เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1787 เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดกันล่ะ
ตอนที่ 1,787 เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดกันล่ะ
บุคคลปริศนาในชุดเสื้อคลุมสีดำอยู่ภายใต้การคุกคามของกลุ่มรูปปั้นหญิงสาวตาบอด ดังนั้นเขาจึงนำค้อนคว่ำนภาออกมาใช้งาน
นี่เป็นอาวุธวิเศษของหลิงเฉินไม่ใช่หรือ?
แล้วมาอยู่ในมือของคนผู้นี้ได้อย่างไร?
หลินเป่ยเฉินพินิจมองและแน่ใจว่าคนผู้นี้ต้องไม่ใช่หลิงเฉินหรือองค์ชายหลิงเด็ดขาด
ดังนั้น เด็กหนุ่มจึงเกิดคำถามตามมา
อาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับ 70 อย่างค้อนคว่ำนภาตกมาอยู่ในมือของคนผู้นี้ได้อย่างไร?
หัวใจของหลินเป่ยเฉินเกิดสังหรณ์อัปมงคล
ไม่แปลกใจเลยว่าบุคคลปริศนาผู้นี้เหตุไฉนจึงได้กล้าบุกเข้ามาสำรวจสุสานด้วยตัวเพียงคนเดียว นั่นเป็นเพราะว่าเขามีค้อนคว่ำนภาอยู่ในการครอบครองนั่นเอง
หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ
หลินเป่ยเฉินกดปุ่มบนแผงควบคุมเปิดประตูมิติไปยังชั้นที่สามของตึกแฝด
เขาซ่อนตัวอยู่ในความมืด รอคอยให้บุคคลปริศนาเดินเข้ามาใกล้
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
บุคคลปริศนาเหวี่ยงค้อนในมือทุบทำลายรูปปั้นได้แล้วถึงห้าตัว
ท่าทางของเขาดูลำบากใจไม่น้อย
สามารถคาดเดาได้ว่าบุคคลปริศนาไม่อยากนำค้อนคว่ำนภาออกมาใช้งานเลย แต่เขาก็จำเป็นต้องนำออกมาใช้งานแล้วจริง ๆ
แม้ว่าค้อนคว่ำนภาจะเป็นอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับ 70 แต่บุคคลปริศนาไม่ได้มีขั้นพลังอยู่ในขอบเขตจอมเทพจักราระดับ 3 ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรีดเค้นพลังของตัวค้อนออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มิหนำซ้ำ เขายังต้องสูญเสียพลังปราณในร่างกายไปถึงสองในสามส่วนอีกด้วย
บุคคลปริศนาหยุดชะงัก
จะไปต่อดีไหมนะ?
การป้องกันสุสานกษัตริย์มีความรัดกุมมากกว่าที่คิด เขาจึงไม่แน่ใจเลยว่าตนเองจะสามารถบุกเข้าไปถึงสุสานหลักได้สำเร็จ
หรือว่าจะกลับออกไป?
เขาคงมาได้เพียงเท่านี้
หลังจากชั่งใจอยู่พักใหญ่ ในที่สุด บุคคลปริศนาก็ตัดสินใจถอยหลังกลับ
อย่าเสี่ยงดีกว่า
แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะหมุนตัวเดินกลับออกไปนั้นเอง…
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างทางเดินว่า “อยู่ต่อก่อนเถอะ สหาย”
ร่างของบุคคลปริศนาหยุดชะงัก ก่อนจะหันมาทางต้นเสียงด้วยความดุร้าย
แต่สิ่งที่เขาพบเจอก็คือหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามนางหนึ่ง นางสวมใส่กระโปรงแดงคลุมเข่า และสวมรองเท้าครึ่งแข้ง ดวงตาถูกผูกปิดด้วยผืนผ้าสีแดงสด ผมรวบเป็นหางม้ายกสูงทางด้านหลัง นางกำลังเดินออกมาจากเงามืดอย่างแช่มช้า
“เป็นท่าน ท่านคือ… ท่าน….”
บุคคลปริศนาร้องอุทานด้วยความตกตะลึง
เขาจำได้โดยทันทีว่าสตรีที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านี้ก็คือเจ้าของสุสานกษัตริย์นั่นเอง นางคือยอดฝีมือที่มีชื่อว่าเซี่ยเต๋อจีซึ่งเคยสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกรียงไกรเอาไว้เมื่อหลายพันปีก่อน
แต่พลังปราณและลมหายใจที่เป่ารดออกมานั้น บอกชัดว่านางยังมีชีวิตอยู่
นี่นางไม่ได้ตายไปแล้วหรือ?
การค้นพบครั้งนี้ทำให้บุคคลปริศนาตื่นกลัวยิ่งนัก
เซี่ยเต๋อจีที่สมควรตายไปหลายพันปีแล้ว อยู่ดี ๆ กลับออกมาจากหลุมศพและปรากฏตัวเสมือนเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อหน้าต่อตา… มีผู้ใดเคยพบเจอประสบการณ์เช่นนี้บ้าง?
“ทะ… ท่านผู้อาวุโส…”
เสียงของบุคคลปริศนาสั่นเครือเล็กน้อย “ผู้ต่ำต้อย… เสียมารยาทมากแล้ว… ได้โปรดให้อภัยผู้ต่ำต้อยด้วย”
“สิ่งที่อยู่ในมือของสหายคืออะไร?”
‘สายตา’ ของเซี่ยเต๋อจีจ้องมองอาวุธที่มีอยู่ในมือของผู้บุกรุกไม่วางตา
“ของสิ่งนี้… เป็นอาวุธที่ผู้ต่ำต้อยได้รับการส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ มันมีนามว่าค้อนแสงจันทร์ขอรับ” บุคคลปริศนาตอบละล่ำละลัก
“โกหก”
เซี่ยเต๋อจีชักสีหน้าด้วยความเดือดดาลและกล่าวเสียงดังกังวานว่า “อาวุธชิ้นนี้มีนามว่าค้อนคว่ำนภา เป็นอาวุธวิเศษจากยุคการล่มสลายครั้งที่สอง มันมาอยู่ในมือของเจ้าได้อย่างไร?”
บุคคลปริศนาถึงกับตกตะลึง
เขาถูกจับได้ว่าโกหกเสียแล้ว!
“ผู้ต่ำต้อยจำผิดขอรับ… ของสิ่งนี้เรียกว่าค้อนคว่ำนภาจริง ๆ อาจารย์ของผู้ต่ำต้อยมอบให้เป็นของขวัญขอรับ… ผู้ต่ำต้อย…” ในยามปกติ บุคคลปริศนาผู้นี้มีไหวพริบฉลาดปราดเปรื่อง มิเช่นนั้นก็คงไม่ได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นเป็นสมาชิกระดับสูงของสำนัก แต่บัดนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องราวที่น่าตกตะลึงอย่างต่อเนื่อง ปฏิกิริยาตอบรับของเขาจึงเชื่องช้าลง
“ยังคิดที่จะโกหกอยู่อีกหรือ?”
เซี่ยเต๋อจีกล่าวต่อไป “เดิมทีของสิ่งนี้เคยเก็บอยู่ในสุสานโบราณของอาณาจักรหลิวเยวียน ภายหลังได้รับการครอบครองโดยองค์หญิงไข่มุกขาวแห่งราชวงศ์เกิงจิน... เจ้ากล้าโกหกต่อข้าได้อย่างไร?”
“ท่านผู้อาวุโสรู้ได้อย่างไร?”
บุคคลปริศนาถามด้วยความเหลือเชื่อ
นางสามารถอ่านใจคนได้อย่างนั้นหรือ?
นี่เป็นวิชาเฉพาะตัวของผู้ที่ฝึกวิชาตามสายเลือดผู้เยียวยา
หรือว่าเซี่ยเต๋อจีจะฝึกวิชาตามสายเลือดผู้เยียวยา?
เซี่ยเต๋อจียื่นมือออกมาข้างหน้า “ส่งมาให้ข้า”
บุคคลปริศนาสะดุ้งเฮือก
เซี่ยเต๋อจีกล่าวว่า “ส่งค้อนในมือเจ้ามา หรือว่าเจ้าอยากตาย?”
บุคคลปริศนาหัวใจกระตุกวูบ “หากผู้ต่ำต้อยส่งมอบค้อนให้แก่ท่านผู้อาวุโส ผู้อาวุโสจะปล่อยผู้ต่ำต้อยกลับออกไปแน่นะขอรับ?”
“หากเจ้าส่งค้อนมาโดยดี เซี่ยเต๋อจีก็จะไม่ฆ่าเจ้า…”
เซี่ยเต๋อจีตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
บุคคลปริศนาทราบดีว่าบัดนี้ตนเองอยู่ในอาณาเขตของฝ่ายตรงข้าม ต่อให้เขามีค้อนวิเศษอยู่ในมือ อย่างไรก็ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้อยู่ดี เมื่อลองคิดทบทวนดูดี ๆ แล้ว เขาจึงเลือกที่จะเชื่อในคำสัญญาของยอดฝีมือชื่อดังอย่างเซี่ยเต๋อจีในที่สุด
บุคคลปริศนาส่งมอบค้อนคว่ำนภาให้แก่นาง
เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
“เจ้าได้ค้อนด้ามนี้มาอย่างไร?”
เซี่ยเต๋อจีถือค้อนคว่ำนภาอยู่ในมือ พิจารณามันอย่างละเอียดถี่ถ้วนและถามออกมาด้วยความสงสัย
บุคคลปริศนาขยับเท้าถอยหลัง “ผู้ต่ำต้อยไม่จำเป็นต้องอธิบายที่มาที่ไปของค้อนด้ามนี้ให้ผู้อาวุโสรับทราบ”
“ถ้าไม่บอก เจ้าก็ต้องตาย”
เซี่ยเต๋อจีกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่คุกคาม
“ท่านผู้อาวุโส…”
บุคคลปริศนาตื่นกลัว แต่ก็รีบก้มศีรษะตอบว่า “เป็นผู้ต่ำต้อยได้มาจากองค์หญิงไข่มุกขาวขอรับ”
“บัดนี้นางอยู่ที่ใด?”
เซี่ยเต๋อจีถามออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้น บุคคลปริศนาก็รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
เหตุไฉนยอดฝีมือที่มีอายุหลายพันปีอย่างเซี่ยเต๋อจีถึงต้องอยากรู้ตำแหน่งที่อยู่ของ ‘องค์หญิงไข่มุกขาว’ ด้วยล่ะ?
“เรื่องนั้นผู้ต่ำต้อยไม่ทราบ”
เขาถอยหลังออกมาอย่างช้า ๆ
สายลมหนาวเย็นโชยพัด
พลัน บุคคลปริศนารู้สึกหวาดกลัวไปทั้งหัวใจ บางที เขาอาจตัดสินใจผิดพลาดก็เป็นได้
“ไม่บอกข้า เจ้าก็ต้องตาย”
เซี่ยเต๋อจีส่งเสียงข่มขู่
“ผู้อาวุโส ท่านเป็นใครกันแน่?”
บุคคลปริศนายังไม่ยอมตอบคำถาม
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดกันล่ะ?”
แล้วเสียงของเซี่ยเต๋อจีก็เปลี่ยนไปในพริบตา จากเสียงอ่อนหวานชวนฟังของสตรีนางหนึ่งกลายเป็นเสียงของบุรุษหนุ่มที่ดังกังวานชัดเจน!