เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1607 ประวัติตระกูลหลิง
ตอนที่ 1,607 ประวัติตระกูลหลิง
หลิงไท่ซือยกถ้วยสุราขึ้นสูงพร้อมกับกล่าวว่า “ฝีมือของคุณชายอวี้เหวินช่างสูงส่ง แม้แต่ปีศาจอาวุโสอย่างฟ่านหรู่เมิ่งก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้แก่ท่าน... ไม่ทราบว่าพวกเราจะมีวาสนาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคุณชายอวี้เหวินบ้างหรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็ยกเลิกการแปลงโฉมโดยแอปเมจิก คาเมร่า
เพราะถึงแปลงโฉมต่อไปก็ยิ่งเปลืองเงินอยู่แล้ว
ใบหน้าที่หล่อเหลาปรากฏขึ้นมาในห้องรับรอง
หลิงไท่ซือถึงกับตกตะลึง
ผู้คนที่อยู่ภายในห้องรับรองรู้สึกเหมือนดวงตาได้พบเจอกับแสงสว่างพร่างพราย
เป็นแสงสว่างราวกับมีดวงดาวหลายร้อยล้านดวงกำลังฉายแสงอยู่ภายในห้องแห่งนี้
ใบหน้าที่สวยงามของหลิงหลิงกลายเป็นสีแดงระเรื่อ นางนิ่งคิดอะไรบางอย่างอยู่เล็กน้อย ก็รีบยกถ้วยสุราขึ้นและกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณชายอวี้เหวิน สำหรับบุญคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้าน้อยไว้ในวันนี้ ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดสามารถตอบแทนได้ นอกจากขอติดตามรับใช้ท่านไปตลอดชีวิต...”
“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะรบกวนสอบถามพี่หลิงสักหน่อย”
เมื่อหลินเป่ยเฉินเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเอง ความมีสง่าราศีของตัวละครเอกก็เฉิดฉายออกมาอีกครั้ง “ไม่ทราบว่าในตระกูลหลิงแห่งอาณาจักรหลิวเยวียนของท่าน มีเด็กสาวผู้หนึ่งที่ชื่อหลิงเฉินหรือไม่?”
หลิงไท่ซือสะดุ้งเล็กน้อย “คุณชายรู้จักองค์หญิงเฉินด้วยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ “อะ… องค์หญิง?”
นี่หลินเฉินมีสถานะเป็นถึงองค์หญิงเชียวหรือ?
นี่มันเรื่องราวใดกันแน่
หลิงไท่ซือรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมาทันที “คุณชายอวี้เหวินมาที่นี่เพื่อตามหาองค์หญิงเฉินอย่างนั้นหรือ? …ข้าไม่ได้จะว่าอะไรท่านหรอกนะขอรับ แต่ว่าองค์หญิงเฉินมีสถานะสูงส่งมากเกินไป นางไม่เคยสนใจบุรุษหนุ่มผู้ใดมาก่อน... ข้าขอแนะนำให้ท่านรีบล้มเลิกความตั้งใจเสียเถอะ…”
หืม?
หลินเป่ยเฉินสัมผัสได้ถึงข้อมูลบางอย่าง
ดูเหมือนหลิงเฉินจะมีสถานะสูงส่งมากทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่พวกเขากำลังพูดถึงหลิงเฉินคนเดียวกับที่เขาหมายถึงจริง ๆ ใช่หรือไม่?
หลินเป่ยเฉินสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนำรูปวาดของหลิงเฉินออกมาแสดงให้หลิงไท่ซือดู สุดท้าย เด็กหนุ่มก็ได้รับการยืนยันว่าองค์หญิงเฉินกับหลิงเฉินที่เขาตามหานั้นเป็นคนเดียวกันจริง ๆ
“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายอวี้เหวินกลับมีรูปภาพขององค์หญิงเฉินครอบครองอยู่ด้วย นางเป็นสตรีที่งดงามมาก แต่น่าเสียดาย.. .องค์หญิงผู้สูงส่งไม่สามารถครองรักกับสามัญชน… คุณชายอวี้เหวิน ข้าขอแนะนำให้ท่านรีบตัดใจเสียดีกว่า”
หลิงไท่ซือถอนหายใจออกมา
“ข้าขอสอบถามประวัติองค์หญิงเฉินผู้นี้ได้หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินพยายามสอบถามข้อมูลอีกครั้ง
“คุณชายอวี้เหวิน ท่านมีรูปภาพขององค์หญิงอยู่ในการครอบครอง แต่ท่านไม่รู้หรือว่านางเป็นผู้ใด?”
หลิงไท่ซือถามด้วยความประหลาดใจ
“อ้อ เรื่องนั้นน่ะหรือ คือแบบว่า…”
หลินเป่ยเฉินเริ่มใช้ทักษะโกหกเอาตัวรอดไปแบบหน้าด้านๆ อีกครั้ง “พอดีข้านึกหน้านางขึ้นมาได้น่ะ แต่ไม่รู้มาก่อนว่านางเป็นผู้ใดมาจากไหน”
“อย่างนี้นี่เอง”
หลิงไท่ซือพยักหน้าหงึกหงัก “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว องค์หญิงเฉินกับสกุลหลิงเราก็มีความเกี่ยวข้องกันอยู่ไม่น้อย คุณชายอวี้เหวินรู้หรือไม่ ตระกูลหลิงเรามีประวัติความเป็นมาอย่างไร?”
เรื่องนั้นข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?
หลินเป่ยเฉินตอบอยู่ในใจเงียบ ๆ
เขาแค่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับหลิงเฉิน ไม่ได้อยากทราบประวัติความเป็นมาของตระกูลหลิงสักหน่อย
“คงต้องรบกวนให้พี่หลิงช่วยอธิบายแล้ว”
หลินเป่ยเฉินกล่าว
“ตระกูลหลิงถือเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ประจำอาณาจักรหลิวเยวียน บัดนี้ มีตัวแทนอยู่ในสภาขุนนางเป็นจำนวนหนึ่งร้อยหกสิบแปดคน และข้าก็คือสมาชิกลำดับที่ยี่สิบเอ็ดภายในตระกูล ส่วนหนึ่งในเก้าขุนนางใหญ่ก็คือบิดาของข้าเอง แต่ถึงกระนั้น ตระกูลหลิงของข้าก็ถือเป็นเพียงสาขาย่อยเท่านั้น เพราะตระกูลหลิงสาขาหลักนั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง พวกเขามีนักเล่นแร่แปรธาตุชื่อดังจำนวนมากทำงานอยู่ทั่วภพภูมิดาราจักรและพวกเขาก็คือผู้ที่ปกครองดินแดนเกิงจิน”
หลิงไท่ซือบอกเล่าประวัติครอบครัวของตนเองด้วยความภาคภูมิใจ
หลังจากนั้น เขาก็อธิบายต่อไปว่า “นี่จึงเป็นเหตุผลที่องค์หญิงเฉินอยู่สูงส่งเกินเอื้อมสำหรับผู้คน เพราะนางคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิงสาขาหลักนั่นเอง”
หลินเป่ยเฉินแทบจะกัดลิ้นตนเองตายแล้ว
นับว่าหลิงเฉินมีสถานะที่สูงส่งจริง ๆ ด้วย
“เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของตระกูลหลิงสาขาหลัก ตระกูลหลิงสาขาย่อยของข้าก็เปรียบเสมือนแผงขายบะหมี่ข้างทางเท่านั้น ในขณะที่ตระกูลหลิงสาขาหลักคือหอสุราเก้าชั้นที่ต้อนรับแขกเป็นขุนนางระดับสูงเท่านั้น นี่คือความแตกต่างที่มีมากเกินไป”
“แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมา องค์หญิงเฉินจะเก็บตัวเงียบ เกิดข่าวลือว่านางอพยพย้ายไปอยู่ยังภพภูมิอื่น แต่สุดท้าย นางก็กลับคืนสู่ตระกูลหลิงอีกครั้งในฐานะองค์หญิงไข่มุกขาว ซึ่งเป็นสถานะที่ผู้คนไม่อาจจินตนาการได้อีกแล้ว”
หลิงไท่ซือถอนหายใจออกมา
ดูเหมือนเขาเองก็คลั่งไคล้ในตัวองค์หญิงเฉินอยู่ไม่น้อย
แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างกันมากเกินไป หลิงไท่ซือจึงทำได้เพียงถอนหายใจเท่านั้น
หลินเป่ยเฉินเม้นริมฝีปากใช้ความคิด
กลับคืนสู่ตระกูลหลิงอีกครั้งในฐานะองค์หญิงไข่มุกขาว?
องค์หญิงไข่มุกขาวคืออะไรกันอีกล่ะเนี่ย?
ยิ่งคิด หลินเป่ยเฉินก็ยิ่งไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น
“แต่ข้าได้ยินมาว่าในภพภูมิดาราจักรไม่มีการก่อตั้งราชวงศ์ไม่ใช่หรือ? แล้วเหตุไฉนหลิงเฉินจึงมีสถานะเป็นองค์หญิง นี่หมายความว่าตระกูลหลิงก่อตั้งราชวงศ์ของตนเองขึ้นมาใช่หรือไม่? แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป?”
หลินเป่ยเฉินถามสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจออกมา
หลิงไท่ซือคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้สูงส่งอย่างหลินเป่ยเฉินกลับไม่มีความรู้พื้นฐานเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น เขาจึงไม่รู้ว่าตนเองสมควรอธิบายอย่างไรดี
หลิงหลิงจึงคลี่ยิ้มและรับหน้าที่เป็นคนอธิบายแทนว่า
“คุณชายอวี้เหวินคงไม่ทราบ องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้ขยายดินแดนออกไปกว้างไกลในภพภูมิดาราจักร เผ่าพันธุ์มนุษย์ปกครองดินแดนต่าง ๆ มากมายนับล้านดินแดน นอกจากดินแดนที่มีผู้คนอยู่อาศัยแล้ว ก็ยังมีดินแดนอันรกร้างปราศจากสิ่งมีชีวิต และระยะห่างระหว่างดินแดนต่าง ๆ นั้นก็ยาวไกลมากเกินไป”
“ด้วยเหตุนี้เอง หลายครั้งจึงปรากฏดินแดนที่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์อสูร หรือเผ่าพันธุ์ปีศาจต้องอยู่ร่วมในดินแดนเดียวกันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง การต่อสู้จึงเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งนับเป็นเรื่องยากที่องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะดูแลได้ทั่วถึง ดังนั้น ด้วยเหตุนี้เอง องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จึงอนุญาตให้ผู้ฝึกฝนยี่สิบสี่สายเลือดดั้งเดิมสามารถก่อตั้งราชวงศ์ของตนเองขึ้นมาได้เจ้าค่ะ”
“หลังจากนั้น ตามดินแดนต่าง ๆ จึงมีผู้คนก่อตั้งราชวงศ์ของตนเองขึ้นมา เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย และตั้งตนเป็นตัวแทนขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ คอยดูแลระบบการปกครองให้อยู่รอดปลอดภัย และในกรณีของตระกูลหลิงสาขาหลัก พวกเขาก็คือราชวงศ์ผู้ปกครองดินแดนเกิงจิน ซึ่งด้วยเหตุนี้เอง การดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงดำเนินไปอย่างเป็นระบบระเบียบเรื่อยมา”
“นับว่าน้องหลิงมีความรอบรู้ไม่เบาทีเดียว”
หลินเป่ยเฉินชำนาญเรื่องการรับมือกับสตรีอยู่แล้ว
เขารู้ดีว่าควรจะชื่นชมนางในจังหวะไหน
ใบหน้าของหลิงหลิงแดงระเรื่อขึ้นมาด้วยความเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
นางยิ้มตาหยีและกล่าวต่อไปว่า “นี่คือความรู้พื้นฐานที่พวกเราร่ำเรียนกันมาตั้งแต่เด็กเจ้าค่ะ หากมีสิ่งอื่นใดที่คุณชายอวี้เหวินอยากทราบ ก็ถามข้าน้อยมาได้เลย”
หลินเป่ยเฉินจึงรีบถามต่อไปทันที “ข้ามาจากดินแดนอันห่างไกลน่ะ จึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวของพวกเจ้าสักเท่าไหร่… ไม่ทราบว่าสถานการณ์ของอาณาจักรหลิวเยวียนในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
หลิงหลิงส่งเสียงครางเล็กน้อยก่อนจะให้คำตอบออกมา…