เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1620 ห้องพักฝั่งตรงข้าม
ตอนที่ 1,620 ห้องพักฝั่งตรงข้าม
แสงไฟสว่างไสว
ภาพของเมืองใหญ่สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่างในห้องพักของหลินเป่ยเฉิน
หลินเป่ยเฉินถึงกับตกตะลึงไปอีกครั้ง
เขารู้สึกเหมือนตนเองได้กลับสู่โลกมนุษย์
“ครั้งนี้เรามาถึงเมืองหลันจี๋ซิงพร้อมกันกับหลิงเฉิน อีกไม่นาน เราคงทำตามคำสัญญาได้สำเร็จแล้ว”
เด็กหนุ่มตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้พบเจอกับหลิงเฉินอีกครั้ง
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย สิ่งแรกที่หลินเป่ยเฉินทำก็คือการปรับแต่งการทำงานของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเองโดยเร็วที่สุด
สามวันก่อน เมื่อผ่านพ้นการโจมตีของปีศาจหญิงเฉาคง หลินเป่ยเฉินก็ใช้เวลาระหว่างเดินทางอยู่บนเรือเหาะรุ่งอรุณดูดซับพลังปราณจากเส้นทางดาราจักร พร้อมกันนั้นเขาก็รับประทานสมุนไพรวิเศษไปหลายชนิด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเลื่อนขั้นพลังขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดและอยู่ในขอบเขตจอมเทพระดับ 9 แล้ว
ถือเป็นการเลื่อนขั้นพลังได้อย่างปาฏิหาริย์
แต่เพียงเท่านี้ยังไม่พอหรอก
การปรากฏตัวของปีศาจหญิงเฉาคงและเฟิงเสี่ยวไป๋ซึ่งมีพลังอยู่ในขั้นจอมจักรพรรดิทั้งคู่ ทำให้หลินเป่ยเฉินรู้สึกร้อนใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
เพราะบุคคลทั้งสองคือยอดฝีมือแห่งอาณาจักรหลิวเยวียนที่แท้จริง
แต่หลินเป่ยเฉินเชื่อว่ายังคงมียอดฝีมืออีกมากมายที่ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมา
ไม่ว่ายอดฝีมือเหล่านั้นจะซ่อนตัวอยู่ในดินแดนใดก็ตาม…
ด้วยเหตุนี้ ขั้นพลังในปัจจุบันของเขาจึงแทบไม่มีประโยชน์อันใดเลย
หลินเป่ยเฉินอยากจะแข็งแกร่งมากขึ้นในชนิดที่ผู้คนต้องสะท้านไปทั่วเส้นทางดาราจักร... โดยเฉพาะการที่ตนเองเกือบต้องตายด้วยน้ำมือของปีศาจหญิงเฉาคง นั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มได้รู้ซึ้งถึงใจว่าหากเขาอยากจะควบคุมโชคชะตาของตนเองให้ได้ เขาก็ทำได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือรีบแข็งแกร่งให้มากกว่านี้โดยเร็วที่สุด
ดังนั้น เขาจึงต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง
และนี่ก็คือเป้าหมายแรกของหลินเป่ยเฉิน!
ส่วนเป้าหมายต่อไปก็คือเมื่อบรรลุขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ได้เมื่อไหร่ เขาก็จะสามารถเปิดประตูมิติสู่ดินแดนตงเต้าได้เมื่อนั้น และเขาก็จะต้องหาทางรักษาเฉียนเหมย เฉียนเจิน ฉู่เหิน กงกงและคนอื่น ๆ ให้จงได้
เมื่อปรับแต่งการทำงานแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็เปิดเข้าไปในเกม Happy Farm
เขากดค้นหา
แน่นอนว่าผลการค้นหาย่อมแสดงให้เห็นถึงสวนผักจำนวนมากที่ถูกปลูกอยู่ในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นสวนผักกองทัพเกาเฟิง สวนผักกองทัพชิงเหยียน สวนผักกองทัพเทียนเหมย สวนผักกองทัพเซินหลาน ไปจนถึงสวนผักตระกูลฮั่ว
สวนผักแต่ละแห่งมีอาณาเขตกว้างใหญ่ สมุนไพรที่ปลูกอยู่ในนั้นก็มีแตกต่างมากมายหลายชนิด บางแห่งถึงกับมีสมุนไพรหายากเพาะปลูกอยู่เสียด้วยซ้ำ
น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือสวนผักแทบทุกแห่งมีสุนัขเฝ้ายาม
สุดท้าย หลินเป่ยเฉินก็กดเข้าไปขโมยผลผลิตจากสวนผักตระกูลฮั่ว โชคดีที่ไม่มีผู้ใดจับเขาได้ เด็กหนุ่มจึงขโมยสมุนไพรวิเศษที่เรียกว่าซานซิงกัวมาเต็มตะกร้า
คืนนั้น หลินเป่ยเฉินกำลังนอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายอารมณ์
แต่แล้ว…
ครืด!
แผ่นหยกที่วางไว้ข้างอ่างอาบน้ำก็สั่นสะเทือนขึ้นมา
หลินเป่ยเฉินรีบหยิบแผ่นหยกมาถือและเมื่อโคจรพลังปราณลงไป เขาก็ได้ยินเสียงของนักพรตหญิงชินดังออกมาจากด้านในแผ่นหยกทันที
“ข้าอยู่หน้าประตูแล้ว เปิดประตูซะ”
เสียงของนักพรตหญิงชินในยามราตรีฟังดูยั่วยวนใจอย่างประหลาด ทำให้หลินเป่ยเฉินอดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้
ในที่สุด นักพรตหญิงชินก็เป็นฝ่ายรุกเขาแล้วหรือนี่?!
หลินเป่ยเฉินรีบสวมใส่เสื้อผ้าและเดินออกไปเปิดประตูโดยไม่ลังเล
เมื่อประตูถูกเปิดออก
ใบหน้าของหลินเป่ยเฉินก็ร้อนผ่าว
เลือดกำเดาแทบพุ่งออกมาจากจมูก
หากไม่ใช่เพราะว่าเขาเคยผ่านประสบการณ์เริงสวาทมาพอสมควร หลินเป่ยเฉินก็คงไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป
เพราะเสื้อผ้าอาภรณ์ที่นักพรตหญิงชินสวมใส่อยู่หน้าประตูในขณะนี้ช่างดูเย้ายวนใจเหลือเกิน
เขาไม่เคยเห็นนักพรตหญิงชินแต่งกายเช่นนี้มาก่อน
อาภรณ์ขาวผืนหนึ่งรัดพันเหมือนชุดเกาะอก ผมสีเงินเป็นประกายระยิบระยับถูกปล่อยยาวสยายลงมาถึงต้นคอ ช่วงไหล่ขาวเนียนปราศจากสิ่งใดปกปิด เช่นเดียวกับเนินอกอวบอิ่มที่เบียดตัวกลายเป็นร่องลึกชวนให้จ้องมองโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ที่เอวของนางยังคาดไว้ด้วยเข็มขัดทองคำ ชายผ้ายาวลงมาปกคลุมถึงเพียงต้นขาเท่านั้น นั่นยิ่งทำให้ช่วงขาเรียวยาวขาวผ่องดูโดดเด่นเป็นสง่ามากกว่าเดิม นักพรตหญิงชินสวมใส่รองเท้าแตะลำลองสบาย ๆ มองเห็นนิ้วเท้าที่ปรากฏออกมาอย่างหาได้ยากยิ่ง…
ชุดที่นางสวมใส่สามารถให้คำอธิบายได้เพียงประโยคเดียวว่า…
บางเบาและโปร่งใส
หรือหากจะเพิ่มเติมไปอีกสักคำก็คงจะเป็น…
สั้นจุ๊ด…!
หลินเป่ยเฉินไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าผู้ที่ดำรงตนอยู่ในความสง่างามและสูงส่งอย่างนักพรตหญิงชินจะมาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาใน ‘ชุดอาบน้ำ’ เช่นนี้
แม้ว่าตอนที่ช่วยกันปรับระดับพลังในร่างกาย ณ แดนสุขาวดี นักพรตหญิงชินกับหลินเป่ยเฉินก็เคยเห็นร่างเปลือยของกันและกันมาแล้ว
แต่นั่นก็เพื่อการปรับพื้นฐานพลัง
ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาบุรุษหนุ่มล้วนรู้ดีว่าหากเทียบกับการเปลือยกายแล้ว สตรีที่มีเสื้อผ้าปกปิดอย่างบางเบาและหมิ่นเหม่นั้น ย่อมมีความเย้ายวนใจมากกว่ากันหลายเท่า
กรณีของนักพรตหญิงชินก็เช่นกัน
เมื่อสตรีผู้สูงส่งอย่างนางมาปรากฏกายเบื้องหน้าเขาด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์เช่นนี้…
มีผู้ใดบ้างที่จะไม่ตกตะลึง
แม้แต่ยอดนักรักอย่างหลินเป่ยเฉินก็ยังต้องตกอยู่ในมนต์สะกด
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงประตูห้องพักฝั่งตรงข้ามก็เปิดออก
บุรุษหนุ่มผู้มีร่างกายสูงใหญ่เดินออกมาจากประตูบานนั้นและจ้องมองมาทางพวกของหลินเป่ยเฉิน ซึ่งเมื่อสายตาของเขาจับจ้องมาที่แผ่นหลังของนักพรตหญิงชิน บุรุษหนุ่มก็ตกตะลึงไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีก
“เจ้าจะไม่เชิญข้าเข้าไปข้างในหรือ?”
นักพรตหญิงชินมีสีหน้าเยือกเย็นขณะจ้องมองหลินเป่ยเฉิน
“อ้อ จริงด้วย เชิญเข้ามาเลยขอรับ”
หลินเป่ยเฉินรีบขยับหลีกทางให้
นักพรตหญิงชินก้าวเข้ามาในห้อง
ปัง!
ประตูปิดสนิท
ณ ประตูห้องพักฝั่งตรงข้าม บุรุษหนุ่มร่างสูงยืนตกตะลึงอยู่ด้วยสีหน้าอิจฉาริษยานานสองนาน ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับไปและเรียกหาบุคคลที่ชื่อว่าเจิ้นหรู่อี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สาวผู้ถูกส่งตัวมาเพื่อดูแลรับใช้เขาโดยเฉพาะ
“ผู้ที่อยู่ในห้องพักฝั่งตรงข้ามห้องของข้าเป็นผู้ใด?”
เขาถาม
“กราบเรียนคุณชายหานซาน ผู้ที่พักอยู่ห้องตรงข้ามของคุณชายนั้นมีนามว่าหลินเป่ยเฉิน เขาคือยอดวีรบุรุษผู้สังหารราชาอสูรสิงโตทองคำจินอู๋ซูเจ้าค่ะ”
เจิ้นหรู่อี้ตอบด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพ
นางเองไม่ต่างไปจากอี้ซูหนาน เจิ้นหรู่อี้ก็สังกัดอยู่ในกองทัพเกาเฟิงเช่นกัน ความรับผิดชอบของนางคือการดูแลคุณชายฮั่วหานซาน เจิ้นหรู่อี้เป็นทหารหญิงร่างสูงใบหน้างดงามและมีขอบเขตพลังอยู่ในขั้นจอมเทพระดับ 6 จัดเป็นชนชั้นยอดฝีมือรุ่นใหม่ผู้หนึ่ง
“หลินเป่ยเฉิน?”
ดวงตาของฮั่วหานซานพลันเป็นประกายเย็นชาอำมหิตขึ้นมาทันที