เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1742 ตอบแทนตามสัญญา
ตอนที่ 1,742 ตอบแทนตามสัญญา
ด้านซ้ายกับด้านขวาของสวนดอกไม้เป็นที่ตั้งของห้องสองห้อง
หน้าประตูห้องมีผู้คนกำลังยืนอยู่
หากหลินเป่ยเฉินอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอน
เพราะผู้คนนั้นก็คือเจ้าอ้วนกับมารดา และวิญญาณหมาป่าศิลานั่นเอง
แม้ว่าทั้งสามจะมีสถานะเป็นนักโทษ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
“ผู้ต่ำต้อยทำความเคารพพระสนม องค์ชายยี่สิบเอ็ดและท่านแม่ทัพกั้ว”
สือฮั่วฮุนทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“องครักษ์สือ ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
มารดาของเจ้าอ้วนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นกัน
“บอกพวกเรามาเถอะ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเจ้า ได้รับคำสั่งให้มาทำอะไรกับพวกเรากันแน่?” วิญญาณราชาหมาป่าศิลากระโดดออกมาข้างหน้าด้วยความสงสัย
ในระหว่างที่ถูกจองจำอยู่ในคุกใต้ดินแห่งนี้ แม้นักโทษทั้งสามจะรู้ดีว่าคนสนิทขององค์ชายรองผู้นี้เป็นบุคคลที่ร้ายกาจ แต่พวกเขาก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และไม่เคยถูกทรมานเลยสักครั้ง ดังนั้นบรรยากาศในการสนทนาขณะนี้จึงไม่มีความอาฆาตมาดร้ายใด ๆ
สือฮั่วฮุนยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสและตอบว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีต่อองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ เพราะองค์ชายได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่แล้ว”
หลังจากนั้น สือฮั่วฮุนก็บอกเล่าถึงผลการประชุมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกมา
เจ้าอ้วนพูดตะกุกตะกักว่า “ผะ… ผู้คุมสือ… ทะ… ทะ… ท่านหมายความว่า… ขะ… ข้ากับท่านแม่… จะได้รับการปล่อยตัว… ออกไปแล้วใช่หรือไม่?”
สือฮั่วฮุนผงกศีรษะ “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ นี่คือโอกาสดีที่สุดที่พวกท่านจะได้ออกไปจากที่นี่”
“ฮวาไป๋ สุนัขชั่วร้ายตัวนั้นแค่อยากจะหาหุ่นเชิดสินะ…”
เมื่อได้ยินคำอธิบายเหล่านั้น มารดาของเจ้าอ้วนก็เข้าใจแผนการทุกอย่างโดยทันที “แต่ผู้คุมสือกล่าวได้ถูกต้อง นี่คือโอกาสดีที่สุด ตราบใดที่เจ้าได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ เราก็มีโอกาสที่จะแก้ไขเรื่องราวต่าง ๆ ได้เสมอ”
“แต่องค์ชายต้องทำตามคำสั่งของสภาขุนนางพ่ะย่ะค่ะ”
สือฮั่วฮุนประสานมือก้มหน้ากล่าวต่อไป “นี่คือข้อแม้เดียวของพวกเขาเท่านั้น”
มารดาของเจ้าอ้วนพยักหน้า “พวกเราตอบตกลง”
“พระสนม…” สีหน้าของวิญญาณราชาหมาป่าศิลาแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำตอบรับของมารดาเจ้าอ้วน “ลองคิดดูดีใหม่หรือไม่?”
มารดาของเจ้าอ้วนตอบกลับไป “ไม่เป็นไร ข้าคิดดีแล้ว”
…
‘การอัปเกรดต้องใช้อัตราในการโอนถ่ายข้อมูล 28 GB…’
‘กรุณาตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ของท่านและหลีกเลี่ยงการปิดโทรศัพท์ระหว่างการอัปเดต...’
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนที่กระบวนการอัปเดตจะเริ่มขึ้น
หลินเป่ยเฉินเก็บโทรศัพท์ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังในร่างกายถูกดูดออกไป
การสังหารหลินซิงเฉิงในครั้งนี้สร้างผลประโยชน์ให้กับเขามากมาย
แต่ก็ทำให้หลินเป่ยเฉินเสียเงินไปไม่น้อยเช่นกัน
เขาต้องเสียเงินก้อนใหญ่ไปโดยเปล่าประโยชน์
โดยเฉพาะการว่าจ้างยอดฝีมือจากแอป UU ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้เรียกตัวมาใช้งาน แต่หลินเป่ยเฉินก็ไม่สามารถกดคืนเงินได้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจยิ่งนัก
คงต้องคิดหาวิธีหาเงินบ้างแล้ว
หลินเป่ยเฉินจึงนำข้าวของต่าง ๆ ที่ยึดมาได้จากฝ่ายศัตรู ออกมาคัดเลือกเพื่อนำไปวางขายเป็นสินค้ามือสองในโทรศัพท์มือถือต่อไป
อย่างน้อยก็ต้องถอนทุนคืนมาบ้าง
หลังจากนั้น เขาก็สั่งให้หวังจงติดต่อไปทางเมืองอิ่นเฉิน เช่นเดียวกับเมืองหลานเหนี่ยว เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาพที่เขาเห็นในห้องลับของหลินซิงเฉิงเป็นความจริง
และจังหวะที่กำลังจะวางแผนต่อไปนั้นเอง หัวหน้ากลุ่มองครักษ์สุยหลิวกวงก็ก้าวเข้ามารายงานว่า “กราบเรียนท่านแม่ทัพใหญ่ มีพี่น้องคู่หนึ่งมาขอเข้าพบท่านแม่ทัพ บอกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อทำตามคำสัญญาเจ้าค่ะ”
“หืม?”
หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบโดยทันที “รีบนำตัวพวกเขาเข้ามา”
หลังจากนั้นไม่นาน
เด็กสาวหน้าตาสะสวยและน้องชายของนางก็มาปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหลินเป่ยเฉิน
“คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นพวกเจ้า…”
หลินเป่ยเฉินส่งยิ้มให้แก่สองศรีพี่น้องด้วยความดีใจ “แต่ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราจะได้เจอกันอีก ดูเหมือนพวกเจ้าจะผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลยนะ”
สองพี่น้องมีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดพันอยู่ทั้งตัว ชุดเกราะที่สวมใส่ก็ได้รับความเสียหาย ร่างกายมีกลิ่นสมุนไพรโชยออกมาจาง ๆ
“เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย พวกเราสามารถจัดการเองได้”
เด็กสาวกล่าวด้วยสีหน้าดื้อรั้นและไม่ยอมพูดอะไรมากไปกว่านั้น
หลินเป่ยเฉินก็ไม่ได้ถามอะไรอีก “งั้นพวกเจ้าอุตส่าห์มาถึงที่นี่ ก็คงมาตอบแทนข้าแล้วสินะ?”
เด็กสาวนำกล่องไม้บรรจุโอสถขนาดเล็กออกมาถือด้วยมือข้างหนึ่งและตอบว่า “ข้าสัญญาว่าจะหลอมโอสถคืนวิญญาณให้กับท่าน บัดนี้ ข้าทำตามคำสัญญาแล้ว ภายในกล่องนี้มีโอสถคืนวิญญาณอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นสิบเม็ด”
“หืม? สิบเม็ดเชียวหรือ?”
หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาด้วยความตกใจ “มากกว่าที่เราตกลงกันไว้นี่นา?”
เด็กสาวกล่าวว่า “ท่านปู่ของข้าบอกว่าใบไม้คืนวิญญาณคือวัตถุดิบสำคัญในการหลอมโอสถชนิดนี้ พวกเราเป็นหนี้บุญคุณท่านครั้งใหญ่ ดังนั้นจึงสมควรตอบแทนมากกว่าที่ตกลงกันไว้”
อุ๊ย?
มีท่านปู่เพิ่มมาอีกคนแล้วสิ
ดูเหมือนท่านปู่คนนี้จะเป็นสุดยอดนักปรุงยา
ขณะนี้ หลินเป่ยเฉินยังหาตัวเฉินปี้หยางนักปรุงยาในตำนานไม่เจอ และเขาก็จะไม่รู้ว่าจะไปตามหาตัวเฉินปี้หยางได้ที่ไหน และท่านปู่ของพี่น้องคู่นี้ก็มีความสามารถในการหลอมโอสถคืนวิญญาณ นั่นจึงแสดงว่าท่านปู่คงมีฝีมือไม่ธรรมดาเช่นกัน…
หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธ รับกล่องไม้มาเปิดดูโอสถที่บรรจุอยู่ด้านใน
ด้านในเป็นโอสถที่มีขนาดเท่ากับยาลูกกลอนทั่วไปสิบเม็ด แต่พวกมันมีพื้นผิวราบเรียบเหมือนลูกแก้ว กลิ่นสมุนไพรลอยขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อสูดดมเข้าไปแล้ว ร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่นแจ่มใสขึ้นมาทันที
“นี่คือโอสถที่ช่วยชุบชีวิตคนตายได้ใช่หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง
เด็กสาวตอบว่า “สามารถชุบชีวิตได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยยังมีร่างกายสมบูรณ์ดีเท่านั้น เพราะนี่เป็นโอสถที่มีสรรพคุณนำวิญญาณกลับคืนสู่ร่าง แต่ไม่ได้มีสรรพคุณในการรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ”
เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว
หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ร่างกายของผู้คนที่อยู่ในแผ่นดินตงเต้าได้รับการปิดผนึกเป็นอย่างดี และโอสถคืนวิญญาณก็จะช่วยชุบชีวิตพวกเขาได้อย่างแน่นอน
แต่มีเพียงสิบเม็ดมันจะไปพอได้อย่างไร?
“สหายน้อย ข้าขอพบกับท่านปู่ของเจ้าได้หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินสอบถาม
เด็กสาวตึงเครียดขึ้นมาทันที “ไม่ได้”
ใบหน้าของหลินเป่ยเฉินกระตุกเล็กน้อย
ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลยเหรอเนี่ย
พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันสักหน่อยนี่นา
“ข้าสามารถมอบใบไม้คืนวิญญาณให้กับพวกเจ้าได้อีกเป็นจำนวนมาก”
หลินเป่ยเฉินพยายามยื่นข้อเสนอ
เด็กสาวส่ายศีรษะตอบกลับมา “พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว”
หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุกอีกครั้ง
นี่เรียกว่าการรื้อสะพานหลังข้ามแม่น้ำเสร็จสิ้นใช่หรือไม่?
“ไม่ว่าเจ้าต้องการสมุนไพรชนิดใด ข้าล้วนหามาให้ได้ทั้งสิ้น”
หลินเป่ยเฉินยังคงยื่นข้อเสนออย่างไม่ยอมแพ้ต่อไป