เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1667 สิ้นสุดการชำระแค้น
ตอนที่ 1,667 สิ้นสุดการชำระแค้น
เมื่อฮั่วเซวียนเซินเห็นภาพนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกโต หัวใจแทบหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว
เพราะนั่นคือสมาชิกสายตรงของตระกูลฮั่ว
ทุกคนถูกจับกุมตัวมาหมดสิ้น
ทันใดนั้น เลือดทุกหยดในกายของฮั่วเซวียนเซินพลันเย็นเฉียบขึ้นมา เมื่อนึกได้ว่าก่อนหน้านี้หลินเป่ยเฉินเคยพูดเอาไว้ว่าจะกวาดล้างตระกูลฮั่วให้หมดสิ้นไปจากอาณาจักรหลิวเยวียน
หากคนกลุ่มนี้ตายไป ตระกูลฮั่วก็นับว่าจบสิ้นแล้วจริง ๆ
นี่มันมากกว่าการล้างแค้นธรรมดาแล้ว
“หลิน… หลินเป่ยเฉิน ไม่นะ เจ้าคิดจะทำอะไร?”
ฮั่วเซวียนเซินแทบจะเป็นลมหมดสติ
“อย่าขยับ”
หลินเป่ยเฉินยังคงมีสีหน้าเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง “ยังเหลือหนี้แค้นอีกแปดสิบเก้ากระบี่”
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
สมาชิกตระกูลฮั่วที่ถูกล่ามโซ่โดนเจ้าอสูรแดง 3 โยนออกมาข้างหน้า พวกเขากลิ้งกระเด็นเข้าสู่พื้นที่จัดงานเลี้ยง แต่เมื่อเห็นสภาพของประมุขตระกูลฮั่วคนปัจจุบันไม่สู้ดี ทุกคนก็รับทราบแล้วว่าสถานการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างมืดมน
หากนักโทษของเจ้าอสูรแดงตัวที่ 3 ถูกฆ่าตายหมดสิ้น นั่นก็เท่ากับว่างานเลี้ยงเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ให้แก่ตระกูลฮั่วในวันนี้ จะเปลี่ยนไปกลายเป็นงานเลี้ยงอำลาสู่ความล่มสลายของตระกูลฮั่วไปโดยปริยาย…
ดังนั้น พวกเขาย่อมไม่ยินดีอยู่แล้ว บางคนจึงพยายามส่งเสียงร้องตะโกนและสาปแช่ง
“ฆ่าทีละคนเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สหายอี้และสหายลู่”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งเสียงเรียบ
เขาไม่ได้ละสายตาออกไปจากใบหน้าของฮั่วเซวียนเซินแม้แต่น้อย
กระบี่ในมือของหลินเป่ยเฉินยังคงแล่เนื้อเถือหนังอีกฝ่ายทั้งเป็นต่อไป
หลินเป่ยเฉินมีทักษะในการใช้กระบี่เป็นเลิศ มือของเขานิ่งและแผ่วเบา ไม่ต่างไปจากมือของช่างแกะสลักชั้นยอด
“อ๊าก...”
เสียงกรีดร้องโหยหวน
สมาชิกตระกูลฮั่วสายตรงหลายคนถูกตัดศีรษะทิ้งไปแล้ว
“ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ…”
ฮั่วเซวียนเซินร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรงขณะกล่าวว่า “ข้าผิดไปแล้ว ข้ายินดีชดใช้ด้วยชีวิต เจ้าฆ่าข้าเถอะ แต่ว่า… คุณชายหลิน ยอดฝีมือหลิน ท่านปล่อยครอบครัวข้าไปเถอะนะ ท่านปล่อยพวกเขาไปเถอะ ข้าจะยอมรับความผิดบาปครั้งนี้ด้วยตนเอง”
“มันไม่เพียงพอน่ะสิ”
หลินเป่ยเฉินพูดเน้นยำทีละคำ “เหตุไฉนเจ้าจึงไม่คิดถึงจิตใจครอบครัวของสหายลู่กับสหายอี้บ้าง ในเมื่อเจ้ากล้าชักกระบี่ฆ่าคน ก็ต้องกล้ารับผลที่จะตามมาด้วยสิ”
ดวงตาของฮั่วเซวียนเซินพลันฉายชัดด้วยความเศร้าสลด
“ตระกูลฮั่วของเจ้าไม่ใช่ตัวดี ชอบข่มเหงรังแกตระกูลเล็กตระกูลน้อย จับตัวบุตรหลานภรรยาผู้อื่นนำมาเป็นภรรยาน้อยของตนเอง สมควรถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก”
หลินเป่ยเฉินปฏิเสธคำขอร้องของฮั่วเซวียนเซินอย่างไร้ปรานี “ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะกวาดล้างตระกูลฮั่ว และข้าก็จะทำเช่นนั้น วันนี้แม้แต่สุนัขสักตัวที่พวกเจ้าเลี้ยงเอาไว้ ก็อย่าหวังว่าจะรอดชีวิต... จงลงนรกไปด้วยกันกับพวกมันซะเถอะ!”
เสียงกรีดร้องยังคงดังมาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะ
สมาชิกตระกูลฮั่วที่ถูกล่ามโซ่นั้นถูกนำตัวมาตัดศีรษะทิ้ง ณ เบื้องหน้าศพทั้งสองบนเวทีใหญ่ และศีรษะของพวกเขาก็จะถูกนำมาตั้งไว้เป็นเครื่องเซ่นให้แก่ลู่เชากับอี้ซูหนาน
ฮั่วเซวียนเซินส่งเสียงร้องคำรามไม่ต่างไปจากสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย
เขาร้องไห้จนน้ำตาไหลเป็นสายเลือดด้วยความสลดหดหู่ใจ
นี่คือความโหดร้ายของชีวิตคน
จุดจบของตระกูลฮั่วมาถึงรวดเร็วมากเกินไป
พวกเขายังไม่ทันเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามใจปรารถนา ก็ต้องตกลงสู่หุบเหวไร้ก้นบึ้งเสียแล้ว
หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ฮั่วเซวียนเซินคงไม่มีทางสังหารเจ้าหน้าที่ตัวเล็กตัวน้อยอย่างอี้ซูหนานกับลู่เชาเป็นอันขาด
หากเขาไม่ได้สังหารทหารทั้งสองคนนี้ บางที อาจไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งไม่ให้ตระกูลฮั่วกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรหลิวเยวียนอีกเลยก็เป็นได้
แต่บัดนี้ สมาชิกตระกูลฮั่วทุกคนตายหมดสิ้น
ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว
ฮั่วเซวียนเซินรู้สึกว่าตนเองกำลังจะเสียสติ
หลินเป่ยเฉินจัดการเฉือนเนื้อครบสามร้อยหกสิบกระบี่พอดี
“ข้ารู้ เจ้ายังคงแอบหวังอยู่ลึก ๆ เจ้าคิดว่าพวกสำนักอัสนีมืดจะต้องส่งคนมาช่วยเหลือตระกูลฮั่ว… หรือต่อให้เจ้าต้องตาย แต่พวกมันก็คงไม่ปล่อยข้าไว้”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะ พลางก้มหน้ามองฮั่วเซวียนเซินพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “แต่ช่างน่าเสียดาย นี่ข้าก็อาละวาดในงานเลี้ยงเจ้ามานานพอสมควรแล้วนะ ทำไมถึงไม่มีผู้คนจากสำนักอัสนีมืดปรากฏตัวขึ้นมาเลยล่ะ?”
ฮั่วเซวียนเซินกำลังจะตายแล้ว
เขาระเบิดเสียงคำรามออกมาจากในลำคอ
แต่หลินเป่ยเฉินก็ตวัดกระบี่ฟันศีรษะของฮั่วเซวียนเซินขาดกระเด็นไปเสียก่อน
ก่อนจะนำไปเป็นเครื่องเซ่นวิญญาณชิ้นสุดท้าย
หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็ค่อย ๆ หมุนตัวกลับมา
ดวงตาของเขาจ้องมองไปทางกลุ่มแขกผู้เข้าร่วมงานเลี้ยง
ทุกคนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว รีบร่ำร้องขอความเมตตา
แต่หัวใจของหลินเป่ยเฉินมั่นคงดั่งเหล็กกล้า ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
“ข้าให้โอกาสกับพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าไม่คว้าโอกาสนั้นเอาไว้เอง เมืองหลันจี๋ซิงล่มสลาย แต่พวกเจ้ายังอยู่ดีกินดี เพราะพวกเจ้าคือผู้ทรยศ ตายไปก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอันใด แม้แต่สุนัขยังรู้จักตอบแทนบุญคุณเจ้าของ พวกเจ้าเป็นมนุษย์ กลับไม่รู้จักช่วยเหลือกันและกัน มิหนำซ้ำ ยังไปเห็นดีเห็นงามกับพวกเผ่าพันธุ์ปีศาจ คอยรังแกผู้คนบริสุทธิ์… ในเมื่อพวกเจ้าตัดสินใจที่จะมางานเลี้ยงในวันนี้ ก็เท่ากับพวกเจ้ายอมรับความตายแต่โดยดีแล้ว”
พูดจบโดยไม่รอฟังคำตอบรับจากผู้ใด หลินเป่ยเฉินก็ยกมือส่งสัญญาณทันทีว่า
“ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
เจ้าหุ่นแดง 1 แดง 2 แดง 3 น้ำเงิน 1 และน้ำเงิน 2 เริ่มต้นลงมือฆ่าฟันผู้คนด้วยความอำมหิตไม่ต่างไปจากเครื่องจักรสังหาร
ในสถานที่จัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวด
หลินเป่ยเฉินไม่สนใจ
เขาเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าป้ายศิลาที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังสุดของลานจัดงานเลี้ยง และเมื่อเด็กหนุ่มโบกสะบัดข้อมือเล็กน้อย ลำแสงกระบี่ก็สาดประกายเจิดจ้าสลักเป็นข้อความว่า…
‘นี่คือบทเรียนที่ตระกูลฮั่วได้รับ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจหรือเผ่าพันธุ์อสูร หากมีผู้ใดกล้ากดขี่ข่มเหงเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอาณาจักรหลิวเยวียนอีก ข้าจะสังหารพวกมันให้หมด’
ลายมือของเด็กหนุ่มถูกสลักลงไปบนป้ายศิลาขนาดใหญ่นั้น
ปิดท้ายด้วยการลงนามว่า ‘เซียนกระบี่หลินเป่ยเฉิน’
เพียงเท่านี้การล้างแค้นก็สิ้นสุดลง
หลินเป่ยเฉินโยนกระบี่ในมือทิ้งไป
หลังจากนั้น เขาก็นำศพของอี้ซูหนานกับลู่เชาเหินกายจากไป
…
“พวกเขาไปไหนกันแล้ว?”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงยืนอยู่บนยอดหอคอยถิงเสวี่ยแห่งสำนักอัสนีมืด ดวงตาจ้องมองไปยังทิศทางที่ตั้งของฐานบัญชาการชิงเหยียน
โคมไฟในตัวเมืองเริ่มถูกจุดขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่ทิวทัศน์อันงดงามยามราตรีกลับไม่ใช่สิ่งที่เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงให้ความสนใจแม้แต่น้อย
นางยืนอยู่บนยอดหอคอยในความเงียบ โดยมีฉากหลังเป็นความสวยงามของเมืองหลันจี๋ซิง
“กราบทูลองค์หญิง หลังจากหลินเป่ยเฉินออกจากฐานบัญชาการชิงเหยียน เขาก็นำศพของอี้ซูหนานกับลู่เชาไปฝังตามประเพณี จากนั้นก็นำเรือเหาะหยางเว่ย พร้อมด้วยแม่นางชิน หวังจง และสัตว์เลี้ยงอีกสามตัวหลบหนีไปแล้วขอรับ”
อวี้เหวินซิวเซียนรายงานด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพ
“แล้วผู้ที่เสียชีวิตในงานเลี้ยงมีใครบ้าง?”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงถามออกมาอีกครั้ง
“กราบทูลองค์หญิง หลินเป่ยเฉินสังหารผู้คนตระกูลฮั่ว จากนั้นจึงได้สังหารแขกระดับสูงอีกหกสิบเจ็ดคน ซึ่งล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตทั้งสิ้น ในกลุ่มผู้เสียชีวิตยังมีคงซืออวี้กับเซินซือเฉินปรากฏอยู่ด้วย และหลังจากที่เราตรวจสอบดูแล้ว ฮั่วเจี้ยนหลินซึ่งทางสำนักอัสนีมืดวางตัวให้เป็นยอดอัจฉริยะคนใหม่ก็เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ”
ครั้งนี้ ปีศาจหญิงเฉาคงเป็นฝ่ายให้คำตอบ