั้งใจใช้มือเปล่ารับแสงกระบี่นั้น
ในเวลาเดียวกันนี้
ผู้อาวุโสฉีก็เคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน
ชายชราฟื้นฟูพลังกลับขึ้นมาเต็มที่ พลังศักดิ์สิทธิ์จากร่างกายพวยพุ่งออกมารอบทิศทางราวกับภูเขาไฟระเบิด เบี้ยหมากล้อมสีขาวดำลอยขึ้นมาในอากาศทางด้านหลัง เรียงตัวเป็นรูปทรงกระดานหมากล้อมกระดานหนึ่ง…
นี่คือกระบวนท่าพิฆาตศัตรูของผู้อาวุโสฉี
เขาเองก็มาจากดินแดนทวยเทพเช่นกัน
ฟุบ!
เบี้ยหมากล้อมสีขาวดำเหล่านั้นกำลังจะพุ่งเข้าไปทางเว่ยหมิงเฉิน
“เจ้ากล้าดีอย่างไร?”
พ่อบ้านวัยกลางคนพลันก้าวออกมาข้างหน้า ระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากร่างกาย เพื่อหยุดยั้งเบี้ยหมากล้อมเหล่านั้น
“ไม่ต้องมายุ่ง”
เว่ยหมิงเฉินส่งเสียงคำราม “ผู้ใดบอกให้เจ้าเข้ามาแทรกแซง?”
แล้วสายโซ่สีดำก็พุ่งเข้าไปฟาดใส่ร่างของ ‘พ่อบ้าน’ อย่างแรง
“ฟู่!”
โลหิตพุ่งกระฉูดออกจากปากพ่อบ้านขณะที่ตัวคนลอยกระเด็นไปกระแทกเข้ากับม่านพลังของค่ายอาคมแดนดาราดับอสูร ก่อนจะกระเด้งลงมาฟุบหน้าอยู่กับพื้นหิน
แต่พ่อบ้านกลับไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ มิหนำซ้ำ ยังลนลานลุกขึ้นมาคุกเข่าขออภัยด้วยความรู้สึกผิดอีกด้วย
ครืน!
พื้นดินสั่นสะเทือน
ม่านพลังของค่ายอาคมแดนดาราดับอสูรเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง
เว่ยหมิงเฉินสามารถรับแสงกระบี่พิพากษาได้ด้วยมือเปล่าจริง ๆ
ลำแสงกระบี่นั้นได้เปลี่ยนไปกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งที่ถูกสองนิ้วของเขาคีบหนีบอย่างแนบแน่น
ในเวลาเดียวกันนี้ เบี้ยหมากล้อมก็โจมตีเข้ามารอบทิศทาง ในขณะที่เบี้ยหมากล้อมอีกส่วนก็ฝังตัวลงไปบนพื้นหิน
เว่ยหมิงเฉินพบว่าตนเองกำลังยืนอยู่บนกระดานหมากล้อมขนาดใหญ่
“ด้วยพลังแห่งภูผามหานที ดวงชีวีแห่งมารร้ายจงดับสูญ!”
วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!
ผู้อาวุโสฉีร้องคำรามและเปิดจุกขวดน้ำเต้าในมือ สิ่งที่พุ่งออกมาในครั้งนี้กลับเป็นเบี้ยหมากล้อมสีขาวดำจำนวนมาก และพวกมันก็กำลังพุ่งตรงไปยังกระดานหมากล้อมขนาดใหญ่นั้น
เพียงพริบตาเดียว
รอบกายของเว่ยหมิงเฉินก็เต็มไปด้วยเบี้ยหมากล้อม
พลังทำลายล้างที่แผ่ออกมาจากตัวเบี้ยเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสฉีต้องการจะสังหารเว่ยหมิงเฉิน
เมื่อผู้อาวุโสฉีและนักพรตหญิงชินลงมือโจมตีพร้อมกัน จึงเห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของบุรุษหนุ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้ว
แต่เว่ยหมิงเฉินกลับเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะใส่ท้องฟ้าอย่างสบายใจ
“นี่หรือคือไพ่ตายของพวกท่าน?”
ผมของเขาปลิวไสว แม้จะมีพลังกดดันมหาศาลจู่โจมเข้ามาจากรอบกาย แต่เพียงเขาดีดนิ้วมือเท่านั้น พายุลมหมุนก็ระเบิดออกมาจากร่าง ต้านทานการโจมตีเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย…
ดูเหมือนเว่ยหมิงเฉินกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
ผ่านไปหลายลมหายใจ
เว่ยหมิงเฉินส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่าย “ดูเหมือนว่าหลินเป่ยเฉินจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้สินะ”
ที่เขายอมถูกโจมตีอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นเพราะว่าเว่ยหมิงเฉินกำลังรอคอยให้หลินเป่ยเฉินปรากฏตัวออกมา
เขาจะให้โอกาสหลินเป่ยเฉินได้แสดงฝีมือ
หลังจากพูดจบ พลังศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเว่ยหมิงเฉิน
พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นเปลี่ยนรูปทรงกลายเป็นสายโซ่สีดำรัดพันกระบี่ที่มาจากกระบวนท่าแสงกระบี่พิพากษาของนักพรตหญิงชิน และเมื่อสายโซ่นั้นเพิ่มแรงบีบรัด กระบี่ก็แตกกระจายกลายเป็นเศษแสงจันทรา…
“ฟู่”
นักพรตหญิงชินใบหน้าขาวซีด โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก ภาพมายาของสตรียักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังสลายหายวับไป
ในเวลาเดียวกันนี้
สายโซ่สีดำก็เคลื่อนไหวราวกับเป็นพญามังกรฟาดหางเข้าใส่บรรดาเบี้ยหมากล้อมขาวดำที่อยู่โดยรอบ
แม้ว่าจะมีเบี้ยหมากล้อมพุ่งออกมาจากขวดน้ำเต้าในมือผู้อาวุโสฉีอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับอัตราการทำลายล้างที่เกิดขึ้น
“ข้าขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน แม้ว่าท่านจะโง่เขลา แต่ก็สามารถใช้งานน้ำเต้าเหมสุวรรณได้อย่างมีอานุภาพ น่าเสียดายที่ยังไม่เพียงพอ”
เว่ยหมิงเฉินหัวเราะเยาะ ยกเท้าซ้ายขึ้นและกระทืบลงไปบนพื้นอย่างแรง
คลื่นพลังแผ่กระจายไปรอบทิศทางโดยที่มีร่างของเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
ครืน!
กระดานหมากล้อมยักษ์พังทลายลงไปทันที
กระดานหมากล้อมพังทลายแล้ว เบี้ยหมากล้อมย่อมไม่มีเหลืออยู่
ผู้อาวุโสฉีถ่ายทอดพลังวิญญาณของตนเองลงไปไม่น้อย โลหิตจึงไหลทะลักออกมาจากหูตาจมูกปากของเขาอย่างควบคุมไม่ได้…
ท่าไม้ตายประจำตัวถูกทำลายลงแล้ว
ชายชราได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขวดน้ำเต้าในมือผู้อาวุโสฉีเปล่งแสงสว่างวาบอีกครั้ง เบี้ยหมากล้อมที่ไหลทะลักออกมาจากปากขวดพลันห่อหุ้มร่างกายของท่านผู้เฒ่าและเริ่มต้นกระบวนการรักษาอาการบาดเจ็บ
“คิดจะฟื้นตัวก็คงต้องใช้เวลานานกว่านี้สินะ… ฮ่า ๆๆ แต่ท่านไม่มีเวลาเหล่านั้นอีกแล้ว”
เว่ยหมิงเฉินกระแทกฝ่ามือของตนเองออกไปข้างหน้า
มวลพลังที่เป็นสายโซ่สีดำอีกแปดเส้นพุ่งตัดอากาศตรงไปยังขวดน้ำเต้าเหมสุวรรณ
นักพรตหญิงชินถลันกายเข้ามาฟันกระบี่ใส่สายโซ่เหล่านั้น
ต้องการซื้อเวลาให้ผู้อาวุโสฉี
แต่ปรากฏสายโซ่อีกสองเส้นพุ่งเข้ามาตวัดรัดพันกระบี่ในมือของนักพรตหญิงชิน มิหนำซ้ำ สายโซ่เหล่านั้นยังฟาดนางกระอักเลือดลอยกระเด็นออกไปอีกด้วย
ความแข็งแกร่งของขั้นพลังยังแตกต่างกันมากเกินไป
นักพรตหญิงชินลอยคว้างอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าหม่นหมอง ดูเหมือนนางจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ มวลพลังที่แปลกประหลาดกำลังจะระเบิดออกมาจากร่างกาย
แต่ทันใดนั้นเอง…
“นี่มันอะไรกัน?”
เว่ยหมิงเฉินพลันส่งเสียงกระซิบออกมาว่า….
“เขามาแล้ว!”