เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1619 การต้อนรับอันแสนอบอุ่น
ตอนที่ 1,619 การต้อนรับอันแสนอบอุ่น
หลิงไท่ซือถูกนำตัวไปยังศูนย์บัญชาการกองทัพด้วยสีหน้าอันขมขื่น สามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าบุรุษหนุ่มถูกลงโทษอย่างแน่นอน
ในเวลาเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่อีกกลุ่มหนึ่งของศูนย์บัญชาการกองทัพซึ่งมารอคอยอยู่นานแล้วก็ได้นำตัวพวกของหลินเป่ยเฉินเข้ารับการ ‘ตรวจสอบความปลอดภัย’ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ทุกคนก็ถูกส่งตัวไปยังสถานที่พักชั่วคราว
พาหนะที่ใช้ในการเดินทางเป็นรถม้าที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุมาแล้ว
มันเป็นรถม้าที่มีสี่ล้อ ซึ่งถูกควบคุมด้วยค่ายอาคม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้สัตว์ในการฉุดลาก
หากจะให้อธิบายเพิ่มเติมก็คือ ถ้าตัดเรื่องรูปลักษณ์ออกไป ยานพาหนะชนิดนี้ก็แทบไม่ต่างไปจากรถยนต์เลยแม้แต่น้อย
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
ภายใต้การสร้างสรรค์ขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่เข้ารับการฝึกฝนตามรูปแบบยี่สิบสี่สายเลือดหลัก ซึ่งมีทั้งนักเล่นแร่แปรธาตุ ผู้เยียวยา ผู้ใช้พิษและอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากพวกเขาจะช่วยเปลี่ยนแปลงอารยธรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอาณาจักรหลิวเยวียนแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปโดยสิ้นเชิงอีกด้วย
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถครอบครองความยิ่งใหญ่ในเส้นทางดาราจักรได้อย่างยาวนานหลายพันปี
รถม้าที่ไม่จำเป็นต้องใช้สัตว์อสูรฉุดลากนำพาพวกเขาแล่นไปบนท้องถนน
สองข้างทางเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างมากมาย บางส่วนเป็นร้านขายของ บางส่วนเป็นโรงเตี๊ยม บางส่วนเป็นที่พักอาศัยของผู้คน
หลินเป่ยเฉินพบเห็นแม้กระทั่ง ‘ห้องน้ำสาธารณะ’
กล่าวได้ว่าอารยธรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในเมืองแห่งนี้พัฒนาขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจจริง ๆ
“ผู้ต่ำต้อยขอคารวะคุณชายหลิน”
“พวกเราผู้ต่ำต้อยอยากพบเจอคุณชายมานานแล้ว”
หัวหน้ากลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้ต้อนรับหลินเป่ยเฉินมีอายุยี่สิบปีเศษ แบ่งแยกเป็นชายหญิงอย่างละหนึ่งคน ทั้งสองต่างก็สวมใส่ชุดเกราะมาตรฐาน ร่างกายสูงใหญ่และเพรียวบาง สีหน้าแววตาดุดัน องอาจและอ่อนหวาน
เจ้าหน้าที่หนุ่มรับหน้าที่ควบคุมรถขนส่ง
ส่วนเจ้าหน้าที่สาวผู้มีใบหน้าขาวเนียนงดงามนั้นก็จะแอบชำเลืองมองมาที่หลินเป่ยเฉินเป็นระยะด้วยความสงสัยและเคารพชื่นชม
“พวกท่านรู้จักข้าด้วยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินถามออกไปด้วยความสนใจ
“ข้าน้อยมีนามว่าอี้ซูหนาน เป็นทหารระดับ 4 จากศูนย์บัญชาการกองทัพเกาเฟิงเจ้าค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวแนะนำตนเองด้วยความตื่นเต้น “เมื่อสามวันที่แล้ว ชื่อของคุณชายโด่งดังไปทั่วเมือง มีผู้คนจำนวนมากรู้จักชื่อเสียงของท่าน เนื่องจากคุณชายเป็นผู้สังหารหัวหน้าฝูงสิงโตทองคำจินอู๋ซู เช่นเดียวกับองครักษ์ทั้งสี่ของมัน นอกจากนี้ คุณชายยังสังหารปีศาจราคะฟ่านหรู่เมิ่งพร้อมด้วยองครักษ์ระดับสูงของเผ่าพันธุ์ปีศาจอีกสิบหกตน นอกจากนี้ยังทำให้ผู้เฒ่าปีศาจกำปั้นเหล็กเตียโม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย บัดนี้ คุณชายจึงกลายเป็นวีรบุรุษประจำเมืองหลันจี๋ซิงไปแล้วเจ้าค่ะ”
หลินเป่ยเฉินตกใจอยู่ไม่น้อย
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการแสดงฝีมือของตนเองจะถูกเล่าขานบอกต่อกันอย่างกว้างขวางถึงเพียงนี้…
หลังจากนั้นการเดินทางด้วยรถขนส่งก็สิ้นสุดลง
พวกของหลินเป่ยเฉินถูกนำตัวมาส่งที่โรงเตี๊ยมต้าเฟิง ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของศูนย์บัญชาการกองทัพ เด็กหนุ่มได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่ด้านใน มันเป็นโรงเตี๊ยมที่มีความสูงมากกว่าสามสิบชั้น และหน้าประตูทางเข้าโรงเตี๊ยมก็มีป้ายผ้าเขียนข้อความแขวนเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่อลังการว่า
‘ยินดีต้อนรับ วีรบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ คุณชายหลินเป่ยเฉิน’
หลินเป่ยเฉินเห็นดังนั้นก็ต้องยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
ไม่เล่นใหญ่เกินไปหน่อยหรือไง?
“อีกสามวันหลังจากนี้ ทางกองทัพจะจัดพิธีมอบรางวัลให้กับเหล่าผู้กล้าหาญเจ้าค่ะ ขุนพลนักรบชื่อดังทุกท่านต่างก็พำนักอยู่ในโรงเตี๊ยมต้าเฟิงแห่งนี้ทั้งหมด และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ต้องต้อนรับยอดขุนพลชนชั้นสูง”
เจ้าหน้าที่สาวอี้ซูหนานกล่าวด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มอย่างกระตือรือร้น
แน่นอนว่าเมื่อหลินเป่ยเฉินหันมองกลับไป ป้ายผ้าที่แขวนอยู่หน้าทางเข้าโรงเตี๊ยมก็เปลี่ยนข้อความเป็น ‘ยินดีต้อนรับ วีรบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ คุณชายฮั่วหานซาน’ ไปเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนนี่จะเป็นเรื่องปกติธรรมดาจริง ๆ ด้วยแฮะ
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น
ห้องพักของเขาอยู่บนชั้นที่สามสิบสาม สามารถเดินขึ้นไปผ่าน ‘ห้องขนส่ง’ ซึ่งเป็นการเดินทางผ่านค่ายอาคมที่มีความรวดเร็วมากกว่าการใช้ลิฟต์หลายร้อยเท่า เพียงลมหายใจเดียว หลินเป่ยเฉินก็ขึ้นจากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นที่สามสิบสามโดยไม่รู้ตัว
ชั้นที่สามสิบสามมีห้องพักขนาดใหญ่อยู่สามห้อง
ห้องพักแต่ละห้องอยู่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง
ส่วนภายในห้องพักนั้นก็จะมีทางเดินและประตูเชื่อมต่อกันสำหรับในส่วนที่เป็นห้องน้ำ ห้องประชุม ห้องฝึกวิชา และห้องหับอีกหลายส่วนสำหรับเอาไว้ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย
นับเป็นห้องพักที่มีความกว้างขวางอย่างยิ่ง
การตกแต่งภายในห้องพักถูกจัดวางอย่างประณีตถึงขีดสุด
สำหรับห้องพักบนชั้นที่สามสิบสามนี้ มีแต่เพียงแขกระดับสูงเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าพัก
“กราบเรียนคุณชาย ลู่เชากับข้าน้อยเป็นตัวแทนจากกองทัพคอยทำหน้าที่รับใช้ท่านโดยเฉพาะเจ้าค่ะ หากคุณชายต้องการสิ่งใด ก็สามารถใช้แผ่นหยกที่อยู่ในห้องพัก เรียกหาพวกเราได้ตลอดเวลา”
เจ้าหน้าที่สาวสวยอี้ซูหนานยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพต่อไป
และด้วยการแนะนำของนาง หลินเป่ยเฉินจึงได้เข้าใจว่าแผ่นหยกนั้นเป็นวัตถุที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุและทำหน้าที่ไม่ต่างไปจากโทรศัพท์ประจำห้องพักนั่นเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเป่ยเฉินได้รับการดูแลดีถึงเพียงนี้
หลินเป่ยเฉินสามารถยืนยันได้เลยว่า ตนเองที่ผ่านการใช้ชีวิตในแผ่นดินตงเต้าและในดินแดนทวยเทพมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่พักในสถานที่ใด ต่างก็ไม่มีสถานที่ใดสามารถเอาชนะการต้อนรับจากโรงเตี๊ยมต้าเฟิงในเมืองหลันจี๋ซิงได้เลยจริง ๆ
เมื่อเทียบกับโรงเตี๊ยมต้าเฟิง บรรดาสุดยอดโรงเตี๊ยมและหอสุราต่าง ๆ ในจักรวรรดิเป่ยไห่และดินแดนทวยเทพก็แทบจะกลายเป็นร้านสุราข้างถนนไปทันที
ระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นี้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ปรากฏว่าทางกองทัพได้ส่งหีบไม้ใบใหญ่มาให้หลินเป่ยเฉินถึงสิบใบ
เมื่อเปิดหีบออกดู
เด็กหนุ่มก็พบว่าด้านในหีบไม้ที่แกะสลักเป็นลวดลายวิหคเพลิงอย่างสวยงามเหล่านี้ ล้วนบรรจุอัญมณีของมีค่าทั้งทองคำ แผ่นเงิน ชุดเกราะระดับสูงสำหรับการเดินทางในชั้นบรรยากาศ โอสถวิเศษสำหรับการเสริมสร้างพลังปราณ โอสถวิเศษสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย ชุดเกราะทางทหารที่กันน้ำกันไฟ ฯลฯ…
ทันใดนั้น ภายในห้องพักของหลินเป่ยเฉินก็เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับจากสิ่งของมีค่าเหล่านี้
“นี่คือทรัพยากรสำหรับการฝึกวิชาสำหรับคุณชายเจ้าค่ะ”
อี้ซูหนานรับหน้าที่แนะนำสิ่งของแต่ละชิ้น
หลินเป่ยเฉินอ้าปากเหวอ
เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของดี และเป็นของที่มีค่าหาใดเปรียบ
ต่อให้เขาไม่อยากยอมรับ แต่ในขณะนี้ หลินเป่ยเฉินก็ถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของอาณาจักรหลิวเยวียนไม่น้อย
ดูเหมือนกองทัพยังคงมีความร่ำรวยอยู่สินะ?
แล้ววันที่จัดพิธีมอบรางวัลจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันเนี่ย?
หลินเป่ยเฉินรับของขวัญทั้งหมดนี้ไว้โดยไม่ลังเล
“ส่วนสหายคนอื่น ๆ ของคุณชายขณะนี้เข้าพักอยู่ที่ชั้นยี่สิบเก้านะเจ้าคะ หากคุณชายต้องการพบเจอพวกเขา ก็สามารถติดต่อผ่านแผ่นหยกที่อยู่ในห้องได้เช่นกัน”
อี้ซูหนานยังคงรับหน้าที่อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไปด้วยความกระตือรือร้น
หลินเป่ยเฉินอดถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่ได้
นี่สิถึงจะเป็นอารยธรรมของผู้ฝึกยุทธ์ที่บ่มเพาะผ่านกาลเวลายาวนานหลายพันปี เทียบไม่ได้เลยกับความต่ำต้อยของแผ่นดินตงเต้า ดินแดนทวยเทพ หรือแม้แต่กระทั่งเมืองชิงอวี้
โรงเตี๊ยมที่มีความสูงสามสิบสามชั้น ยานพาหนะที่ไม่ต้องใช้สัตว์อสูรฉุดลาก เรือเหาะที่ไม่ต่างจากยานอวกาศ แผ่นหยกประจำห้องพักที่ทำงานได้เสมือนโทรศัพท์…
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น
นี่คืออารยธรรมแห่งผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง
“คุณชายเพิ่งกลับมาจากการต่อสู้ บัดนี้คงเหนื่อยแล้ว อาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะเจ้าค่ะ พวกเราจะออกไปรอที่ด้านนอก”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนประสานมือแสดงความเคารพก่อนจะถอยหลังออกไปจากห้องพัก
หลินเป่ยเฉินเดินไปหยุดยืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนั่งเล่นและจ้องมองทิวทัศน์ด้านนอก
เมืองหลันจี๋ซิงมีความยิ่งใหญ่และสวยงามไม่ต่างจากดินแดนแห่งความฝัน
ไม่ว่าจะเป็นการวางผังเมือง การก่อสร้างสถาปัตยกรรม หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ทุกอย่างต่างก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้บรรดาเมืองใหญ่ในโลกมนุษย์ใบเก่าของเขาแม้แต่น้อย!