เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1703 ทำลายกองเรือ
ตอนที่ 1,703 ทำลายกองเรือ
เรือเหาะลำใหญ่สั่นไหวอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น บริเวณหัวเรือก็ระเบิดกระจาย
คลื่นแรงระเบิดแผ่กระจายไปรอบทิศทางไม่ต่างจากเกลียวคลื่นในมหาสมุทร คลื่นแรงระเบิดมีลักษณะเป็นคลื่นลำแสงที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า…
กลุ่มนายทหารที่อยู่บริเวณสะพานเรือเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง
“นี่มันความแข็งแกร่งระดับใดกัน?”
พวกเขาหมุนตัวหมายหลบหนี แต่ก็มีเวลาไม่มากพอ คลื่นแรงระเบิดได้แผ่ขยายเข้ามาถึงเบื้องหน้าแล้ว
แต่อันตรายยังไม่จบลง
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ในห้องของผู้บังคับการเรือเหาะ ฮันม่อซูซึ่งนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่ตั้งแต่แรกพลันแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา “ไม่นะ…”
ฮันม่อซูมีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิระดับ 3 เขารีบโคจรพลังในร่างกาย หมายจะบินหนีออกไปจากเรือเหาะลำนี้
แต่ทันใดนั้น ลำแสงสีส้มก็ระเบิดเจิดจ้า ฮันม่อซูไม่มีเวลาได้ทำสิ่งใดต่อไป เขารีบนำชุดเกราะออกมาสวมใส่ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายจะถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ครืน!
คลื่นแรงระเบิดแผ่กระจายไปรอบบริเวณ
ลูกไฟขนาดใหญ่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ไม่ต่างจากสายฝนที่เป็นเปลวเพลิง
แล้วคลื่นแรงระเบิดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ระเบิดกระจายไปรอบทิศทาง โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เรือเหาะสีแดงลำใหญ่นั้นเอง
เรือเหาะลำอื่น ๆ ที่ลอยลำอยู่ทางด้านหลังถูกคลื่นแรงระเบิดกระแทกเข้าใส่อย่างรุนแรง ค่ายอาคมที่คุ้มกันรอบลำเรือเกิดรอยแตกร้าว และทันใดนั้น กองเรือเหาะของฮันม่อซูก็ถูกลำแสงสีส้มกลืนกินเข้าไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรือเหาะ ชุดเกราะ อาวุธ หรือนายทหารที่อยู่บนเรือเหาะเหล่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็ถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไปในพริบตาเดียว
บนท้องฟ้ามองเห็นแต่ลูกไฟสีส้มแสบตา
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกแสบตาจนต้องหลับตาลง หลายคนถึงกับน้ำตาไหลออกมา…
เขตหลานเหนี่ยวพลันตกอยู่ในความเงียบ
กองทัพเรือเหาะบนท้องฟ้าสลายหายไปหมดสิ้น
แรงระเบิดที่น่ากลัวเมื่อสักครู่สามารถทำลายล้างเรือเหาะห้าสิบลำได้ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ
ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิต
นอกจาก...
คนที่อยู่ในมือของหลินเป่ยเฉิน
แม่ทัพทะเลเลือดฮันม่อซู
ด้วยการอาศัยพลังภายในร่างกายและชุดเกราะเล่นแร่แปรธาตุระดับ 21 ฮันม่อซูจึงยังคงรอดพ้นจากแรงระเบิดเมื่อสักครู่นี้ แต่เขาก็รอดมาในสภาพบาดเจ็บสาหัสและสูญสิ้นพลังในการต่อสู้ สุดท้ายก็ถูกหลินเป่ยเฉินจับตัวกลางอากาศ…
“เจ้าเป็นใคร?”
หลินเป่ยเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คนผู้นี้มีระดับพลังไม่ต่ำต้อย
ถึงกับสามารถรอดชีวิตจากอานุภาพการทำลายล้างของเครื่องยิงระเบิด Type 69
ฮันม่อซูมีโลหิตไหลทะลักออกปากออกจมูก ไม่มีแรงดิ้นรนขัดขืนอีกแล้ว
การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงเกินไป
ฮันม่อซูพ่ายแพ้โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้พูดจาสักคำ
พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
พ่ายแพ้และหมดหวัง
“เขานี่แหละฮันม่อซู”
เสียงของนักพรตหญิงชินดังขึ้นทางด้านหลัง
“เจ้าเองหรือฮันม่อซู”
หลินเป่ยเฉินชักสีหน้าด้วยความโกรธแค้นขึ้นมาทันที “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ข้าไม่มีคุณสมบัติดีพอที่จะพูดคุยกับเจ้าใช่หรือไม่? ไม่ทำตัวอวดดีอวดเก่งต่อไปล่ะ? บัดนี้ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่ เหตุไฉนจึงต้องแกล้งตายด้วย”
“เจ้าคือหลินเป่ยเฉินสินะ?”
ฮันม่อซูรู้ดีว่าตนเองไม่สามารถแกล้งตายได้อีกต่อไป
เขาลืมตาขึ้นมาและยิ้มมุมปากหัวเราะเยาะ “เมื่อสักครู่ ข้าเพียงประมาทมากไปหน่อย จึงถูกเจ้าลอบโจมตีอย่างไร้ยางอาย… เจ้ากล้ามาต่อสู้กันอย่างยุติธรรมหรือไม่?”
“นี่เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือ?”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะตอบกลับไป
เขาดูเหมือนคนโง่มากนักหรือไง?
ฮันม่อซูยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าเจ้าไปเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด? เจ้าจะกล้าฆ่าข้าจริงหรือ? ฮ่า ๆๆ จงจำคำของข้าเอาไว้ให้ดีเถอะ หากวันนี้เจ้าไม่ฆ่าข้า อนาคตข้างหน้า ข้าจะกลับมาแก้แค้นเจ้าให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำเอาไว้ในวันนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า”
“แหม ขู่กันซะแล้ว”
หลินเป่ยเฉินแสยะยิ้ม “เจ้าไม่กลัวตายบ้างหรือไง?”
ฮันม่อซูหัวเราะเยาะตอบกลับไปว่า “ข้าฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเด็กคนแก่สตรีมีครรภ์ผู้อ่อนแอหรือผู้แข็งแกร่ง ตราบใดที่พวกมันมาขวางทางข้า พวกมันก็ต้องตายไปให้หมด กระบี่ของข้ากินวิญญาณผู้คนมาหลายล้านชีวิต... ข้าเคยเห็นคนตายมามากมายแล้ว แล้วข้าจะกลัวตายได้อย่างไร? อีกอย่าง เจ้าจงสำนึกไว้เถอะว่าเจ้าหนีความตายไม่พ้นหรอก เมื่อเวลานั้นมาถึง…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
กร๊อบ!
หลินเป่ยเฉินก็บิดข้อมือและกระชากศีรษะอีกฝ่ายหลุดออกจากบ่า
เด็กหนุ่มรีบนำมือซ้ายไขว้หลังและดูดซับพลังของจอมเทพจักรพรรดิระดับ 3 เข้าสู่มือซ้ายของตนเอง
วิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณถ่ายเทพลังเหล่านั้นทำให้มวลกล้ามเนื้อของหลินเป่ยเฉินแข็งแกร่งมากขึ้น
รอยยิ้มเหยียดหยามยังคงแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของฮันม่อซู
จอมเทพจักรพรรดิระดับ 3 มีพลังชีวิตแข็งกล้าก็จริง แต่เมื่อสูญเสียพลังในการต่อสู้ ฮันม่อซูก็แทบไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปแล้ว
ความตายมาถึงตัวโดยไม่คาดคิด
ฮันม่อซูไม่เคยคิดฝันว่าหลินเป่ยเฉินจะกล้าฆ่าตนเองจริง ๆ
พลังชีวิตสูญสิ้นลงไป
สายตาของฮันม่อซูเริ่มพร่าเลือน
เขามองเห็นเพียงขอบฟ้าไกลลิบ เช่นเดียวกับสีหน้าสยองขวัญของนายทหารที่อยู่เบื้องล่าง ซึ่งกำลังเงยหน้ามองขึ้นมาบนท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง
สายตาแห่งความเคารพยำเกรงสูญสลายหายไปหมดสิ้น
แววตาของนายทหารแห่งกองทัพโลหิตเหล็กไม่อาจปกปิดความประหลาดใจ ไม่อาจปกปิดความตกตะลึง และในสายตาของชาวเมืองเหล่านั้น ก็ไม่อาจปกปิดความดีใจที่เห็นฮันม่อซูตายลงไปต่อหน้าต่อตา…
กองทัพที่จัดตั้งค่ายกลเริ่มแตกแถว
เป็นสัญญาณของการล่มสลาย!
เป็นสัญญาณของความพ่ายแพ้!!
เป็นสัญญาณของความหวาดกลัว!!!
ในนามของแม่ทัพทะเลเลือด ฮันม่อซูไม่คิดจริง ๆ ว่าตนเองจะต้องมาตายเช่นนี้
เมื่อความตายมาถึงตัว เขาก็ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว
ความคิดสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในศีรษะของเขาบังคับให้อ้าปากพูดออกมาว่า
“ไม่นะ… ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย… ให้อภัยข้าด้วยเถอะ…”
แต่ไม่มีผู้ใดให้อภัยฮันม่อซูได้อีกแล้ว
สายลมโชยพัด
ชีวิตคนลาลับ
บนท้องฟ้าเหลือเพียงร่างของคนเพียงผู้เดียว
“ฮันม่อซูตายแล้ว ยังมีผู้ใดคิดมีปัญหากับข้าอีกหรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินชูศีรษะเปื้อนเลือดในมือขึ้นสูง ก่อนก้มหน้าตะโกนใส่พื้นดิน “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าห้าลมหายใจ ผู้ใดอยากมอบตัว ขอให้ถอดชุดเกราะและทิ้งอาวุธในมือ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกฆ่าตายหมดสิ้น!”