เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1605 ข้ามีนามว่าอวี้เหวินซิวเซียน
เมื่อสามารถกำจัดพวกตัวหัวหน้าใหญ่ได้แล้ว สถานการณ์ต่อจากนี้ก็ไม่มีสิ่งใดให้เป็นกังวลอีก
“พวกเราล้อมเอาไว้”
“หากมีสิ่งใดอยากจะพูด ได้โปรดปล่อยตัวคุณชายของพวกเราออกมาก่อน”
บรรดาลูกสมุนตระกูลฮั่วและกลุ่มโจรสลัดปีศาจต่างก็กระจายกำลังล้อมรอบอยู่ห่าง ๆ
แม้พวกมันจะมองไม่เห็นลำแสงของปราณกระบี่คงกระพัน แต่พวกมันก็สัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างรุนแรง และเมื่อสังเกตถึงพฤติกรรมของหลินเป่ยเฉิน พวกมันจึงไม่กล้าบุกเข้าไปประชิดตัวโดยพลการ
แต่บัดนี้ กระสุนปืน AWM หมดแล้ว
เด็กหนุ่มไม่สามารถฆ่าฝ่ายศัตรูที่มีพลังระดับจอมเทพศักดิ์สิทธิ์หรือจอมอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้อีก
หลินเป่ยเฉินรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
เพียะ!
เขาจึงตบหน้าฮั่วเจี้ยนป๋อเป็นการระบายอารมณ์
การตบครั้งนี้เด็กหนุ่มทิ้งน้ำหนักมือค่อนข้างหนักหน่วง นั่นส่งผลให้คุณชายตระกูลฮั่วมีโลหิตพุ่งกระฉูดออกจากจมูกและใบหน้าก็บวมช้ำอย่างน่าอนาถใจ
“ลูกสมุนของเจ้าไม่มีดวงตากันหรืออย่างไร? บอกให้คนของเจ้าร่วมมือซะดี ๆ หรือมิเช่นนั้น ก็ให้ออกมาสู้กับข้าตัวต่อตัวซะ”
หลินเป่ยเฉินพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
ฮั่วเจี้ยนป๋อดวงตาร้อนผ่าวด้วยความโกรธแค้น
ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านจนเกือบจะสบถคำหยาบออกมา
สถานะของเขาสูงส่งถึงเพียงนี้ มีหรือที่จะเคยถูกผู้คนเหยียบย่ำเช่นนี้มาก่อน?
แต่สองขาของเขาระเบิดกระจายไปแล้ว ฮั่วเจี้ยนป๋อเหลือเพียงร่างกายท่อนบนเท่านั้น ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาไม่สามารถใช้งานพลังปราณได้อีก
และมวลพลังที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผลนั้น ก็เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการโจมตีด้วยพลังปราณปีศาจ
คนผู้นี้มาจากเผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างนั้นหรือ?
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”
ฮั่วเจี้ยนป๋อยังคงกัดฟันด้วยความดื้อดึงและระเบิดเสียงคำรามออกมา “เก่งจริงก็จงบอกชื่อของเจ้าออกมาซะ”
“อ้าว มาออกคำสั่งกับข้าซะงั้น?”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นตบหน้าตัวประกันของตนเองอีกครั้ง
“ใช่ ข้าออกคำสั่งกับเจ้า จงบอกนามอันต่ำต้อยของเจ้าออกมา ไม่ทราบว่าเจ้ามีความกล้าหาญมากพอหรือไม่?”
ฮั่วเจี้ยนป๋อในสภาพที่เลือดกบปากยังคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“เหตุไฉนข้าจะไม่กล้าบอกเจ้า ข้ามีนามว่าอวี้เหวินซิวเซียน”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะและกล่าวต่อไป “อยากแก้แค้นงั้นสิ? อย่าหวังเลย เพราะในภพภูมิดาราจักรและอาณาจักรหลิวเยวียน ไม่มีผู้ใดจะยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมากไปกว่าข้าอวี้เหวินซิวเซียนผู้นี้อีกแล้ว”
“อวี้เหวินซิวเซียน? ประเสริฐ ข้าจะจำชื่อของเจ้าเอาไว้”
ฮั่วเจี้ยนป๋อกัดฟันด้วยความโกรธแค้น “เพราะฉะนั้น เจ้ารีบฆ่าข้าเถอะ หากไม่เช่นนั้นแล้ว ข้าจะต้องกลับมาแก้แค้นเจ้า และเมื่อข้าแสดงพลังที่แท้จริงออกมา รับรองว่าเจ้าไม่มีทางหนีรอดเด็ดขาด”
“ว่าไงนะ? นี่ถึงกับข่มขู่กันเชียวหรือ?”
หลินเป่ยเฉินนำปืนอินทรีหิมะออกมายิงใส่มือขวาของฮั่วเจี้ยนป๋อหนึ่งนัดและกล่าวว่า “สั่งให้ลูกสมุนของเจ้าถอยไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น ข้าจะระเบิดศีรษะของเจ้าทิ้ง”
ใบหน้าของฮั่วเจี้ยนป๋อบิดเบี้ยวด้วยความดุร้าย พยายามข่มกลั้นความเจ็บปวด แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมออกคำสั่งอยู่ดี
“ยอมแล้ว พวกเรายอมแล้ว…”
“ท่านอย่าได้ทำร้ายคุณชายของพวกเราเลย”
เมื่อบรรดาลูกสมุนของฮั่วเจี้ยนป๋อพบเห็นเช่นนี้ พวกมันก็อดตื่นกลัวขึ้นมาไม่ได้ และด้วยความที่กลัวว่าหลินเป่ยเฉินจะลงมือทำร้ายฮั่วเจี้ยนป๋อมากไปกว่านี้ พวกมันจึงล่าถอยออกไปทิ้งระยะห่างไกลมากขึ้นและมากขึ้น
บัดนี้ ฮั่วเจี้ยนป๋อมีสถานะเป็นถึงทายาทประมุขตระกูลฮั่ว ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ประจำอาณาจักรหลิวเยวียน บุรุษหนุ่มมีสถานะสูงส่ง บิดาเป็นถึงหนึ่งในขุนนางใหญ่ประจำอาณาจักร ที่ผ่านมาไม่ว่าไปยังสถานที่ใด ก็มักจะได้รับความเคารพเป็นอย่างสูง
หากฮั่วเจี้ยนป๋อโดนทุบตีจนตายอยู่ที่นี่ บรรดาผู้ติดตามของเขาก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปอธิบายความตายครั้งนี้ให้แก่ตระกูลฮั่วรับฟังว่าอย่างไร
“ปล่อยตัวคนตระกูลหลิงซะ”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
ผู้คนของตระกูลฮั่วไม่กล้าลังเล จากนั้นจึงรีบปล่อยตัวหลิงไท่ซือ คุณหนูหลิงหลิงและถอดกุญแจมือดับดาราให้แก่ผู้ที่ถูกพันธนาการคนอื่น ๆ
“คุณชายอวี้เหวิน พวกเรามาเจรจากันเถอะ อย่าได้ทำอะไรวู่วาม พวกเรายอมทำตามคำสั่งของท่านแล้ว ได้โปรดอย่าทำร้ายคุณชายฮั่วอีกเลย…”
องครักษ์ผู้มีนามว่าฮั่วเจิ้นพยายามหัวเราะยิ้มแย้มเพื่อตีสนิทหลินเป่ยเฉิน
“เฮ้อ เอาไงดีนะ… ไท่ซือ ข้าสมควรทำอย่างไรดี?”
หลินเป่ยเฉินหันไปมองที่หลิงไท่ซือ
“ว่าไงนะขอรับ?”
ผู้ถูกถามมีสีหน้างงงวย
นี่ผู้ที่มาช่วยเหลือเขาไม่ได้มีแผนการขั้นต่อไปอยู่แล้วหรือ?
หลิงไท่ซือไม่ทราบเลยว่าตนเองสมควรตอบว่าอย่างไร
เขาใช้เวลาคิดอยู่อึดใจใหญ่ สุดท้ายก็ให้คำตอบออกมาว่า “จับฮั่วเจี้ยนป๋อไว้เป็นตัวประกันก่อน หลังจากนั้นก็สั่งให้กลุ่มคนตระกูลฮั่วกับกลุ่มโจรสลัดปีศาจถอนกำลังกลับไป… แล้วเราค่อยมาพูดคุยกัน”
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วใช้ความคิดเล็กน้อย “สิ่งที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผล…”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิงไท่ซือ
ชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นี้ยอมรับในความคิดเห็นของเขา เรื่องราวต่อจากนี้ก็คงง่ายดายมากแล้ว
หลังจากนั้น หลิงไท่ซือก็ได้ยินหลินเป่ยเฉินกล่าวต่อไป “แต่ข้าขอปฏิเสธ”
หลิงไท่ซือพูดอะไรไม่ออก
ในเมื่อไม่ได้อยากจะทำตามคำแนะนำอยู่แล้ว แล้วจะมาถามกันตั้งแต่แรกเพื่ออะไร?
หลินเป่ยเฉินเปลี่ยนอาวุธในมือเป็นปืน AK47 ก่อนจะกราดกระสุนยิงใส่กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้า
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ปืน AK47 กระบอกนี้ติดที่เก็บเสียงเรียบร้อย เสียงกระสุนที่ถูกยิงออกมาจึงไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่
แต่อานุภาพในการทำลายล้างยังรุนแรงเช่นเดิม
เมื่อไม่ทันระวังตัวกันตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนของตระกูลฮั่วหรือกลุ่มโจรสลัดปีศาจต่างก็ต้องตกตายดั่งใบไม้ร่วง
หลินเป่ยเฉินลงมืออย่างไม่มีความเมตตาปราณี
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือเปล่าพันปีศาจ… ทุกคนต่างก็ต้องตายด้วยคมกระสุนของเขา
“ถอนกำลัง พวกเรารีบถอนกำลัง”
“นี่มันอะไรกัน…”
“คนผู้นี้เสียสติไปแล้ว”
กลุ่มผู้บุกรุกเรือเหาะรุ่งอรุณบางส่วนเริ่มถอนกำลังกลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกมันเผชิญหน้าเข้ากับอันตรายถึงชีวิต ก็แทบไม่มีผู้ใดห่วงใยความปลอดภัยของฮั่วเจี้ยนป๋ออีกแล้ว ต่างคนต่างก็หลบหนีกลับไปยังเรือเหาะโจรสลัดของตนเองทันที…
“ช่วยเหลือคุณชาย พวกเรารีบเข้าไปช่วยเหลือคุณชายเร็วเข้า”
มีเพียงพรรคพวกของฮั่วเจิ้นผู้เดียวเท่านั้นที่ยังคงพยายามเข้ามาช่วยเหลือฮั่วเจี้ยนป๋อ
ทว่าก็เป็นไปตามคาด กลุ่มคนที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือตัวประกันต้องล้มลงกลายเป็นซากศพบนพื้นดาดฟ้าเรือ!
ตู้ม!
หลินเป่ยเฉินนำเครื่องยิงระเบิด Type 69 ออกมายิงใส่เรือเหาะที่อยู่ห่างไกลออกไป
เกิดการระเบิดของลูกไฟดวงใหญ่ในท้องฟ้ายามราตรี
หลิงไท่ซือและพรรคพวกเบิกตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
บุคคลผู้นี้เป็นผู้ใดกันแน่?
เหตุไฉนวิชาการโจมตีของเขาจึงได้น่ากลัวถึงเพียงนี้?
เมื่อสักครู่เป็นลำแสงกระบี่ใช่หรือไม่?
รุนแรงยิ่งกว่าสายฟ้าฟาดอีก!
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นวิชายุทธ์ที่ไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นมาก่อน เพราะก่อนที่บุคคลผู้นี้จะปลดปล่อยลำแสงกระบี่ออกมา เขาก็ต้องทำท่วงท่าแปลกประหลาดอยู่เสมอ
“ไสหัวกันไปให้หมด!”
หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงคำรามด้วยความดุดัน
พูดจบ เขาก็กระโดดเข้าไปขวางหน้าฮั่วเจิ้นที่พยายามจะหลบหนี
“อย่าทำอะไรข้าเลยนะ…”
ผู้เป็นองครักษ์มือขวาของฮั่วเจี้ยนป๋อกำลังจะร้องไห้ออกมาแล้ว
มันได้แต่นึกเสียใจที่ตนเองไม่สั่งถอนกำลังให้เร็วกว่านี้
เมื่อปล่อยให้เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงบัดนี้ก็น่าอับอายมากเกินไปแล้ว
ฮั่วเจิ้นร้องตะโกนว่า “ถอนกำลัง ถอนกำลัง… ทุกคนถอนกำลังออกไปจากเรือเหาะรุ่งอรุณเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้น กลุ่มโจรสลัดปีศาจและกลุ่มคนของตระกูลฮั่ว ยกเว้นฮั่วเจิ้นแต่เพียงผู้เดียวต่างก็ถอนกำลังออกไปจากเรือเหาะรุ่งอรุณหมดสิ้น