เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1627 เตรียมการล้างแค้น
ตอนที่ 1,627 เตรียมการล้างแค้น
เมื่อเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เฟิงซงหลินก็รู้แล้วว่าปัญหาทุกอย่างคงคลี่คลายลงด้วยดีเป็นการชั่วคราว ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้อีก นอกจากพยักหน้าตอบรับว่า “หลังจากนี้ ทางกองทัพคงต้องเรียกตัวคุณชายหลินเข้าไปสอบสวนอีกครั้ง เมื่อเวลานั้นมาถึง คงต้องขอความรบกวนคุณชายให้ความร่วมมือด้วย”
นี่คือศักดิ์ศรีสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเฟิงซงหลิน
“ไม่มีปัญหา”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างอย่างอบอุ่นราวกับแสงแดดแห่งฤดูใบไม้ผลิ “ข้าเป็นผู้ที่ทำตามกฎหมายบ้านเมืองอยู่เสมอ ข้าไม่เคยชื่นชอบการสังหารผู้คนและมักจะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีตลอดเวลา พวกท่านจะเรียกตัวข้าไปเมื่อไหร่ก็แจ้งมาแล้วกัน ข้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
เฟิงซงหลินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
เมื่อร่ำลากันเสร็จเรียบร้อย
เขาก็นำผู้คนจากไป
กลุ่มคนตระกูลฮั่วก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแม้แต่ลมหายใจเดียว
“ช้าก่อน”
หลินเป่ยเฉินพลันส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
ฮั่วหยงเหนียนและผู้ติดตามหัวใจกระตุกวูบ
หลังจากนั้น พวกเขาก็เห็นหลินเป่ยเฉินเดินเข้ามาหาซากศพของฮั่วหานช่วน ก่อนจะยื่นมือเข้ามาสัมผัสซากศพ หลังจากนั้นจึงพยักหน้ากล่าวว่า “ดูเหมือนจะตายแล้วจริง ๆ สินะ… เฮ้อ อายุยังไม่เท่าไหร่ น่าเสียดายอนาคตแท้ ๆ อย่าลืมฝังศพให้ถูกต้องตามประเพณีด้วยล่ะ วิญญาณของเขาจะได้จากไปอย่างสงบ”
ฮั่วหยงเหนียนและกลุ่มผู้ติดตามใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธแค้น
แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าพูดคำใดออกมา
หลินเป่ยเฉินหันกลับมามองที่นักพรตหญิงชินและกล่าวว่า “ที่นี่มีผู้คนมากมายเกินไป ไม่ว่าเดินไปทางไหนก็มีแต่กลิ่นคาวเลือด… พี่ชินขอรับ พวกเรากลับเข้าห้องไปทบทวนบทเรียนกันอีกครั้งดีหรือไม่ รอจนทางเดินทำความสะอาดเสร็จสิ้น ท่านค่อยกลับไปห้องพักของตนเองเป็นอย่างไร?”
นักพรตหญิงชินตอบว่า “ไม่เป็นไร”
แล้วนางก็เดินสะบัดผมหางม้าจากไปหน้าตาเฉย
หลินเป่ยเฉินฉีกยิ้ม ยกมือทำท่าดันแว่น
ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องพักของตนเอง
เพราะว่า…
เส้นผมของเขากลายเป็นสีเขียว
จังหวะที่เขาไปตรวจสอบซากศพของฮั่วหานช่วนเมื่อสักครู่ ไม่ใช่เพราะหลินเป่ยเฉินต้องการจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายตายแล้วจริง ๆ แต่หลินเป่ยเฉินต้องการจะใช้โอกาสนี้ดูดกลืนพลังของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับ 6 ต่างหาก
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้กับปีศาจหญิงเฉาคง หลินเป่ยเฉินใช้พลังปราณที่ได้มาจากหัวหน้าฝูงอสูรสิงโตทองคำไปหมดสิ้น เพราะฉะนั้น เขาจึงจำเป็นต้องมีพลังสำรองกักเก็บเอาไว้สำหรับการต่อสู้หลังจากนี้
แม้ว่าพลังปราณของจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับ 6 จะมีความต่ำต้อยมากกว่าพลังปราณอสูรที่เขาเคยได้ครอบครองก็ตาม
แต่สำหรับหลินเป่ยเฉินเพียงเท่านี้ก็ถือว่าดีเยี่ยมแล้ว
เพียงแต่ว่า…
หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่า… ตนเองจะกลายเป็นบุคคลหัวเขียวไปเสียได้
ฮั่วหานช่วน… ไอ้หมอนี่เห็นผมแดงแต่งตัวก็ออกโทนแดงทั้งตัว พลังปราณกลับไม่ได้เป็นสีแดง แต่ดันเป็นสีเขียวซะอย่างนั้น
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินจึงมีผมเป็นสีเขียวปี๋
แขนซ้ายและแขนขวาของเขาก็บวมใหญ่ขึ้นมาเป็นสีเขียวเช่นกัน
“แขนเรานี่มันแขนของฮัลก์ชัด ๆ”
หลินเป่ยเฉินพึมพำกับตนเอง
สิ่งแรกที่เด็กหนุ่มทำเมื่อกลับเข้าสู่ห้องพักของตนเองก็คือนำโทรศัพท์มือถือออกมากดเข้าแอปเถาเป่า และสั่งซื้อน้ำยาย้อมผมโดยทันที
ในเวลาเดียวกันนี้…
‘ติ๊ง!’
‘ตรวจพบการอัปเดตระบบ ต้องการดาวน์โหลดเลยหรือไม่เจ้าคะ?’
เสียงของ ‘เสี่ยวจี้’ ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ
หืม?
ในที่สุดก็ได้อัปเดตอีกแล้วสินะ?
หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
ครั้งนี้จะมีความสามารถอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาบ้างหนอ?
…
โครม!
หีบเหล็กใบใหญ่แตกกระจาย
เศษเหล็กปลิวว่อนในอากาศ
มือของฮั่วหยงเหนียนเปียกชุ่มด้วยโลหิต ชายชราระเบิดเสียงคำรามออกมาราวกับสัตว์ร้าย
ในห้องโถงใหญ่ขณะนี้
สมาชิกคนสำคัญของตระกูลฮั่วต่างก็มารวมตัวกันอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
บรรยากาศปกคลุมด้วยความเงียบงัน
ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมา
บุตรชายของฮั่วหยงเหนียนถูกฆ่าตายถึงสองคน
มิหนำซ้ำ พวกเขายังถูกบังคับให้ขอโทษสตรีผู้ต่ำต้อยนางหนึ่งอีกด้วย
หากเปรียบความโกรธแค้นของฮั่วหยงเหนียนเป็นเปลวไฟ มันก็เป็นเปลวไฟที่สามารถเผาผลาญโลกได้ทั้งใบแล้ว
“มีสี่เรื่องที่พวกเจ้าต้องรีบไปปฏิบัติตามคำสั่ง”
ฮั่วหยงเหนียนนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเลือดบนฝ่ามือ เสียงของเขาดังกังวานทั่วห้องโถงใหญ่ราวกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ
“เรื่องแรก ส่งคนของเราไปรายงานต่อศูนย์บัญชาการว่าแผนการขั้นสุดท้ายล้มเหลว บุตรชายของข้าต้องเสียชีวิตทั้งสองคน และเรื่องราวยังไม่จบ โปรดขอร้องให้ทางสภาออกหน้าช่วยเหลือพวกเราด้วย เรื่องนี้ตระกูลฮั่วต้องได้รับความยุติธรรม”
“เรื่องที่สอง ติดต่อสำนักมือสังหารหอสลายวิญญาณ ตั้งค่าหัวของหลินเป่ยเฉินให้พวกเขาออกปฏิบัติงานทันที…”
“เรื่องที่สาม ป่าวประกาศเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมต้าเฟิงออกไปโดยเร็วที่สุด ภายในสองวันหลังจากนี้ ข้าอยากจะทำให้ชาวเมืองหลันจี๋ซิงได้รู้เช่นเห็นชาติว่าวีรบุรุษที่พวกเขาเคารพยกย่องนั้น มีธาตุแท้เป็นบุคคลชั่วช้าเพียงใด”
“เรื่องที่สี่ ส่งศพของฮั่วหานช่วนไปที่ศูนย์บัญชาการกองทัพชิงเหยียน เขาเป็นสมาชิกของกองทัพชิงเหยียน สมควรได้รับการจัดทำพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่ ให้สมแก่ฐานะแม่ทัพใหญ่ของเขา”
ฮั่วหยงเหนียนสั่งงานทั้งหมดนี้รวดเดียวจบ
“รีบแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตนเองได้แล้ว”
ผู้คนแยกย้ายกระจายตัว
หลังจากนั้น ฮั่วหยงเซวียนซึ่งเป็นน้องชายของฮั่วหยงเหนียนก็รอให้ผู้คนแยกย้ายกระจายตัวไปหมดสิ้น ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามา พลางกล่าวว่า
“พี่ใหญ่ ถึงกับติดต่อหอสลายวิญญาณเช่นนี้ ไม่ถือว่าทำเกินไปหน่อยหรือ? คนผู้นี้ไม่ได้มีชื่อเสียงแต่เพียงในเมืองหลันจี๋ซิง แต่ผู้คนทั่วทั้งเส้นทางดาราจักรต่างก็รู้จักชื่อของหลินเป่ยเฉินหมดสิ้น ค่าหัวของเขาเกรงว่าคงไม่ใช่ถูก ๆ และหากทางสภารู้เรื่องนี้เข้า ความผิดของพวกเราอาจจะหนักหนาสาหัสมากกว่าเดิมนะขอรับ เพราะว่าก่อนหน้านี้ ความผิดของฮั่วเจี้ยนป๋อก็ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว ตระกูลฮั่วเรายังไม่พ้นมลทินดีเลยด้วยซ้ำ”
ฮั่วหยงเหนียนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นห่วงเรื่องราวเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ฮ่า ๆๆ ผู้นำของเผ่าพันธุ์ปีศาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว อีกไม่นานเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะถึงคราวอวสาน ต่อให้มีองค์หญิงไข่มุกขาวแห่งราชวงศ์เกิงจินคอยช่วยเหลือ แต่นางจะทำอะไรได้? นางจะเป็นคู่ต่อกรกับผู้นำของเผ่าพันธุ์ปีศาจได้เชียวหรือ? ตระกูลฮั่วเราถูกกดขี่ข่มเหงมายาวนานมากเกินไป เจ้ากับข้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับหลินเป่ยเฉินนั้น เทียบไม่ได้เลยกับความวุ่นวายภายในอนาคตที่จะตามมาหลังจากนี้”
แววตาของชายชราเย็นชาปานน้ำแข็ง
ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนแปลง
อำนาจกำลังจะเปลี่ยนมือ
เผ่าพันธุ์ปีศาจกำลังจะครอบครองความยิ่งใหญ่!
และเผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะกลับสู่ยุคมืดในอีกไม่ช้า!!