เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1587 ทลายขีดจำกัด
ตอนที่ 1,587 ทลายขีดจำกัด
การดูดซับพลังเสร็จสิ้น
หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นยืน สัมผัสได้ถึงมวลพลังที่ไหลเวียนอยู่ในแขนซ้าย
บัดนี้ เขารู้สึกว่าแขนซ้ายของตนเองมีความแข็งแกร่งจนสามารถตบหลิวอู่เหยียนสิบคนตายได้ในครั้งเดียว
แขนซ้ายของเขาน่าจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ที่มีขั้นพลังจอมเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ทันใดนั้น เสียงของผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะเสี่ยวจี้ก็ดังขึ้นในหูของหลินเป่ยเฉินว่า
‘ติ๊ง!’
‘ภารกิจเลื่อนขั้นพลังด่วนพิเศษจากแอปพลิเคชัน Keep เสร็จสิ้นแล้ว’
‘ท่านได้รับของรางวัลเป็นการเลื่อนขั้นสู่จอมเทพระดับ 5 และได้รับโอสถวิเศษสำหรับการเลื่อนขอบเขตพลัง’
‘ต้องการตรวจสอบเลยหรือไม่?’
เสียงของเสี่ยวจี้ยังคงฟังไพเราะเสนาะหูเช่นเดิม
ในที่สุด เจ้าเสี่ยวหูซึ่งเป็นเพียงผู้เดียวที่ยังเลื่อนขั้นไม่สำเร็จ ในขณะนี้ มันคงเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตจอมอสูรระดับ 4 ได้แล้วสินะ?
“ตรวจสอบเลย”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งโดยไม่ลังเล
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าพลังปราณในร่างกายปั่นป่วนพลุ่งพล่าน แล้วในพริบตานั้น เขาก็เลื่อนขึ้นสู่ขอบเขตจอมเทพระดับ 5 โดยทันที
คลื่นพลังในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรง
แม้เขาจะทำได้เพราะมีโทรศัพท์มือถือคอยช่วยเหลือ
แต่หลินเป่ยเฉินก็ถือว่านี่เป็นความวิริยะอุตสาหะของตนเองเช่นกัน
เด็กหนุ่มร้องคำรามด้วยความดีใจอยู่ในใจเงียบ ๆ
ทันใดนั้น เหนือศีรษะของเขาก็ปรากฏหลุมดำขนาดเล็กขึ้นมา
มีเพียงหลินเป่ยเฉินคนเดียวเท่านั้นที่เห็นหลุมดำหลุมนี้
แล้วยาลูกกลอนสีเลือดหมูเม็ดหนึ่งก็ร่วงหล่นลงสู่ฝ่ามือของหลินเป่ยเฉิน
อ๊ะ อย่าบอกนะว่า…
นี่จะเป็นโอสถวิเศษสำหรับการเลื่อนขอบเขตพลัง?
หลินเป่ยเฉินโยนยาลูกกลอนเม็ดนั้นใส่ปากไม่ลังเล
เขาเชื่อใจสิ่งที่มาจากโทรศัพท์มือถือเสมอ
เมื่อเม็ดยาลูกกลอนเข้าไปอยู่ในปาก หลินเป่ยเฉินก็สัมผัสได้ถึงรสชาติอันหอมหวาน ก่อนที่คลื่นพลังร้อนอุ่นจะแผ่กระจายไปทั่วปาก ลำคอและทางเดินอาหารอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินเริ่มรู้สึกร้อนอุ่นขึ้นมาจากกระเพาะของตนเองเล็กน้อย
และแล้ว…
เปรี๊ยะ!
เหมือนมีบางอย่างในร่างกายของหลินเป่ยเฉินกระเทาะแตกออกมา
คลื่นพลังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนพวยพุ่ง
หลังจากนั้น
หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าขั้นพลังจอมเทพระดับ 5 ของตนเองนั้นได้เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุดยั้ง และพลังปราณจำแลงในร่างกายก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นพลังปราณแท้จริง
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
ก้าวแรกของการมุ่งหน้าสู่ขอบเขตจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ ก็คือการเปิดผนึกพลังปราณแท้จริงในร่างกายให้ได้ก่อน ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำได้สำเร็จแล้วในขณะนี้…
แต่ก็ยังมีเรื่องสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ให้คอยเป็นกังวลอยู่ดี
สำหรับผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถฝึกวิชาฝีมือไปจนถึงระดับสูงได้
เพราะฉะนั้น หลินเป่ยเฉินจึงไม่เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนปราณจำแลงให้กลายเป็นปราณแท้จริงมาก่อน
แต่บัดนี้ ด้วยอานุภาพของโอสถวิเศษสำหรับการเลื่อนขอบเขตพลัง สิ่งที่หลินเป่ยเฉินไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นแล้ว
นั่นทำให้หลินเป่ยเฉินอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า ‘นี่โทรศัพท์มือถือของเรามีอำนาจอยู่เหนือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในภพภูมินี้ใช่ไหมเนี่ย?’
มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
ในไม่ช้า หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกได้ว่าอานุภาพของโอสถวิเศษไม่ได้หยุดยั้งอยู่ที่การเปิดผนึกปราณแท้จริงเท่านั้น
คลื่นพลังชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ในร่างกายของเขาก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
พลังปราณของหัวหน้าฝูงสุนัขอสูรวายุซึ่งกักเก็บอยู่ในมือขวาของเขานั้นถูกหลอมรวมโดยสมบูรณ์ และพลังของมันก็แทรกซึมอยู่ตามผิวหนังของเขา
หลังจากนั้น พลังปราณจากปีศาจเหยียนซานที่ถูกเก็บอยู่ในมือขวาเช่นกัน ก็ได้รับการหลอมรวมโดยสมบูรณ์
และพวกมันก็แทรกซึมอยู่ตามผิวหนังของเขา
บัดนี้ ผิวหนังของเด็กหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วงขึ้นมาจาง ๆ แล้ว
เป็นสีผิวประจำเผ่าพันธุ์ปีศาจ
หลินเป่ยเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แต่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวกับสิ่งใด การดูดซับพลังก็ดำเนินต่อไป
พลังของภูตอเวจีร่างใหญ่ยักษ์ที่ถูกเก็บอยู่ในแขนซ้ายได้รับการหลอมรวมอย่างต่อเนื่อง และมันก็แทรกซึมอยู่ตามผิวหนังของเขาอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินจึงมีสีผิวเป็นสีม่วงเข้มมากขึ้น
บนผิวหนังเริ่มปรากฏอักขระหน้าตาประหลาดขึ้นมาชวนตาลาย
นี่เรากำลังจะกลายพันธุ์หรือไงวะ?
หลินเป่ยเฉินเริ่มรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เขาก็ไม่อาจควบคุมความเปลี่ยนแปลงในร่างกายตนเองได้เลย
หากความเปลี่ยนแปลงดำเนินต่อไปเช่นนี้ สุดท้ายแล้ว เขายังจะเป็นมนุษย์ดังเดิมหรือกลายเป็นปีศาจกันแน่?
หลินเป่ยเฉินพยายามหยุดการหลอมรวมพลังและความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
แต่การหลอมรวมพลังก็ยังคงดำเนินต่อไป
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ
การเลื่อนขั้นพลังของหลินเป่ยเฉินก็เสร็จสิ้น
หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นรับประทานโอสถวิเศษเม็ดนี้เข้าไป อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลอมรวมพลังหลายปี บางคนอาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบปีด้วยซ้ำ
แต่หลินเป่ยเฉินกลับสามารถหลอมรวมได้สำเร็จในยี่สิบลมหายใจเท่านั้น
ขณะนี้ คลื่นพลังในร่างกายยังคงปั่นป่วนโกลาหล
ไม่ใช่เพียงแต่พลังปราณปีศาจจากแขนซ้ายของหลินเป่ยเฉินเท่านั้นที่กำลังปั่นป่วน แม้แต่ปราณแท้จริงในร่างกายของเขาก็ไม่อยู่นิ่งเฉยเช่นกัน
คลื่นพลังทั้งหมดกำลังแทรกตัวเข้าไปสู่ผิวหนังของเขา
ผ่านไปอีกยี่สิบลมหายใจ
ในที่สุด ความปั่นป่วนของคลื่นพลังในร่างกายก็ค่อย ๆ สงบลงจนกลายเป็นปกติ
พลังปราณปีศาจที่ถูกเก็บอยู่ในแขนซ้ายสี่จากห้าส่วนได้รับการหลอมรวมหมดสิ้น แขนของเขาที่เคยบวมโตก็กลับมามีขนาดเท่ากับแขนมนุษย์ปกติ สีผิวที่เคยเป็นสีม่วงก็กลับกลายเป็นสีปกติ มีเพียงแต่มือเท่านั้นที่ยังคงเป็นสีม่วงอยู่เช่นเดิม
แต่ในเวลาเดียวกันนี้ ก็ยังเหลือปราณปีศาจอีกส่วนหนึ่งถูกบรรจุอยู่ในแขนซ้าย
ทันใดนั้น สีผิวของหลินเป่ยเฉินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสีม่วงเหลื่อมทอง
อย่าบอกนะว่า…
นี่เรากำลังจะกลายร่างเป็นฟรีเซอร์ในดราก้อนบอลใช่ไหม?!
หลินเป่ยเฉินอดแซวตัวเองขึ้นมาไม่ได้ เพราะบัดนี้ เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย
สีผิวของเขาเป็นสีม่วงเหลื่อมทอง ไม่ได้เป็นสีม่วงล้วน ๆ
เท่ากับว่าเขาไม่ได้กลายร่างเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจสักหน่อย
อีกอย่าง เมื่อลองใช้วิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณ หลินเป่ยเฉินก็พบว่าเขาสามารถซ่อนสีผิวของตนเองให้ย้อนกลับไปเป็นสีธรรมดาได้อีกด้วย
ประเสริฐ
เท่ากับว่าโดยพื้นฐานแล้ว เขายังเป็นมนุษย์เหมือนเดิม
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกแปลกใจในอะไรบางอย่าง
ผิวหนังของหลินเป่ยเฉินมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินเชื่อว่าหากคู่ต่อสู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมปีศาจศักดิ์สิทธิ์ได้โจมตีใส่ตนเองอย่างสุดกำลัง ผมของเขาก็จะไม่ร่วงหล่นแม้แต่เส้นเดียวด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถใช้ขนตาของตนเองปัดป้องกระบี่ และหมัดของคู่ต่อสู้ที่กระแทกเข้าใส่ดวงตาของเขานั้น ก็ไม่ต่างจากกำลังกระแทกเข้าใส่หินผาศิลาแลงเลยทีเดียว
ร่างกายของมนุษย์ย่อมมีขีดจำกัด
แต่เมื่อผ่านการเลื่อนขั้นพลังแล้ว… ร่างกายของหลินเป่ยเฉินก็ได้ทลายขีดจำกัดโดยสมบูรณ์!
เด็กหนุ่มกำลังตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
นี่สินะที่โบราณบอกเอาไว้ว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ด้วยร่างกายที่มีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เขายังจะต้องหวาดกลัวผู้ใดอีกหรือ?
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมดกินเวลาไม่ถึงหกสิบลมหายใจ
หลินเป่ยเฉินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
ในดวงตาของเขาปรากฏแสงสว่างสีม่วงเรืองรอง
เส้นผมสีม่วงของเขายาวสลวยปลิวไสวตามสายลม
เอ๊ะ?
สีม่วง?
หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ รีบรวบผมของตนเองมาดู ก่อนที่จะต้องอ้าปากเหวอจนสามารถยัดหมั่นโถวเข้าไปได้ทั้งลูก…
เชี่ยไรเนี่ย!
เส้นผมของเขากลายเป็นสีม่วงไปทั้งศีรษะแล้ว!!!