เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1613 เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่
เพราะว่าเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงกระดูกมนุษย์แตกหัก
แต่เป็นเสียงอาวุธในมือของพวกมันต่างหาก
ไม้กระบองที่สามารถถล่มขุนเขา ไม้คทาที่สามารถฟาดดาวเคราะห์แตกกระจาย ทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับ 14 และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาวุธสังหารประจำเผ่าพันธุ์อสูรสิงโตทองคำ
พวกมันเคยฆ่าผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน
แต่เมื่อกระทบถูกร่างกายของเด็กหนุ่มผู้นี้ ไม้กระบองกับไม้คทากลับเกิดรอยแตกร้าวใกล้แตกหักขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
องครักษ์ทั้งสามมีสีหน้าตื่นตระหนก
หลินเป่ยเฉินเองก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเช่นกัน
มีเพียงลงสู่สนามรบที่แท้จริงเท่านั้น เขาถึงจะรู้ว่าผิวหนังของตนเองมีความแข็งแกร่งเพียงใด
นับว่าพลังเสริมจากวิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณน่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
องครักษ์ทั้งสามมีพลังอยู่ในขั้นจอมอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับ 5 อาวุธในมือย่อมไม่ใช่สิ่งของธรรมดา แต่พวกมันกลับทำอะไรเขาไม่ได้เลย
“ถ้าพยายามอีกหน่อย พวกเจ้าอาจจะฆ่าข้าสำเร็จก็ได้นะ”
หลินเป่ยเฉินยิ้มเหยียดหยาม
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
เขาก็ปลดปล่อย ‘ลำแสงกระบี่’ ออกไปจากสองมือ
และนี่คือการยิงปืนจากระยะไกล
บนแผ่นหลังของอสูรดาราที่ลอยตัวอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งลี้ ศีรษะของปีศาจระดับสูงตนหนึ่งก็ระเบิดหายไปต่อหน้าต่อตาลูกสมุนของมัน
เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้ใดจะเข้ามาเป็นภัยคุกคามต่อตนเองอีก หลินเป่ยเฉินก็กวาดสายตามองไปยังอสูรดาราตัวอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป
เพื่อให้มั่นใจว่าพวกของหลิงไท่ซือจะปลอดภัย
มิเช่นนั้นแล้ว ผู้ใดจะเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้เขาล่ะ?
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
หลินเป่ยเฉินยังคงยิงปืน AWM ออกไปอย่างต่อเนื่อง
หัวหน้ากลุ่มปีศาจอีกสามตัวต้องจบชีวิตลง
หนึ่งในนั้นเป็นปีศาจที่ตั้งใจจะมาแก้แค้นให้กับสหายรักของมันอย่างฟ่านหรู่เมิ่ง มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองเสียชีวิตเมื่อไหร่ กว่าจะรู้ตัวอีกที ศีรษะก็ระเบิดกระจายหายไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้ ผู้เฒ่าปีศาจกำปั้นเหล็กก็สังเกตเห็นถึงความแข็งแกร่งของหลินเป่ยเฉิน เมื่อเห็น ‘ลำแสงกระบี่’ พุ่งมาหาตนเอง มันจึงสามารถกระโดดหลบลูกกระสุนปืน AWM ได้ถึงสองครั้งซ้อน
หลินเป่ยเฉินต้องยอมแพ้ในการสังหารผู้เฒ่าปีศาจกำปั้นเหล็กไปในที่สุด
เพราะปืน AWM สามารถยิงกระสุนได้เพียงเจ็ดนัดเท่านั้น
หลินเป่ยเฉินไม่เหลือพลังสำหรับการชาร์จกระสุนปืนกระบอกนี้อีกแล้ว
พลังที่เก็บอยู่ในมือซ้ายของเขาถูกดึงดูดไปใช้งานโดยวิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณ เมื่อไม่หลงเหลือพลังสำหรับการชาร์จกระสุนปืน AWM อีกต่อไป เด็กหนุ่มก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ปืน AK47 แทน
ในเวลาเดียวกันนี้ กลุ่มองครักษ์อสูรสิงโตทั้งสามตัวก็สลัดหลุดออกจากความตกตะลึง พวกมันระเบิดเสียงคำรามออกมา สองมือเปลี่ยนรูปทรงกลายเป็นกรงเล็บสิงโตก่อนที่จะกระโจนเข้าหาหลินเป่ยเฉินพร้อมกับอ้าปากกว้างอวดเขี้ยวคมกริบ…
นี่คือหนึ่งในพลังพิเศษประจำเผ่าพันธุ์ของพวกมัน
“เฮ้ย เสื้อแพงนะเว้ย อย่าทำขาดสิวะ…”
กรงเล็บสิงโตตะปบใส่ร่างกายท่อนบนของหลินเป่ยเฉินส่งผลให้เสื้อของเขาฉีกขาด เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อกำยำและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมส่วนสมบูรณ์แบบ
องครักษ์อสูรสิงโตทั้งสามส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
เนื่องจากกรงเล็บของพวกมันเมื่อสัมผัสถูกผิวหนังของหลินเป่ยเฉิน กรงเล็บก็แตกกระจายเป็นผุยผงทันที
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ปืน AK47 เริ่มพ่นกระสุนออกมา
นี่ก็เป็นลูกกระสุนปืนที่หลอมรวมขึ้นมาจากพลังปราณปีศาจของฟ่านหรู่เมิ่งเช่นกัน
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ร่างกายขององครักษ์อสูรสิงโตทั้งสามตัวก็กลายเป็นรูพรุน ก่อนที่พวกมันจะล้มลงไปนอนจมกองเลือดของตนเองสิ้นใจตายไปอย่างน่าอนาถ
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
หัวหน้าฝูงอสูรสิงโตจินอู๋ซูผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถามออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
บาดแผลฉกรรจ์บนศีรษะของมันยังไม่ได้รับการเยียวยา ปราณปีศาจที่ตกค้างอยู่ในบาดแผลไม่สามารถขับไล่ออกไปด้วยพลังปราณอสูร อัตราการเยียวยาบาดแผลจึงเชื่องช้าเป็นอย่างยิ่ง และด้วยร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ จินอู๋ซูจึงไม่สามารถเข้าร่วมวงต่อสู้ได้อีก
ผลก็คือ เพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น กลุ่มลูกสมุนของมันก็ถูกหลินเป่ยเฉินสังหารไปหมดสิ้น
จินอู๋ซูตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
หรือว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะมีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ?
“ข้ามีเพียงชื่อเดียวเท่านั้น เจ้าจงจำชื่อของข้าไว้ให้ดี ข้ามีนามว่าอวี้เหวินซิวเซียน”
หลินเป่ยเฉินยิงลำแสงปราณกระบี่คงกระพันใส่จินอู๋ซูโดยไม่ลังเล
หัวหน้าฝูงอสูรสิงโตพยายามหลบหนี
แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังที่จะหลบหนี มันจึงโจมตีกลับมาด้วยความบ้าคลั่ง
จินอู๋ซูระเบิดพลังปราณอสูรออกมาครอบคลุมทั่วร่างกายเป็นลำแสงสีทองคำ สองมือเปลี่ยนไปกลายเป็นกรงเล็บใหญ่และมันก็พุ่งตัวผ่านอากาศตะปบกรงเล็บใส่หน้าอกของหลินเป่ยเฉิน
ผลลัพธ์ปรากฏว่า…
กรงเล็บข่วนขนหน้าอกของเด็กหนุ่มขาดออกไปได้ครึ่งเส้น
แต่แรงกระแทกก็ทำให้หลินเป่ยเฉินเซถอยหลังไปหลายก้าว
“แข็งแกร่งเหมือนกันนี่นา…”
หลินเป่ยเฉินไม่ได้กระโดดหลบ มิหนำซ้ำ ยังยืนหัวเราะอีกต่างหาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจินอู๋ซูเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่หลินเป่ยเฉินเคยพบเจอ หากไม่ใช่เพราะว่าถูกเด็กหนุ่มระเบิดศีรษะขาดหายไปครึ่งหนึ่งในตอนแรก เกรงว่ามันคงเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ไม่ง่ายแล้ว
จนกระทั่งถูกกระสุนปืนของหลินเป่ยเฉินซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าอีกนัด จินอู๋ซูจึงล้มลงไปนอนสิ้นใจตายอยู่บนแผ่นหลังของอสูรดารานั้นเอง
จินอู๋ซูหัวหน้าฝูงอสูรสิงโตทองคำผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรต้องตายอย่างน่าอนาถนัก
“อันตรายเหมือนกันนะเนี่ย”
หลินเป่ยเฉินก้มมองขนหน้าอกที่ขาดหายไปของตนเองด้วยสีหน้าหวาดหวั่นพรั่นพรึง “หากเราไม่ได้ใช้พลังเสริม การสู้กับอสูรสิงโตพวกนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ”
เด็กหนุ่มเดินไปที่ซากศพของจินอู๋ซู ก่อนจะใช้มือซ้ายประทับลงไปที่หน้าอกของฝ่ายตรงข้ามและเริ่มต้นการดูดซับพลังโดยทันที
ทันใดนั้น จินอู๋ซูที่ ‘ตายไปแล้ว’ พลันลืมตาขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น
“ข้ายังไม่ตายสักหน่อย”
แล้วก็กรงเล็บสิงโตก็ทิ่มแทงใส่ดวงตาของหลินเป่ยเฉิน
เปรี๊ยะ!
และแล้วกรงเล็บสิงโตทองคำที่เป็นอาวุธแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เมื่อกระทบถูกลูกตาของหลินเป่ยเฉิน พวกมันก็แตกสลายเป็นผุยผงไปทันที
หยุดชะงัก
ดวงตา… มีความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?
“เฮอะ พูดไร้สาระอะไรของเจ้า เจ้าตายแล้วต่างหาก”
หลินเป่ยเฉินยัดปลายกระบอกปืน AK47 ใส่เข้าไปในปากของจินอู๋ซู หลังจากนั้น เขาก็เหนี่ยวไกยิงไม่ยั้งมือ มันสมองของหัวหน้าฝูงอสูรสิงโตทองคำจึงระเบิดกระจาย
ม่านโลหิตสีทองคำสาดกระเซ็น
ครั้งนี้ จินอู๋ซูตายแล้วจริง ๆ
หลินเป่ยเฉินดูดซับพลังปราณอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับ 7 ออกมาจากร่างกายของจินอู๋ซูอีกครั้ง
หลังจากนั้น แขนซ้ายและแขนขวาของเด็กหนุ่มก็เกิดความเปลี่ยนแปลง มันบวมโตขึ้นมามากกว่าเดิมสามเท่า อีกทั้งสีผิวยังเปลี่ยนเป็นสีทองคำอีกด้วย
และแน่นอนว่าเส้นผมของเขาที่เพิ่งจะกลับมาเป็นสีดำปกติได้ไม่นาน ขณะนี้ เส้นผมก็ได้กลายเป็นสีทองคำไปเรียบร้อยแล้ว
“เอาวะ ขอแค่ไม่ใช่สีเขียวก็พอยอมรับได้ล่ะมั้ง”
หลินเป่ยเฉินลอบสบถและสาบานกับตนเองว่าจะไม่มีวันดูดซับพลังปราณที่มีสีเขียวเข้าตัวเด็ดขาด
หลังจากดูดพลังเสร็จเรียบร้อย เขาก็นำพลังที่ได้มาบรรจุเป็นกระสุนให้แก่ปืน AWM และปืน AK47 ซึ่งกระสุนเพิ่งจะหมดชุดลงพอดี
“นี่สินะโบราณถึงว่ายิ่งสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งหนาวเท่านั้น”
หลินเป่ยเฉินเล็งปืนไปที่หัวหน้ากลุ่มปีศาจตัวหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป
ขณะนี้ การต่อสู้ที่ยังไม่ยุติลงก็ถึงคราวต้องยุติลงแล้ว
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ปืน AK47 เมื่อติดที่เก็บเสียง มันจึงสามารถปลิดชีพศัตรูได้ในความเงียบ
เผ่าพันธุ์ปีศาจเริ่มตกตายดั่งใบไม้ร่วง
“คุณชายอวี้เหวิน...”
หลิงไท่ซือร้องอุทานออกมาด้วยความดีใจ แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
แข็งแกร่งมากเกินไป
แม้เด็กหนุ่มจะมีพลังอยู่เพียงขั้นจอมเทพระดับ 5 เท่านั้น แต่การโจมตีของเขาก็สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้แล้วจริง ๆ
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
ผู้เฒ่าปีศาจกำปั้นเหล็กพลันถามออกมาด้วยสีหน้าตื่นกลัว