เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1786 ปาท่องโก๋อีกครึ่งหนึ่ง
ตอนที่ 1,786 ปาท่องโก๋อีกครึ่งหนึ่ง
นี่ทำให้หลินเป่ยเฉินได้ตระหนักอย่างชัดเจนว่าเซี่ยเต๋อจีไม่ได้เป็นพี่สาวตาบอดผู้ใจดีมีเมตตาอย่างที่ปฏิบัติตัวกับเขา แต่นางคือยอดฝีมือผู้สร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกรียงไกรเมื่อหลายพันปีก่อนอย่างแท้จริง
ด้วยพลังของนาง เซี่ยเต๋อจีย่อมสามารถสังหารผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพจักราได้ไม่ต่างจากมดปลวกตัวหนึ่ง
แต่สุสานที่นางสร้างเอาไว้เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนตลอดกาลให้แก่ตัวเอง ยังสามารถใช้เป็นสถานที่กักตัวสำหรับฝึกวิชาให้แก่ผู้อื่นได้อย่างไรอีก?
ในอีกหน้าจอหนึ่ง รองผู้คุมสภาม่อเฟิงพร้อมด้วยพวกของไฉจูต้าซือ ทั้งสามคนไม่ได้เข้าไปในส่วนลึกของคฤหาสน์หวังชิง ซึ่งเป็นหลังเดียวกับคฤหาสน์ที่พวกของเยว่อี้เข้าไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะเก็บเกี่ยวกับสมบัติที่สามารถพบเห็นได้ตามสองข้างทาง โดยเฉพาะแร่โลหะและแร่หายากหลายชนิด คนกลุ่มนี้เที่ยวขุดตามซอกเล็กซอกน้อยไม่ต่างไปจากหนูโสโครกที่เข้าไปหาอาหารตามโรงนาของชาวไร่
และก็ยังมีบุคคลปริศนาที่สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีดำ ซึ่งบุกเข้ามายังหนึ่งในตึกแฝดอันเป็นที่ตั้งของสุสานประจำตัวเซี่ยเต๋อจี
แต่คนผู้นี้ก็ต้องพบกับปัญหา เพราะเขาต้องต่อสู้กับรูปปั้นหญิงสาวตาบอดถึงยี่สิบเอ็ดตัว
ขอบเขตพลังของบุคคลปริศนายังไม่สูงส่งถึงขั้นจอมเทพจักรา คาดว่าน่าจะมีพลังอยู่เพียงขั้นจอมเทพจักรพรรดิเท่านั้น แต่ดูเหมือนเขาจะมีวิชาลับประจำตัวบางอย่าง ซึ่งทำให้รูปปั้นหญิงสาวตาบอดไม่สามารถเข้าประชิดตัวเขาได้ มิหนำซ้ำ การเคลื่อนไหวของพวกมันก็เชื่องช้าลง ทำให้บุคคลปริศนายังสามารถเดินฝ่าไปข้างหน้าได้ต่อไป
นี่ทำให้หลินเป่ยเฉินประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
บุคคลปริศนาผู้นี้มีขอบเขตพลังไม่ถึงขั้นจอมเทพจักรา แต่กล้าเข้ามาสำรวจถึงในตึกแฝดเชียวหรือ?
ในตึกแฝดหลังนี้ รูปปั้นหญิงสาวตาบอดจำนวนมากจะมีขั้นพลังแตกต่างกันไปตามสถานที่ซึ่งถูกตั้งประจำตำแหน่งเอาไว้
แต่รูปปั้นตัวที่มีขั้นพลังต่ำต้อยที่สุดก็อยู่ในขอบเขตจอมเทพจักรพรรดิแล้ว
หลินเป่ยเฉินเคยเผชิญหน้ากับรูปปั้นเหล่านี้มาก่อน
แต่พวกมันไม่ได้โจมตีเขา
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็นึกถึงความรู้สึกเสียวสันหลังที่เกิดขึ้นตอนอยู่หน้าประตูทองสัมฤทธิ์ขึ้นมาทันที
ต้องเป็นตอนนั้นแน่ ๆ ที่เขารู้สึกว่าองศาของรูปปั้นเหล่านั้นมันผิดแปลกไป
ยิ่งเดินลึกเข้ามาในตึกแฝดมากเท่าไหร่ รูปปั้นหญิงสาวตาบอดก็ยิ่งมีขั้นพลังแข็งแกร่งมากเท่านั้น
เกรงว่ารูปปั้นหญิงสาวตาบอดที่อยู่ในอุโมงค์ลับ น่าจะอยู่ในขอบเขตจอมเทพจักราระดับสูงเลยทีเดียว
แต่ทันใดนั้น ความรู้สึกที่ชวนให้ขนหัวลุกก็สลายหายไป
บัดนี้ เมื่อเด็กหนุ่มลองมาคิดทบทวนดูดี ๆ นอกจากเรื่องที่ว่าเขาใช้เส้นทางผ่านการนำทางของแอปไป่ตู้ แมป อีกหนึ่งคำอธิบายที่สามารถตอบคำถามได้ว่า เพราะเหตุใดหลินเป่ยเฉินจึงสามารถไปถึงสวนดอกไม้วิเศษของเซี่ยเต๋อจีได้อย่างปลอดภัยนั้น ก็เป็นเพราะว่าหญิงสาวตาบอดออกคำสั่งไม่ให้รูปปั้นหินเหล่านั้นโจมตีเขานั่นเอง
เด็กหนุ่มจ้องมองหน้าจอต่อไป
ในหน้าจอหนึ่ง คณะสำรวจของเจ้าอ้วนก็ปรากฏขึ้น
ปรากฏว่าพวกเขาก็เข้ามาสำรวจในตึกแฝดเช่นกัน พวกเขาเข้าสู่ตึกทางด้านหน้าและขึ้นมาถึงชั้นที่สี่ ก่อนจะมาเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของรูปปั้นหญิงสาวตาบอดในที่สุด
แต่เนื่องจากว่ามารดาของเจ้าอ้วนมีปาท่องโก๋อีกครึ่งซีก เอ๊ย มีเครื่องรางที่หน้าตาเหมือนรากโสมครึ่งซีกอยู่ในมือ รูปปั้นหินเหล่านั้นจึงทำได้เพียงปิดล้อม และไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อพวกเขาได้เลย มิหนำซ้ำ เมื่อพวกมันเห็นรากไม้ที่อยู่ในมือของมารดาเจ้าอ้วน รูปปั้นทุกตัวก็รีบเปิดทางให้กลุ่มคนเดินโดยสะดวก
“หืม นั่นคือเครื่องรางอีกครึ่งหนึ่งสินะ?”
หลินเป่ยเฉินมองเพียงแวบเดียวก็รู้โดยทันที
ส่วนคณะสำรวจสุสานคณะอื่น ๆ ที่ไม่มีการคุ้มครองจากปาท่องโก๋ศักดิ์สิทธิ์ก็กำลังต้องพบเจออันตรายใหญ่หลวงกันอย่างถ้วนหน้า แม้ว่าพวกเขาจะอยู่เพียงพื้นที่ตอนกลางหรือพื้นที่รอบนอกของสุสานจันทรามิลืมเลือนเท่านั้นก็ตาม
แต่ทุกคนก็ตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากค่ายอาคม หรือมิเช่นนั้น ก็ต้องประสบกับการโจมตีของรูปปั้นหญิงสาวตาบอดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือบางรายก็ถึงขั้นเสียชีวิต...
นี่นับว่าเซี่ยเต๋อจีมีจิตใจอำมหิตยิ่งนัก
เห็นได้ชัดว่านางไม่มีความปรานีต่อผู้บุกรุกสุสานเหล่านี้เลย
กลุ่มยอดฝีมือที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิซึ่งเข้ามาสำรวจสุสานกษัตริย์เป็นจำนวนหลายร้อยคน บัดนี้ พวกเขาเหลืออยู่เพียงหนึ่งในสามเท่านั้น และผู้รอดชีวิตแต่ละคนก็มีเลือดท่วมตัว มองเห็นความตายคืบคลานเข้ามาอยู่รำไร แต่ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหนีรอดได้เลย
ตลอดเวลาเหล่านี้ บนหน้าจอไม่ปรากฏภาพสตรีวัยกลางคนที่ร่ำรวยกับผู้ติดตามทั้งสองของนางแม้แต่ครั้งเดียว…
หรือว่าพวกนางจะกลับออกไปแล้ว?
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วใช้ความคิด จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองแผงควบคุมที่สร้างขึ้นมาจากค่ายอาคมเช่นกัน และเมื่อเขานำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกน เด็กหนุ่มก็รู้วิธีควบคุมรูปปั้น ค่ายอาคม วิธีการเปิดประตูมิติและการปรับเปลี่ยนเส้นทางภายในสุสานกษัตริย์ทั้งหมดโดยละเอียด
“นับจากนี้เป็นต้นไป สุสานแห่งนี้เป็นของข้าโดยสมบูรณ์แล้ว… ฮ่า ๆๆ”
หลินเป่ยเฉินฉีกยิ้มกว้าง “งั้นมาทำอะไรสนุก ๆ กันหน่อยดีกว่า”
เด็กหนุ่มเกิดความคิดบรรเจิดขึ้นมาโดยทันที
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ…
“เกิดอะไรขึ้น?”
“รูปปั้นเหล่านี้ไฉนจึงได้โจมตีรุนแรงขึ้น…”
“ไม่นะ จำนวนของพวกมันยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย”
“มีผู้คนเปิดใช้งานค่ายอาคมระดับสูงใช่หรือไม่?”
คณะของเยว่อี้ ม่อหลี่ ม่อเฟิง รวมไปถึงคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำซึ่งกระจายกำลังออกสำรวจสุสานตามพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมใจกันระเบิดเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น
สีหน้าของพวกเขามีความกดดันมากขึ้นเมื่อเผชิญหน้าการโจมตีจากรูปปั้นหญิงสาวตาบอดที่ปรากฏตัวออกมาจากทุกทิศทุกทาง
จากที่เคยรับมือได้อย่างง่ายดายก่อนหน้านี้ บัดนี้ ทุกคนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีผู้ใดสามารถเก็บกวาดทรัพย์สมบัติจากสุสานกษัตริย์ได้อีกต่อไป
เรียบร้อย!
หลินเป่ยเฉินแสยะยิ้มด้วยความสะใจ
ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังกลุ่มจอมเทพจักรพรรดิที่ต้องได้รับบาดเจ็บและตกตายไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ในอีกไม่กี่ลมหายใจต่อมา…
“ขอบคุณเซียนกระบี่หลินสำหรับความช่วยเหลือขอรับ”
“ข้าน้อยคิดอยู่แล้วว่าเซียนกระบี่หลินต้องเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมที่แท้จริง”
“พวกเราอาจารย์และศิษย์ทั้งสี่คนขอถวายตัวรับใช้กองทัพเซียนกระบี่ด้วยชีวิตนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปขอรับ”
“ข้าพเจ้าคือเจ้าสำนักจี๋เตาซานซินแห่งอาณาจักรหงเฉียง เรื่องที่เซียนกระบี่หลินช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง หากท่านมีโอกาสเดินทางมาที่อาณาจักรหงเฉียงในภายภาคหน้า ก็ขอให้ท่านแสดงป้ายแผ่นนี้ออกมา แล้วพวกเราจะดูแลท่านเป็นอย่างดีที่สุดขอรับ”
ต่างสถานที่ แต่วิธีการเดียวกัน
ด้วยการใช้แผงควบคุมที่อยู่ตรงหน้า หลินเป่ยเฉินจึงสามารถเปิดประตูมิติไปปรากฏตัวอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ภายในสุสานกษัตริย์ เพื่อรับบทวีรบุรุษช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายได้อย่างต่อเนื่อง
บรรดาผู้รอดชีวิตย่อมต้องขอบคุณหลินเป่ยเฉิน
นี่คือแผนการจับปลาของเขา เริ่มต้นด้วยการสร้างบุญคุณ แล้วการตอบแทนบุญคุณก็จะตามมาเอง
เพียงพริบตาเดียว ภายในสุสานกษัตริย์ก็เหลืออยู่แต่กลุ่มของยอดฝีมือระดับจอมเทพจักราเท่านั้น
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่นขณะจ้องมองกลุ่มยอดฝีมือเหล่านั้นผ่านหน้าจอค่ายอาคมในห้องควบคุมและเริ่มต้นคิดหาแผนการครั้งใหม่
กลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้ไม่สามารถหลอกได้ง่าย ๆ เหมือนพวกที่มีฝีมืออยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ
อย่างน้อย พวกเขาก็สามารถดูแลตนเองได้
หรือต่อให้หลินเป่ยเฉินยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ยอดฝีมือกลุ่มนี้ก็คงไม่สำนึกในบุญคุณสักเท่าไหร่
เพราะฉะนั้น คงต้องใช้วิธีการอื่น
หลินเป่ยเฉินใช้แอปเมจิก คาเมร่าเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นเซี่ยเต๋อจี เตรียมที่จะออกไปปรากฏตัวข่มขวัญกลุ่มยอดฝีมือเหล่านั้น
แต่จังหวะนั้นเอง สายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับภาพของบุคคลปริศนาในชุดเสื้อคลุมสีดำที่อยู่บนหน้าจอ
เป็นไปได้อย่างไร?
ของสิ่งนั้นมาอยู่ในมือของคนผู้นี้ได้อย่างไร?
ค้อนคว่ำนภา!!