เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1696 หินลับมีด
ตอนที่ 1,696 หินลับมีด
ฉีเจียงไม่เข้าใจเลยว่าเด็กหนุ่มหน้าขาวที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับ 1 เท่านั้น เหตุไฉนจึงได้มีพลังการต่อสู้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของฉีเจียง
“อะไรกัน? เจ้าไม่ชอบรึ?”
หลินเป่ยเฉินยกกระบี่ชี้ไปที่ศพของหัวหน้ากลุ่มนายทหารที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดินและกล่าวว่า “เจ้าบอกให้ข้าคืนศพให้แก่เจ้าไม่ใช่หรือ? ข้าก็คืนให้แล้วนี่ไง มาเอาไปสิ”
“เจ้า…”
ฉีเจียงระเบิดเสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด “ข้าไม่ได้หมายถึงศพนี้!”
“อ้าว ไม่ได้หมายถึงศพนี้หรือ?”
หลินเป่ยเฉินส่ายศีรษะและกล่าวต่อไป “ไม่เป็นไร ข้ามีบริการเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่… เอาไปอีกศพก็แล้วกัน”
พูดจบ กระบี่ในมือก็ฟาดฟันออกไปอีกครั้ง
ลำแสงกระบี่พุ่งตรงไปที่ฉีเจียง
นายทหารฉีเจียงรู้สึกได้เพียงลำแสงเย็นเยียบพุ่งตรงเข้ามาหาตนเอง
แล้วเขาก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด
ฉีเจียงส่งเสียงร้องคำรามก่อนจะเซถอยหลัง ในมือปรากฏดาบขนาดใหญ่ยกขึ้นมาปัดป้อง ขณะเดียวกันก็หมายจะจู่โจมตอบโต้หลินเป่ยเฉินกลับไป
กระบี่เงินและดาบยักษ์ปะทะเข้าด้วยกัน
สวบ!
ได้ยินเสียงวัตถุแหลมคมแทงทะลุเนื้อหนังมนุษย์
ไม่มีเสียงการปะทะกันของโลหะ
ไม่มีสะเก็ดไฟสาดกระจาย
หลินเป่ยเฉินควงกระบี่ถอยหลังและเป่าหยดเลือดออกไปจากกระบี่ของตนเอง
“ประเสริฐ… ประเสริฐมาก... นับว่าเป็นกระบี่ที่ดี”
ฉีเจียงพูดออกมาอย่างยากลำบาก
เขายืนอยู่กับที่ ร่างกายแข็งค้าง ดวงตาจ้องมองที่กระบี่ฆ่าวาฬในมือของหลินเป่ยเฉิน
เคร้ง!
แล้วดาบขนาดใหญ่ก็หลุดหล่นออกจากมือของฉีเจียง
ดาบของเขาหักครึ่ง
“เป็นอย่างไร? เจ้าชื่นชอบศพนี้หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“ข้า… เจ้า… บัดซบ!”
สายตาของฉีเจียงดำมืด ไม่สามารถกล่าวคำใดออกมาได้อีก
ฉีเจียงรู้ดีว่าศพที่เด็กหนุ่มหน้าขาวกำลังพูดถึง ก็คือศพของตัวเขาเอง
ฉีเจียงไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นแก่ตนเอง เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีผู้คนกล้าสังหารนายกองแห่งกองทัพเจี๋ยซิงกลางวันแสก ๆ เช่นนี้
แล้วโลหิตก็ค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากกลางหน้าผากของฉีเจียงสะท้อนกับแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับ
ที่กลางหน้าผากของเขา พลันปรากฏว่าเป็นจุดที่ดาบอีกครึ่งหนึ่งของฉีเจียงซึ่งหักไปได้กระเด็นเข้าไปปักอยู่ตรงนั้นพอดี
หลินเป่ยเฉินอาศัยดาบศัตรูฆ่าศัตรู
ด้วยกระบวนท่าเดียว
นักพรตหญิงชินดูพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
การต่อสู้ของหลินเป่ยเฉินเมื่อสักครู่ เป็นไปตามการฝึกฝนที่นางออกแบบให้เขาด้วยตนเอง
บรรดานายทหารผู้ติดตามของฉีเจียงทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว พวกเขาได้แต่ก้าวถอยหลังห่างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉีเจียงเป็นนายกองที่มีฝีมือการต่อสู้แข็งแกร่ง ปัจจุบันอยู่ในขอบเขตพลังจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับ 8 และด้วยขั้นพลังระดับนี้ ฉีเจียงจึงแข็งแกร่งมากกว่าผู้คนส่วนใหญ่
แต่เขากลับตายในกระบวนท่าเดียว
เจ้าเด็กหนุ่มหน้าขาวสามารถกระทำได้อย่างไรกัน?
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากพื้นที่ไม่ใกล้ไม่ไกล
ปรากฏว่ากำลังเสริมที่ฉีเจียงส่งให้ลูกสมุนไปตามมาเพื่อช่วยเหลือก่อนหน้านี้ได้มาถึงแล้ว
ผู้ที่นำขบวนมามีนามว่าเติ้งเหยียนชิว เป็นถึงหนึ่งในสี่ขุนพลใหญ่แห่งกองทัพเจี๋ยซิง
คนผู้นี้มีขอบเขตพลังอยู่ในขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนปลาย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เติ้งเหยียนชิวมีความสัมพันธ์อันดีกับฉีเจียง พวกเขาเคยกระทำเรื่องเลวทรามต่ำช้ามาด้วยกันไม่ใช่น้อย ไม่มีชาวบ้านคนใดจะไม่รู้จักชื่อเสียงของพวกเขาในพื้นที่เขตนี้
ด้านหลังเติ้งเหยียนชิวเริ่มมีกลุ่มนายทหารในชุดเกราะสีแดงกระจายตัวล้อมรอบหอสุราเซียนเมามายและเริ่มตั้งค่ายกลอย่างแน่นหนา
เพียงพริบตาเดียว
คลื่นพลังที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายในอากาศ
“จัดการมัน!”
เติ้งเหยียนชิวยกมือส่งสัญญาณ
นายทหารสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังพลันก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกันขณะยกมือขึ้น
อาวุธเล่นแร่แปรธาตุที่มีลักษณะคล้ายกับแหดักปลาครอบคลุมเข้าหาหลินเป่ยเฉินโดยทันที
นี่คืออาวุธที่กองทัพมีไว้ใช้รับมือกับบรรดายอดฝีมือโดยเฉพาะ
แหดักฟ้าถูกถักทอขึ้นมาด้วยด้ายเงินและด้ายทองคำ มีความเหนียวแน่นทนทาน ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวไฟ ไม่กลัวหนามแหลม เมื่อผู้ใดถูกแหชนิดนี้จับกุม ก็ยากที่จะดิ้นหลุดออกมาได้
ยอดฝีมือจำนวนมากที่ถูกกองทัพเจี๋ยซิงจับตัวได้ ก็เนื่องมาจากอานุภาพของอาวุธวิเศษชนิดนี้เอง
หลินเป่ยเฉินยกกระบี่ฆ่าวาฬในมือขึ้นตวัด
แคว่ก!
แล้วแหดักฟ้าก็ขาดออกจากกันไม่ต่างจากกระดาษแผ่นหนึ่ง
“นี่ถึงกับกล้าเอาอุปกรณ์หาปลามาใช้กับข้าเชียวหรือ?”
หลินเป่ยเฉินเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความรวดเร็วว่องไวและไร้ความปรานี
ควับ! ควับ!
ลำแสงกระบี่ของเขาสาดประกายเจิดจ้า
ศีรษะของนายทหารทั้งสี่คนลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศ โลหิตฉีดพุ่งออกจากลำคอปานน้ำพุ
“นี่มันอะไรกัน?”
สีหน้าของเติ้งเหยียนชิวแปรเปลี่ยนไปทันที
ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่กระบี่ฆ่าวาฬในมือหลินเป่ยเฉินเป็นประกายระยิบระยับ
นี่เป็นกระบี่ที่ดีมาก
เป็นสุดยอดแห่งกระบี่
เติ้งเหยียนชิวต้องการได้มาครอบครอง
“ตายซะเถอะ”
เขาตัดสินใจลงมือด้วยตนเอง
“ประเสริฐ”
หลินเป่ยเฉินต้อนรับอีกฝ่ายด้วยกระบี่ในมือ
ผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนปลายคือหินลับมีดชั้นดี
เขาต้องการจะวัดระดับพลังของตนเองอยู่พอดี
ตอนนั้นเองที่ผลแพ้ชนะกำลังจะปรากฏออกมาแล้ว
นายทหารผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวใจกระตุกวูบและส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นมาว่า “พวกเราอย่าไปสนใจที่เด็กหนุ่ม รีบจับตัวสตรีทั้งสองนางนั้นเอาไว้ก่อน...”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
ฟู่!
โลหิตก็สาดกระจาย
ปรากฏว่านายทหารผู้ร้องตะโกนคนนั้นตายแล้ว!!