เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1829 อย่าดูหมิ่นนาง
ตอนที่ 1,829 อย่าดูหมิ่นนาง
เมื่อเห็นแววตามึนงงสงสัยของเยว่ชิงอาน หลินเป่ยเฉินก็ไม่ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมอะไรอีก
อาณาเขตสนธยาเป็นไพ่ตายของเขา
ยิ่งมีคนรู้น้อยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
การทำงานของอาณาเขตสนธยาไม่มีสิ่งใดซับซ้อน
เมื่อคู่ต่อสู้ถูกลากตัวเข้าไปอยู่ในอาณาเขตนั้น พลังการต่อสู้ก็จะลดลง หลินเป่ยเฉินก็จะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ และเมื่อมีโทรศัพท์มือถือเป็นตัวช่วย มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลยที่เขาจะเอาชนะปิงหลันซาได้ในที่สุด
ในเมื่อผลการต่อสู้ออกมาแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายถึงการต่อสู้ที่จบลงไปแล้ว มิเช่นนั้น นักอ่านก็คงด่าคนเขียนว่าพยายามยืดเนื้อเรื่องโดยไม่มีเหตุผล
“แล้วหลังจากนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อ?”
เยว่ชิงอานถามอีกครั้ง
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็เบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ “ถามข้าหรือ? นั่นไม่ใช่หน้าที่ของข้าสักหน่อย ที่ต้องคิดหาคำตอบน่ะเป็นหน้าที่ของท่านกับนายหญิงสุดที่รักของท่านไม่ใช่หรือ?”
เยว่ชิงอานเลิกคิ้วขึ้นสูง พลางเลื่อนมือแตะด้ามจับกระบี่อีกครั้ง
“เจ้าสามารถดูหมิ่นข้าได้ แต่อย่าดูหมิ่นนางเด็ดขาด… หวังว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เจ้าจะพูดจาเช่นนี้”
เขาจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ถ้าพูดแล้วจะเป็นเช่นไร”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะในลำคอเล็กน้อย “ท่านสู้ข้าไม่ได้หรอก”
เยว่ชิงอานกล่าวอะไรไม่ออกอีกแล้ว
ให้ตายเถอะ
ความประพฤติของฮ่าวไต๋ทำให้เยว่ชิงอานนึกถึงข้อมูลของใครอีกคนหนึ่งที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักม่วงมหากาฬ
“ข้าจะคุ้มครองนักโทษทั้งห้าคนนี้”
หลินเป่ยเฉินชี้มือไปที่กลุ่มสมาชิกหน่วยพลีชีพจากกองทัพเป่ยเฉินและกล่าวว่า “ข้าจะพาพวกเขากลับไปยังห้องพักของข้า ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้ ท่านจัดการเองก็แล้วกัน… อีกอย่าง ข้ายินดีช่วยเหลือท่านเสมอ หากมีความลับใดอยากจะบอกกับข้า ท่านสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา”
เยว่ชิงอานยังคงกล่าวอะไรไม่ออกต่อไป
เขาไม่เคยพบเจอผู้ใดที่มีความหยิ่งยโสโอหังมากถึงขนาดนี้มาก่อน
เยว่ชิงอานทราบดีว่าในขณะนี้ฮ่าวไต๋ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวผู้ใดอีกแล้ว
“ประเสริฐ”
เยว่ชิงอานว่า “แต่อย่างน้อย เจ้าก็ควรบอกให้ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?”
หลินเป่ยเฉินอยากจะบอกไปเลยว่าตนเองมาจากกองทัพเซียนกระบี่ แต่เขาก็รู้สึกว่าหากพูดเช่นนี้ออกไป นั่นก็คงเป็นการดูถูกอีกฝ่ายมากเกินไป
“ข้ามาจากสภาปีศาจแห่งอาณาจักรหลิวเยวียน นามที่แท้จริงของข้าคืออวี้เหวินซิวเซียน และข้าทำงานรับใช้ท่านภูตอเวจีแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”
หลินเป่ยเฉินตอบ “ประตูของพวกเราเปิดกว้างเพื่อต้อนรับท่านอยู่เสมอ”
“ภูตอเวจี?”
เยว่ชิงอานมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปโดยทันที “จริงหรือ?”
หัวใจของหลินเป่ยเฉินเต้นระทึก แต่ก็พยายามแสดงสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด “หากโกหกท่าน... ข้าก็เป็นลูกสุนัขแล้ว”
สีหน้าของเยว่ชิงอานบ่งบอกถึงความเคร่งเครียดจริงจัง “ก็ได้ ข้าจะนำไปรายงานกับท่านแม่ทัพ”
หลินเป่ยเฉินโยนศีรษะของปิงหลันซามาให้แก่เยว่ชิงอานพร้อมกับกล่าวว่า “รับไปเถอะ ไปบอกทุกคนว่าท่านเป็นคนสังหารนางเอง เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป สำนักม่วงมหากาฬคงต้องสั่นสะเทือน เมื่อถึงตอนนั้น แม่ทัพหลี่ก็จะไม่สามารถเมินเฉยต่อท่านได้อีกต่อไป”
เยว่ชิงอานยกมือรับศีรษะของปิงหลันซามาถือไว้และกล่าวว่า “ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนว่าเจ้ากำลังหาเรื่องเดือดร้อนให้ข้าอย่างไรชอบกล”
“นี่ไม่ใช่เรียกว่าการหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แต่เป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองเพื่อดึงดูดความสนใจจากแม่ทัพหลี่ต่างหาก”
หลินเป่ยเฉินทำสีหน้าเศร้าสลดและโกรธเคือง “จำสิ่งที่ข้าพูดเอาไว้ให้ดี… นี่แหละคือความรัก”
“เข้าใจแล้ว”
เยว่ชิงอานหัวใจกระตุกวูบ ก่อนจะถือศีรษะของปิงหลันซาเดินออกไปจากจวนบุปผาแดงในที่สุด
เขาออกไประเบิดเสียงคำรามอยู่หน้าจวนว่า
“ผู้ส่งสาส์นปิงหลันซาทำการดูหมิ่นแม่ทัพหลี่อย่างที่ให้อภัยไม่ได้ เพราะฉะนั้น นางจึงต้องตายด้วยน้ำมือของข้า”
“ผู้ใดก็ตามที่คิดขัดขวางข้าจะต้องมีโทษตายสถานเดียว”
“ผู้ใดก็ตามที่คิดตั้งคำถามกับข้า ก็จะต้องตายสถานเดียวเช่นกัน”
เสียงคำรามของเยว่ชิงอานดังกังวานไปทั่วบริเวณ
“ใจกล้าจริง ๆ”
หลินเป่ยเฉินได้ยินดังนั้นก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่กล้าทำเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ”
…
จวนที่พักของหลี่อี้สวิ่น
“ท่านภูตอเวจี?”
ในห้องนอนของหลี่อี้สวิ่น
เมื่อรับฟังการรายงานจบลง ปีศาจสาวผู้เป็นเจ้าของห้องก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา “เขาทำงานให้แก่ท่านภูตอเวจีจริง ๆ หรือ?”
ภูตอเวจีเป็นผู้ใด ทำไมนางจะไม่รู้จัก?
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ท่านภูตอเวจีเคยสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกรียงไกรไปทั่วเส้นทางดาราจักร
แต่ท่านก็หายตัวไปเมื่อหลายพันปีก่อน
ไม่มีผู้ใดทราบว่าท่านภูตอเวจีหายตัวไปที่ใด
แต่ไม่นานมานี้ เกิดข่าวลือขึ้นว่า ณ อาณาจักรหลิวเยวียน ท่านภูตอเวจีได้ก่อตั้งกองทัพของตนเองขึ้นมาใหม่ และกองทัพของท่านก็ได้ยึดครองอาณาจักรหลิวเยวียนโดยสมบูรณ์
แต่ข่าวลือเหล่านี้ หลี่อี้สวิ่นไม่ได้สนใจมากนัก
และดินแดนเล็ก ๆ อย่างอาณาจักรหลิวเยวียนก็ไม่มีค่าให้นางสนใจแม้แต่น้อย
ข่าวลือที่คล้ายคลึงกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตลอดเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา
และส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องจริง
แต่บัดนี้ นางไม่ทราบเลยว่าตนเองจะสามารถเชื่อถือคำพูดของฮ่าวไต๋… ผู้ที่มีนามอันแท้จริงว่าอวี้เหวินซิวเซียนได้หรือไม่ แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารจอมปีศาจจักราระดับ 4 ได้สำเร็จก็ตาม
หรือว่ามันจะเป็นความจริง?
มิเช่นนั้น เขาจะเอาชนะปิงหลันซาได้อย่างไร?
เผ่าพันธุ์ปีศาจแบ่งแยกออกเป็นหลายสำนักหลายนิกาย
แต่ทุกสำนักทุกนิกายจะมีท่านภูตอเวจีเป็นผู้ที่อยู่สูงสุดเสมอ
หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ การช่วยเหลืออวี้เหวินซิวเซียนดูแลนักโทษหน่วยพลีชีพเหล่านั้น ก็น่าจะถือว่าเป็นการสร้างความดีความชอบไม่ใช่หรือ?
หลี่อี้สวิ่นนิ่งเงียบใช้ความคิด
ทันใดนั้น นางก็ขมวดคิ้วและถามว่า “แล้วเจ้าไปยุ่งเกี่ยวกับการลอบสังหารของอวี้เหวินซิวเซียนได้อย่างไร? ข้าจำได้ว่าแผนที่ข้าวางเอาไว้ไม่ได้เป็นเช่นนี้”
เยว่ชิงอานสูดหายใจลึกและตอบว่า “เพราะข้าน้อยอยากทำให้ท่านรู้ว่าความรักคืออะไร”
หลี่อี้สวิ่นเบิกตาโต
เยว่ชิงอานกล่าวต่อไปว่า “บัดนี้ ผู้คนทั้งกองทัพทราบแล้วว่าข้าน้อยคือผู้สังหารปิงหลันซา ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถปิดข่าวนี้ได้เด็ดขาด เมื่อท่านจ้าวสำนักรับทราบ เขาจะต้องไม่ปล่อยให้ข้าน้อยมีชีวิตอยู่รอดต่อไปแน่นอน.… แม่ทัพหลี่ ท่านต้องรีบตัดสินใจแล้วว่าจะรับรักข้าหรือไม่?”
หลี่อี้สวิ่นกัดฟันกรอดและถามว่า “นี่คงเป็นความคิดของอวี้เหวินซิวเซียนสินะ?”
เยว่ชิงอานเป็นผู้ที่ประพฤติตัวอยู่ในกฎเกณฑ์เสมอ เขาไม่มีทางคิดแผนการเช่นนี้ขึ้นมาได้ด้วยตนเองเด็ดขาด
เยว่ชิงอานกล่าวเน้นย้ำทีละคำว่า “แต่มันเป็นการตัดสินใจของข้าน้อยเอง”
หลี่อี้สวิ่นถอนหายใจออกมาแผ่วเบา “บอกตามตรง ข้าชื่นชอบอวี้เหวินซิวเซียนคนนี้เหลือเกิน เขาทั้งมีความฉลาดเฉลียวและกล้าหาญ แม้แต่ข้าก็ยังถูกเขาหลอกปั่นหัวได้สำเร็จ”
สีหน้าของเยว่ชิงอานแปรเปลี่ยนไป
“พรืด”
หลี่อี้สวิ่นหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู “ข้าโกหกเจ้าต่างหาก”
หัวใจของบุรุษหนุ่มเต้นเร็วแรง
หลังจากนั้น เขาก็เห็นดวงตาของท่านแม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกองทัพปีศาจนับล้านชีวิตเป็นประกายระยิบระยับด้วยความกระตือรือร้น “เจ้ายังอยากแต่งงานกับข้าอยู่หรือไม่?”
โลกทั้งใบของเยว่ชิงอานสว่างไสวขึ้นมาในพริบตา
ทุกอย่างสวยงามราวกับอยู่ในความฝัน
“ข้ายินดี… แต่งงาน… กับท่าน!”
เขาเกือบจะร้องตะโกนออกมาด้วยเสียงแหลมสูง
ทันใดนั้น เยว่ชิงอานก็วิ่งเข้าไปสวมกอดปีศาจสาวที่ทำร้ายจิตใจของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างแนบแน่นมากที่สุด
แล้วโลกทั้งใบของเยว่ชิงอานก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
ภายในค่ำคืนนี้ เขาได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองต้องการ
เยว่ชิงอานถึงกับสบถสาบานอยู่ในใจว่าจะคำนับอวี้เหวินซิวเซียนเป็นบิดาบุญธรรมแล้ว!