เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1771 ร่างทองคำ
ตอนที่ 1,771 ร่างทองคำ
การโจมตีด้วยเมล็ดพืชไม้เลื้อยในครั้งนี้น่ากลัวกว่าเถาวัลย์ดาราพิฆาตหลายเท่า
หากรากไม้สามารถทะลวงเข้าสู่ร่างกายได้สำเร็จ ชีวิตของคนผู้นั้นก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของหวงเฉิงอี้โดยสมบูรณ์
คนผู้นั้นจะถูกหวงเฉิงอี้ควบคุมไม่ต่างจากหุ่นกระบอก
นี่คือวิชาที่สามารถสังหารได้แม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพจักรา
แต่ไม่สามารถใช้ได้กับหลินเป่ยเฉิน
เพราะว่าผิวหนังของเขาแข็งแกร่งเกินไป!
ไม่ว่ารากไม้จะพยายามทะลวงลงสู่ใต้ผิวหนังของเขาสักเท่าไหร่ มันก็ทะลวงลงไปไม่สำเร็จ นับประสาอะไรกับการดูดซับพลังจากเขา
“เฮ้อ”
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมายาวแรง “แม่นางอ่อนแอเกินไปแล้ว… การโจมตีเพียงเท่านี้ ยังห่างไกลจากคำว่าตื่นเต้นสำหรับข้านัก”
แล้วบรรดาตอไม้ขนาดเล็กที่เกาะอยู่ทั่วผิวหนังของหลินเป่ยเฉินก็ค่อย ๆ หลุดออกมา
หวงเฉิงอี้เบิกตาโตด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
เมล็ดรากไม้ถล่มดาราของนางไม่สามารถโจมตีหลินเป่ยเฉินได้อย่างนั้นหรือ?
เหตุใดหลินเป่ยเฉินจึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับใดกันแน่?
เขาสามารถใช้พลังปราณมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายได้จริง ๆ หรือ?
ไม่น่าเป็นไปได้
ตู้ม! ตู้ม!
เวลาแห่งการตอบโต้มาถึงแล้ว
คลื่นพลังพุ่งออกมาจากกำปั้นของหลินเป่ยเฉินไม่ต่างจากภูเขาไฟระเบิด
คลื่นพลังจากหมัดของเด็กหนุ่มครอบคลุมไปทั่วพื้นที่หลายร้อยวา
การโจมตีด้วยคลื่นพลังจากหมัดของหลินเป่ยเฉินนั้น รวดเร็วกว่าความเร็วเสียงถึงห้าเท่า
เกินขีดจำกัดที่ผู้ใดจะตั้งรับได้ทัน
สีหน้าของหวงเฉิงอี้แปรเปลี่ยนไป แต่นางก็สลับตำแหน่งของตนเองกับเถาวัลย์ทองคำ แล้วร่างกายที่แท้จริงของนางก็ปรากฏอยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยวาได้ทันเวลาพอดี
“ก็แค่ความรวดเร็ว เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก...”
ในดวงตาของหวงเฉิงอี้ปรากฏจิตสังหารขึ้นมาแรงกล้า
แต่คำพูดของนางยังไม่ทันขาดหาย ความเปลี่ยนแปลงก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง
เปรี๊ยะ!
เกราะทองคำบริเวณหัวไหล่ซ้ายของนางเกิดรอยร้าว
ทันใดนั้น เกราะทองคำที่ห่อหุ้มหัวไหล่ของหวงเฉิงอี้ก็ถูกคมกระบี่ฟันอย่างแรง
โลหิตไหลทะลักออกมาจากรอยร้าวนั้น
ผิวที่ขาวผ่องของหวงเฉิงอี้เกิดบาดแผลขึ้นมาแล้ว
นางแสดงสีหน้าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
หวงเฉิงอี้ได้รับบาดเจ็บ
เลือดออก
หัวใจของหวงเฉิงอี้ร้อนผ่าวด้วยไฟแค้น
นี่คือความจริงที่นางไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด
หวงเฉิงอี้มีระดับพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักรา และนางยังเป็นนักรบระดับสูงของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ผู้คนในสายตาของนางเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่ง ไม่ควรค่าให้ชายตามองแม้แต่น้อย แต่นางกลับมาบาดเจ็บด้วยน้ำมือของมนุษย์ผู้หนึ่งเนี่ยนะ?
ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด
“เป็นเจ้าบังคับข้าเอง”
ทันใดนั้น ดวงตาของหวงเฉิงอี้พลันเปลี่ยนไปกลายเป็นสีเขียวเข้มมากขึ้นเรื่อย ๆ “วิชาพฤกษาจักรพรรดิกลืนวิญญาณ!”
แล้วมวลพลังมหาศาลก็ระเบิดออกมา
โลหิตที่ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลบนหัวไหล่ซ้ายก็กลายเป็นสีเขียวเข้มเช่นกัน หลังจากนั้น บนผิวกายที่ขาวเนียนของหวงเฉิงอี้ก็ปรากฏเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนเต็มไปหมด
นี่คือภาพที่น่าขนลุก
ทันใดนั้น เถาวัลย์สีเขียวเข้มที่มีขนาดเท่ากับนิ้วมือคนก็แผ่ขยายออกไปรอบบริเวณนับสิบลี้ บนท้องฟ้าปกคลุมด้วยเถาวัลย์ชนิดนี้ และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่กลุ่มเถาวัลย์พุ่งเข้ามาพันธนาการร่างกายของหลินเป่ยเฉิน
เถาวัลย์ผีสางเหล่านี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าเถาวัลย์ทองคำก่อนหน้า
มิหนำซ้ำ หนามแหลมของพวกมันยังมีพิษอีกด้วย
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขารู้สึกชาดิก
แสดงว่าพิษจากเถาวัลย์ผีได้แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังของเขาแล้ว
…ในที่สุด หนามแหลมของพวกมันก็สามารถเจาะทะลุผิวหนังของหลินเป่ยเฉินได้สำเร็จ!
พิษแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
รากเถาวัลย์พยายามมุดตัวเข้าไปใต้ผิวหนังของหลินเป่ยเฉินอย่างบ้าคลั่ง
“ข้าเองก็ไม่อยากใช้วิชานี้เลย เพราะร่างกายของข้าก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน แต่เป็นเพราะเจ้าโอหังมากเกินไป ข้าจึงปล่อยให้เจ้าลอยนวลต่อไปไม่ได้อีกแล้ว… นี่คือราคาที่เจ้าต้องชดใช้ หลินเป่ยเฉิน ยุคสมัยของผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์นั้นจบสิ้นลงแล้ว แม้แต่องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ยังดูแลตนเองไม่ได้… นับประสาอะไรกับผู้ที่มีสายเลือดเดียวกับเขาอย่างพวกเจ้า”
ใบหน้าที่เคยสวยงามของหวงเฉิงอี้บัดนี้ปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดสีเขียวปูดโปน
วิชาพฤกษาจักรพรรดิกลืนวิญญาณคือหนึ่งในวิชาที่น่ากลัวที่สุดของผู้ใช้สายเลือดนักพฤกษา
และยังเป็นวิชาต้องห้ามชนิดหนึ่ง
สำหรับผู้ใช้สายเลือดนักพฤกษา ชุดเกราะและอาวุธของพวกเขาก็คือพืชไม้หายากจำนวนมากที่เก็บรวบรวมมาและทำการหลอมรวมผ่านการฝึกวิชาต่าง ๆ
ในอดีต หวงเฉิงอี้ต้องทุ่มเทแทบทุกสิ่งทุกอย่างกว่าจะได้เถาวัลย์ผีสางสายพันธุ์นี้มาครอบครอง และพวกมันก็ทำให้นางสามารถครองตำแหน่งระดับสูงในเผ่าพันธุ์ปีศาจได้สำเร็จ
นี่คืออาวุธที่เปรียบเสมือนไพ่ตายของนาง
ตราบใดที่ใช้วิชานี้ออกไป
นางก็ต้องเสียสละเลือดเนื้อและพลังวิญญาณของตนเองเช่นกัน
ก่อนหน้าที่จะถึงวันนี้ หวงเฉิงอี้ใช้วิชานี้แทบนับครั้งได้
เพราะมันจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อร่างกายของนาง
อย่างเช่นในขณะนี้ เมื่อพลังของนางถูกดูดกลืนลงไปสู่กลุ่มเถาวัลย์ที่แผ่ขยายออกกว้าง ผิวหนังของหวงเฉิงอี้ก็เริ่มกลับกลายเป็นสีดำเข้ม รูปโฉมที่งดงามถูกทำลายย่อยยับ บนผิวหนังเต็มไปด้วยรากเถาวัลย์ไม้เลื้อยปกคลุมอยู่เต็มไปหมด
สภาพของหวงเฉิงอี้ในขณะนี้ ไม่ต่างไปจากมนุษย์ต้นไม้ที่เพิ่งคลานออกมาจากโลกยุคดึกดำบรรพ์
“จริงหรือ?”
หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
“ฮ่า ๆๆ …ข้าเองก็ไม่อยากแสดงพลังที่แท้จริงออกมาเช่นกัน เพราะมันจะทำให้ข้าต้องสูญเสียเสื้อผ้าไปโดยเปล่าประโยชน์”
เมื่อเสียงหัวเราะของหลินเป่ยเฉินขาดหายไป กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายของเขากำลังพองโตเท่านั้น แต่ส่วนสูงของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเมตร ห้าเมตร หกเมตร…
สุดท้าย ความสูงของหลินเป่ยเฉินก็ไปหยุดอยู่ที่ยี่สิบเมตร!
เขากลายเป็นยักษ์ใหญ่ตนหนึ่ง
นี่คือผลลัพธ์ของการเลื่อนขั้นในวิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณได้สำเร็จ
สีผิวของเขาก็เปลี่ยนจากสีขาวเนียนกลายเป็นสีทองคำไม่ต่างจากสวมใส่ชุดเกราะที่สะท้อนประกายระยิบระยับ
ในขณะนี้ ดวงตาของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ
และพลังกดดันที่แผ่ออกมาจากร่างกายนั้น ก็ทำให้หลินเป่ยเฉินดูน่ากลัวไม่ต่างจากเทพสงครามที่กำลังลงสู่สนามรบ มวลอากาศรอบกายปั่นป่วนอย่างควบคุมไม่ได้ แม้แต่หวงเฉิงอี้ก็ยังตกตะลึงไปกับความน่าเกรงขามของเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มในขณะนี้ไม่ต่างไปจากจ้าวปีศาจระดับสูงที่เพิ่งฟื้นตื่นขึ้นมาจากความตายจริง ๆ!