เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1793 อากวงรับมือการโจมตี
ตอนที่ 1,793 อากวงรับมือการโจมตี
ห่างออกมาไม่ไกล
“จี๊ด?”
อากวงยืนอยู่บนหลังคาด้วยความโกรธแค้น ขนสีเงินสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับ มันกำลังจะกระโดดออกไปขัดขวางผู้บุกรุก แต่ก็ถูกมือของเด็กสาวนักปรุงยาฉุดรั้งเอาไว้เสียก่อน
“เจ้าออกไปได้ตายแน่”
เด็กสาวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นั่นยอดฝีมือระดับจอมเทพจักราเชียวนะ เจ้าไม่ใช่คู่มือของเขาหรอก ออกไปก็มีแต่ตายเสียเปล่า ๆ”
อากวงสะบัดมือของเด็กสาวออกไป
เด็กสาวผู้นี้ไม่เข้าใจหรอกว่าความซื่อสัตย์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร
“จี๊ด จี๊ด…”
อากวงหันไปส่งเสียงพูดคุยกับเจ้าเสืออสูรข้างกาย มันบอกบุตรบุญธรรมของตนเองว่าหากสถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้ ก็ให้เจ้าเสือพาตัวสองพี่น้องนักปรุงยาหลบหนีไป หรือมิเช่นนั้น ก็ไปตามหาพ่อบ้านหวังจงซะ
หลังจากนั้น อดีตราชันหนูอสูรก็ล่องหนหายวับไปในอากาศ ก่อนกระโดดเข้าไปหากลุ่มผู้บุกรุก
กลุ่มผู้บุกรุกสัมผัสได้ถึงรังสีอันตรายที่คืบคลานเข้ามา
แต่อากวงรู้ดีว่ามันไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้อีกแล้ว
ต่อให้มันจะช่วยชีวิตผู้ใดไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็สามารถถ่วงเวลาได้
รอให้นายท่านกลับมา เดี๋ยวทุกอย่างก็คลี่คลายเอง
เพราะว่านายท่านคือเทพเจ้าผู้ไร้เทียมทาน
ด้วยความสามารถที่สามารถล่องหนหายตัวได้ เจ้าหนูอากวงจึงเริ่มต้นวางกับระเบิดของมันอีกครั้ง
อากวงค่อนข้างฉลาดเฉลียว
มันจะไม่ต่อสู้ซึ่งหน้า
แต่มันจะเอาชนะด้วยสมอง
แต่เห็นได้ชัดว่าอากวงประเมินฝีมือของจอมเทพจักราต่ำมากเกินไป
“หืม?”
ไฉจูต้าซือสูดดมจมูกฟุดฟิด ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มดปลวกต่ำต้อย… ไสหัวออกมาซะ”
ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!
เส้นด้ายทองคำหลายสิบเส้นพุ่งออกไปในอากาศ แล้วร่างของอากวงก็ถูกกระชากออกมาจากสภาวะล่องหน
“จี๊ด”
อากวงส่งเสียงกรีดร้องและพยายามดิ้นรน
“ที่แท้ก็เป็นสัตว์อสูรตัวหนึ่งเองหรือ?”
ไฉจูต้าซือเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ “น่าสนใจดีนี่นา”
เส้นด้ายทองคำของเขาชอนไชเข้าไปภายในร่างกายของอากวง
แต่การบุกทะลวงเข้าสู่ร่างกายของหนูอสูรหางกุดตัวนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้ายิ่ง
ไฉจูต้าซือขยับนิ้วมือเล็กน้อย แล้วโลหิตหยดหนึ่งก็ถูกดูดออกมาจากร่างของอากวง โลหิตหยดนั้นวิ่งย้อนมาตามเส้นด้าย ก่อนที่จะมาสัมผัสกับปลายนิ้วมือของไฉจูต้าซือ แล้วใบหน้าของชายชราก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“นับเป็นสายเลือดสัตว์อสูรที่หาได้ยากยิ่ง ดูเหมือนจะเป็นสัตว์อสูรกลืนกินขั้นราชา ข้าไม่เคยพบเจอสัตว์อสูรสายพันธุ์ใดจะมีความพิเศษเช่นนี้มาก่อน นับว่าหายากเป็นอย่างยิ่ง นับว่าหายากอย่างแท้จริง ฮ่า ๆๆ สวรรค์เมตตาข้าแล้ว”
หัวใจของไฉจูต้าซือพองโตอย่างมีความสุข แล้วเส้นด้ายมรณะก็ชอนไชเข้าไปทั่วร่างกายของอากวงโดยสมบูรณ์
“เดี๋ยวข้าจะปรับปรุงเจ้าให้เป็นสุดยอดสัตว์อสูรที่สมบูรณ์แบบเอง”
ชายชราระเบิดเสียงหัวเราะ จากนั้นเขาก็โบกสะบัดเส้นด้ายทองคำไม่ต่างจากนิ้วมือของนักดนตรี
คลื่นพลังแปลกประหลาดไหลเวียนผ่านเส้นด้ายทองคำเข้าสู่ร่างกายของอากวง
อากวงพยายามดิ้นรนขัดขืนด้วยความทุรนทุราย
แต่ก็ไม่เป็นผล
มันรู้สึกได้ถึงมวลพลังร้อนอุ่นที่ไหลรินเข้าสู่ร่างกายไม่ต่างจากเปลวไฟแผดเผา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อวัยวะภายในของมันก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิด…
อากวงได้ยินเหมือนเสียงอะไรบางอย่างในร่างกายขาดผึ่ง
การดิ้นรนของอากวงค่อย ๆ อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ
แต่ร่างกายของมันกำลังเปล่งแสงสว่างสีเงินเรืองรอง
ขนทุกเส้นบนร่างกายลุกโชนเป็นเปลวไฟสีเงิน
เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แผ่รัศมีสว่างไสวกว้างไกลหลายลี้
แต่เปลวไฟกลับไม่ได้ร้อนผ่าว
ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายกับเป็นภาพลวงตา
ดวงตาของรองผู้คุมสภาม่อเฟิงกำลังทอประกายตื่นเต้น
เพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความตาย เขาสัมผัสได้ว่าเจ้าหนูอสูรตัวนี้ใกล้ที่จะหมดแรงแล้ว และมันก็ถูกเส้นด้ายมรณะของไฉจูต้าซือชอนไชไปทั่วร่างกาย ต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
เพราะเส้นด้ายของไฉจูต้าซือแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารจอมเทพจักรพรรดิด้วยซ้ำ
แล้วเจ้าหนูอสูรตัวนี้จะไปเหลือรอดได้อย่างไร?
ว่าแต่ไฉจูต้าซือพูดว่าเจ้าหนูอสูรตัวนี้มีสายเลือดอสูรผู้กลืนกินขั้นราชา แล้วทำไมม่อเฟิงถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ?
“ฮิฮิฮิฮิ…”
ไฉจูต้าซือฉีกยิ้มอย่างมีความสุข “นับว่าเป็นสายเลือดหายากอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย นึกไม่ถึงเลยว่าในอาณาจักรซือเว่ยกลับมีของวิเศษเช่นนี้ ฮ่า ๆๆ นับว่าสวรรค์เมตตาข้าอย่างแท้จริง”
“ท่านอาจารย์ขอรับ หนูตัวนี้มีค่ามากหรือ?”
ม่อเฟิงอดถามออกมาไม่ได้
“มากยิ่งกว่ามีค่าเสียอีก”
ไฉจูต้าซือกำลังอารมณ์ดีจึงอธิบายต่อไปว่า “ในกลุ่มสายพันธุ์สัตว์อสูรของเส้นทางดาราจักร ไม่มีผู้ใดจะสามารถสู้กับสายเลือดของเจ้าหนูอสูรตัวนี้ได้อีกแล้ว อย่าว่าแต่ซื้อขายเป็นเงินทองเลย ต่อให้แลกทั้งอาณาจักรก็ไม่สามารถประเมินค่ากับหนูอสูรตัวนี้ได้ด้วยซ้ำ”
ม่อเฟิงได้รับคำตอบเช่นนั้นก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกตะลึงสุดขีด
เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูอสูรตัวนี้จะมีค่าถึงเพียงนั้น
มันมีค่าสามารถแลกอาณาจักรได้เชียวหรือ?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ไม่เคยมีสัตว์อสูรสายพันธุ์ใดมีค่าถึงขนาดนี้มาก่อน
ชั่วขณะหนึ่ง ม่อเฟิงจ้องมองไปที่อากวงด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
แต่เขาก็รีบกลบเกลื่อนอาการของตนเองเพราะกลัวจะถูกพบเห็นโดยไฉจูต้าซือ
ในเวลาเดียวกันนี้ ไฉจูต้าซือเดินตรงเข้าไปหาอากวง กลุ่มเส้นด้ายจากนิ้วมือของเขาสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับ อาวุธคู่กายของชายชราคือเส้นด้ายแห่งโชคชะตา ซึ่งเป็นอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับที่ 38 ไฉจูต้าซือต้องพยายามอย่างหนักทีเดียวกว่าจะคิดค้นอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ
หากเขาสามารถนำสัตว์อสูรที่มีสายเลือดผู้กลืนกินขั้นราชามาดัดแปลงเป็นหุ่นเชิดได้สำเร็จ เจ้าหนูอสูรตัวนี้ก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาไปตลอดกาล... นับเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“จงกลายมาเป็นหุ่นเชิดของข้าเถอะนะ”
ชายชรายื่นมือออกไปข้างหน้า
เส้นด้ายทองคำอีกกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าไปหาอากวง
แต่ทันใดนั้น…
“ฝันไปเถอะ!”
เสียงบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งดังขึ้น
พลังปราณกระบี่พุ่งเข้ามา
แล้วกำแพงวายุก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอากวง
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกัน จนเกิดประกายไฟสาดกระจาย
กลุ่มเส้นด้ายทองคำเหล่านั้นถูกสะท้อนกลับไปหามือของไฉจูต้าซือ
ขณะนี้ ข้างกายอากวงที่ยืนตัวแข็งทื่อปรากฏร่างของเด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาผู้หนึ่ง ผมสีดำของเขายาวสยาย ท่าทางองอาจผ่าเผย ร่างกายสูงใหญ่กำยำนั้นปลดปล่อยรัศมีแห่งความน่าเกรงขามออกมา
ช่างเป็นบุรุษที่หล่อเหลาอะไรเช่นนี้
ดวงตาของไฉจูต้าซือเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาอีกครั้ง
เนื่องจากตนเองเป็นคนอัปลักษณ์ ไฉจูต้าซือจึงเกลียดชังบุรุษที่มีหน้าตาหล่อเหลามาโดยตลอด
และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอิจฉานั้นจะต้องถูกทำลายลงไป
“หลินเป่ยเฉิน?”
พลัน ม่อเฟิงอุทานออกมาโดยทันที