เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1508 หากมีโอกาส
ตอนที่ 1,508 หากมีโอกาส
ลำแสงจากหอกสาดประกายเป็นสีแดง
แสงสว่างวูบวาบ
รังสีกระบี่ถูกสลายลงไป
ตัวคนผละออกจากกัน
เงาร่างคนสั่นไหว
คมหอกและคมกระบี่เคลื่อนไหวเร็วไว
สะเก็ดไฟสาดกระจาย เสียงอาวุธปะทะกันดังกังวานราวกับเสียงบรรเลงดนตรี
เงาร่างของผู้คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ก่อนที่จะแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชินอวิ๋นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนักพรตหญิงชิน
ด้านหลังเด็กสาวหน้าอกโตเป็นสนามพลังของแท่นบูชาเก้าชั้น ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์
แท่นบูชานี้กำลังดูดซับพลังมาจากทั่วแผ่นดินตงเต้าและถ่ายทอดพลังทั้งหมดนั้น เข้าสู่ร่างกายของเด็กสาวผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านบนสุดของแท่นบูชา
“ถอยไปซะ”
นักพรตหญิงชินถือกระบี่ลำแสงอยู่ในมือ ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความดุดัน
นางจะไม่ยอมให้การเสียสละของหลินเป่ยเฉินต้องสูญเปล่า
ไป๋ชินอวิ๋นส่ายศีรษะอย่างแช่มช้า
“ขอปฏิเสธ”
ดวงตาของนางเย็นชาและเรียบเฉยราวกับทะเลสาบที่ไร้คลื่นลม
นักพรตหญิงชินชักสีหน้าด้วยความเดือดดาลใจ
“ข้าจำได้ว่าเจ้าเองก็เคยหลงรักเขา”
นักพรตหญิงชินพยายามจะเกลี้ยกล่อมเด็กสาวด้วยวาจาไม่ใช่กระบี่
การต่อสู้สั้น ๆ เมื่อสักครู่นี้ ทำให้นางทราบแล้วว่าไป๋ชินอวิ๋นมีฝีมือแข็งแกร่งมากขึ้น และเด็กสาวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่นักพรตหญิงชินจะสามารถเอาชนะได้ในเวลาอันสั้น
“แล้วไงล่ะ?”
ไป๋ชินอวิ๋นถามกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องถอยไปซะ”
นักพรตหญิงชินรีบพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “เพื่อทำลายแท่นบูชาแห่งนี้ เขาถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตของตนเอง หากสามารถทำลายแท่นบูชานี้ลงไปได้ โอกาสที่เขาจะชนะก็จะมีมากขึ้น… ไป๋ชินอวิ๋น หากเจ้ายังคงมีเขาอยู่ในหัวใจ เจ้าก็ต้องถอยไปเดี๋ยวนี้”
“ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ห้ามไม่ให้มีผู้ใดแตะต้องแท่นบูชาเด็ดขาด”
คำตอบของไป๋ชินอวิ๋นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา
หอกขึ้นสนิมในมือของนางเปล่งแสงสว่างออกมาเรืองรอง “พูดไปก็ไร้ประโยชน์ นักพรตหญิงชิน หากท่านอยากทำลายแท่นบูชานี้ ท่านก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
ดวงตาของไป๋ชินอวิ๋นก็เป็นประกายมุ่งมั่นเช่นกัน
บัดนี้ นักพรตหญิงชินรู้แล้วว่าเพียงวาจาอย่างเดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนใจอดีตเด็กสาวที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองหยุนเมิ่งได้อีก
ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องต่อสู้
เปรี้ยง!
ลำแสงกระบี่พุ่งตัวออกไป มวลอากาศปั่นป่วนราวกับคลื่นทะเลคลั่ง
“ปีกกระบี่สังหาร!”
นักพรตหญิงชินระเบิดเสียงคำรามและใช้กระบวนท่าไม้ตายของตนเองออกมา
แล้วร่างของนางก็ปกคลุมด้วยลำแสงสีเงินตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
กระบี่ลำแสงในมือของนักพรตหญิงชินสาดประกายเจิดจ้า มวลอากาศปั่นป่วน เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น กระบี่ในมือนักพรตหญิงชินก็ขยายขนาดใหญ่มากขึ้นจนกลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่มีขนาดเท่าเรือเหาะและกระบี่ยักษ์เล่มนั้นก็กำลังพุ่งเข้าไปหาไป๋ชินอวิ๋น…
กระบี่ยักษ์พุ่งเข้ามาพร้อมกับคลื่นพลังทำลายล้างมหาศาลและไม่ควรมีผู้ใดจะสามารถต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้อีก
“แข็งแกร่งเหลือเกิน”
ไป๋ชินอวิ๋นเงยหน้าขึ้น เส้นผมสีแดงยาวสลวยปลิวไสว
ทันใดนั้น ลำแสงทองคำเรืองรองออกมาจากผิวกายของเด็กสาวหน้าอกโต แล้วระดับพลังในร่างกายก็เพิ่มสูงมากขึ้น หอกในมือพุ่งออกมาเป็นลำแสงสีแดงทะลุฟ้า
“กระบวนท่าลำแสงโลหิต!”
นางเองก็ลอยตัวขึ้นมาบนท้องฟ้าพร้อมกับหอกแห่งโชคชะตาเช่นกัน
พลังทำลายล้างสองสายปะทะกันอย่างหนักหน่วงเหนือยอดเขาศักดิ์สิทธิ์
การปะทะกันครั้งนี้ทำให้แผ่นดินสะท้านแผ่นฟ้าสะเทือน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
การระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แท่นบูชาเก้าชั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง
ก้อนเมฆบนท้องฟ้ากระจายหายไป เงาร่างของนักพรตหญิงชินกับไป๋ชินอวิ๋นยังคงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บรรดาเทพอสูรที่ล่าถอยออกไปไม่ทันต่างก็ได้รับลูกหลงจากคลื่นพลังทำลายล้างในรัศมีสองลี้ พวกเขามีเวลาเพียงแค่ทำสีหน้าตื่นตระหนกเท่านั้น ก่อนที่ตัวคนจะระเบิดกระจายกลายเป็นม่านหมอกเลือด สลายหายไปในสายลม
ไม่อาจฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีก
นี่คือการต่อสู้ที่หมายมั่นเอาชีวิตกันอย่างแท้จริง
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารใหญ่แห่งวิหารเทพพงไพรสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง นักบวชจำนวนมากรีบสวดภาวนาและถ่ายทอดพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ค่ายอาคมอารักขาภูเขา เพื่อป้องกันการถล่มของแท่นบูชาเก้าชั้นด้วยทุกวิถีทางที่ทำได้
ผ่านไปยี่สิบลมหายใจ
คลื่นพลังทำลายล้างก็แผ่วเบาลง
มีเพียงแต่บริเวณศูนย์กลางการต่อสู้เท่านั้นซึ่งมวลอากาศยังปั่นป่วน เด็กสาวหน้าอกโตมีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก ก่อนที่ร่างจะลอยกระเด็นออกมาจากศูนย์กลางการต่อสู้นั้น
ร่างทองคำของนางได้รับความเสียหาย ช่วงหัวไหล่ปรากฏบาดแผลจากคมกระบี่ โลหิตไหลทะลักออกมาไม่หยุด
“พรวด!”
ไป๋ชินอวิ๋นลอยตัวโซเซ กระอักเลือดออกมาจากปากคำใหญ่
นางรีบนั่งขัดสมาธิกลางอากาศทันที
ร่างกายสีทองคำเปล่งแสงสว่างเรืองรองออกมามากขึ้นและอาการบาดเจ็บก็เริ่มได้รับการเยียวยา
ผ่านไปอีกสิบลมหายใจ
คลื่นพลังแห่งการทำลายล้างใจกลางบริเวณการต่อสู้ก็ค่อย ๆ สลายตัวลง
แต่หอกแห่งโชคชะตายังคงลอยอยู่ในอากาศ
และปลายหอกก็เสียบทะลุร่างนักพรตหญิงชิน
ปลายหอกแทงทะลุหัวใจของนักพรตหญิงชิน
โลหิตสีแดงสดไหลทะลักออกมา
เส้นผมสีเงินสว่างไสวห้อยลงมาปิดบังใบหน้าที่งดงามนั้น
ติ๋ง! ติ๋ง! ติ๋ง!
โลหิตสีแดงสดไหลผ่านตัวหอกและร่วงหยดลงมาจากท้องฟ้า
“แค่ก แค่ก แค่ก…”
นักพรตหญิงชินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก
โลหิตไหลทะลักออกมาจากร่างของสาวงามผู้ไม่เคยอยากเป็นเทพเจ้า ดวงตาของนางร้อนผ่าวด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธแค้น
“เจ้า… ยังมีโอกาสสุดท้าย… รีบทำลายแท่นบูชาทิ้งไปซะ อย่าได้ทำให้ตนเองเสียใจ… ไม่สิ… มิฉะนั้นแล้ว… หลินเป่ยเฉินจะไม่มีทางให้อภัยเจ้าเด็ดขาด”
นักพรตหญิงชินจ้องมองไป๋ชินอวิ๋น พยายามเกลี้ยกล่อมเป็นครั้งสุดท้าย
ไป๋ชินอวิ๋นยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ในความเงียบ
“หลินเป่ยเฉินไม่ให้อภัยข้า แล้วมันจะเป็นอย่างไร?”
สีหน้าของเด็กสาวไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ราวกับว่าชื่อของเด็กหนุ่มผู้นั้นไม่ได้มีความหมายใด ๆ ต่อนางเลย
ความโกรธแค้นปรากฏขึ้นบนสีหน้าของนักพรตหญิงชิน
แต่หอกยาวที่แทงทะลุร่างกายของนางนั้นทำให้นักพรตหญิงชินไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงในการต่อสู้อีกแล้ว มือเรียวบางกำด้ามจับกระบี่แนบแน่น เห็นได้ชัดว่านางยังคงพยายามรวบรวมพลังเฮือกสุดท้าย…
แต่ก็ไม่เป็นผล
พลังชีวิตของนางอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
“ท่านก็รักเขาเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
ไป๋ชินอวิ๋นลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า
ความเศร้าเสียใจกลืนกินหัวใจของนักพรตหญิงชิน
นักพรตหญิงชินเสียใจที่ตนเองในยามมีชีวิตอยู่ไม่เคยแสดงออกให้หลินเป่ยเฉินรับทราบเลยว่านางเองก็รักเขาเช่นกัน
“หากมีโอกาส อย่าลืมยิ้มให้เขาบ้างก็แล้วกัน”
แววตาของไป๋ชินอวิ๋นพลันเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด
นางล้วงแผ่นยันต์ออกมาจากในอกเสื้อและใช้นิ้วมือขีดเขียนอักขระโบราณบางชนิด สีหน้าเคร่งเครียด ราวกับว่านี่คือเรื่องที่สำคัญมาก
“เห็นท่านเป็นห่วงเขาขนาดนี้แล้ว ช่างน่าเจ็บใจเหลือเกิน… ข้าจะส่งท่านไปพักผ่อนล่วงหน้าก่อนแล้วกัน”
เส้นผมสีแดงปลิวไสว ไป๋ชินอวิ๋นยกมือขึ้นและปล่อยมือจากแผ่นยันต์
แผ่นยันต์สีแดงพลันพุ่งออกมาข้างหน้า
ในดวงตาของนักพรตหญิงชินเห็นแผ่นยันต์สีแดงนั้นลอยเข้ามาใกล้ มันขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนห่อหุ้มร่างกายของนางได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แล้วร่างของนักพรตหญิงชินก็หายวับไปพร้อมกับยันต์แผ่นนั้น
หลงเหลือเพียงหอกแห่งโชคชะตาที่ลอยค้างกลางอากาศอยู่ในตำแหน่งเดิม
ไป๋ชินอวิ๋นยกมือขึ้น
หอกศักดิ์สิทธิ์พลันลอยกลับเข้ามาอยู่ในมือของนาง
อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดล่ะนะ
ชีวิตคนเราย่อมมีทางเลือกมากมาย
แม้นางเลือกตัดสินใจทำเช่นนี้ แต่ไป๋ชินอวิ๋นก็มั่นใจว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนเองจะไม่คิดเสียใจทีหลังแน่นอน!