เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1836 พวกเรานั้นต่างกัน
ตอนที่ 1,836 พวกเรานั้นต่างกัน
ทันใดนั้น…
“แต่ว่า…”
จังหวะนั้น น้ำเสียงของเยว่ชิงอานก็เปลี่ยนไป ใบหน้ากลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งขณะกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ข้าไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเมื่อคืนนี้ ข้าจะได้ร่วมหลับนอนกับนาง ในที่สุด นางก็ยอมรับรักข้าแล้ว พวกเราสัญญาว่าจะอยู่ครองรักกันตลอดไป และนางก็สารภาพเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น นางก็หลงรักข้าเช่นกัน…”
อวี้เหวินซิวเซียนรู้สึกเวียนหัวตาลายขึ้นมาในทันใด
หัวใจเจ็บปวดไม่ต่างจากถูกค้อนเหล็กกระหน่ำทุบตี
เขาไม่รู้ว่าตนเองควรกล่าวอะไรอีก
ทำไมถึงต้องมีคำว่า ‘แต่ว่า’ ด้วยนะ?
เยว่ชิงอานตั้งใจหลอกให้เขาคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน แล้วก็หักหลังเขาเสียอย่างนั้น
อวี้เหวินซิวเซียนสูดหายใจลึก ๆ
“เจ้าทำได้อย่างไร?”
เมื่อมีกรณีตัวอย่างที่สามารถทำได้สำเร็จปรากฏขึ้นที่ตรงหน้า อวี้เหวินซิวเซียนจึงตัดสินใจขอรับคำแนะนำอย่างไม่รอช้า
เยว่ชิงอานตอบว่า “เพราะว่าข้าได้เข้าใจอย่างถ่องแท้”
“ได้เข้าใจหรือ?”
อวี้เหวินซิวเซียนเริ่มกล่าวด้วยความกระตือรือร้นมากขึ้น
เยว่ชิงอานพยักหน้าและอธิบายว่า “ถูกแล้ว เป็นเพราะข้าได้เข้าใจว่าความรักที่แท้จริงนั้นคืออะไร มันไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการกระทำที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่ต่างหาก”
อวี้เหวินซิวเซียนเบิกตาโตด้วยความไม่เข้าใจ
แต่แล้วเขาก็ได้เข้าใจ
เขาเข้าใจว่าตนเองไม่เข้าใจอะไรเลย
“เจ้าสามารถเข้าใจได้อย่างไร?”
อวี้เหวินซิวเซียนสอบถาม
เมื่อมีคนที่สามารถกระทำได้สำเร็จให้สอบถาม เขาก็อยากจะเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเช่นกัน
“ข้าได้พบกับที่ปรึกษาที่ดีน่ะ”
เยว่ชิงอานกล่าว
“ผู้ใดหรือ?”
อวี้เหวินซิวเซียนสอบถามด้วยความคาดหวัง “ช่วยแนะนำให้ข้ารู้จักได้หรือไม่?”
เยว่ชิงอานนิ่งเงียบใช้ความคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ตอบว่า “ไม่ได้”
อวี้เหวินซิวเซียนพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
ที่แท้เยว่ชิงอานก็แค่ต้องการอวดเบ่งใส่เขานี่เอง
นี่ยังนับว่าเป็นคนอยู่อีกหรือไม่?
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากแนะนำให้เจ้านะ”
เยว่ชิงอานอธิบายด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “แต่เป็นเพราะพวกเรานั้นต่างกัน เจ้าไม่เหมือนข้า”
“หมายความว่าที่ปรึกษาคนนั้นเหมาะสมสำหรับเจ้า แต่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ข้าอย่างนั้นหรือ?”
อวี้เหวินซิวเซียนเริ่มมีความหวังในหัวใจ “แต่ไม่ลอง เราจะรู้ได้อย่างไร?”
“ไม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”
ในดวงตาของเยว่ชิงอานปรากฏความสงสารเวทนาขึ้นมาวูบหนึ่ง “ที่ปรึกษาของข้าคงไม่มีวันช่วยเหลือเจ้าเด็ดขาด”
อวี้เหวินซิวเซียนถึงกับหยุดชะงัก
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่วยเหลือข้าอย่างหนึ่งได้หรือไม่?”
หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง
เยว่ชิงอานผงกศีรษะ “เจ้าจะให้ข้าช่วยเหลืออันใด?”
อวี้เหวินซิวเซียนตอบว่า “ช่วยอยู่ห่าง ๆ จากข้าและอย่าพูดคุยกับข้าอีก”
เยว่ชิงอานพูดอะไรไม่ออก
แต่แล้วเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ในจังหวะที่อวี้เหวินซิวเซียนกำลังจะทนไม่ไหวนั้นเอง ประตูศิลาที่อยู่ทางด้านหลังก็เปิดออกอย่างแช่มช้า
ยอดหญิงงามแห่งสำนักม่วงมหากาฬหลี่อี้สวิ่นเดินออกมาด้วยสีหน้าแปลกประหลาดพิกล
“ท่านแม่ทัพใหญ่”
เยว่ชิงอานประสานมือคำนับแสดงความเคารพและถามว่า “การเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง? พวกเราสมควรทำอย่างไรต่อไป?”
หลี่อี้สวิ่นตอบกลับมาแผ่วเบาว่า “ดำเนินการทุกอย่างตามแผนเดิม ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”
เยว่ชิงอานหัวใจกระตุกวูบ
การเจรจาล้มเหลวอย่างนั้นหรือ?
แต่แล้วเขาก็ได้ยินหลี่อี้สวิ่นกล่าวว่า “เตรียมตัวรับมือการมาเยือนของท่านจ้าวสำนักให้ดี”
…
สุสานกษัตริย์
“พวกเรานับจังหวะพร้อมกัน”
“นับ 1 นับ 2 นับ 3 นับ 4 นับ 2 นับ 2 นับ 3 เปลี่ยนท่า วนซ้ำอีกครั้ง”
“ยกขาขึ้นมา ค้างไว้อย่างนั้น”
เซียวปิงกับเฉียนเหมยยืนอยู่หน้ากลุ่มคนทำหน้าที่เป็นผู้นำการออกกำลังกายด้วยท่วงท่าแปลกประหลาดและบางท่าก็น่าเขินอายไม่น้อย
นี่คือการออกกำลังกายแบบกลุ่ม
ผู้คนจำนวนร้อยคนจากกองทัพเซียนกระบี่ทำตามท่าทางของเซียวปิงกับเฉียนเหมยด้วยความเชื่อฟัง พวกเขาแบ่งแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีสิบแถว แถวละสิบคน
ทุกคนจะเว้นระยะห่างออกจากกันห้าก้าว
บรรดานายทหารอาวุโสของกองทัพเซียนกระบี่ไม่เข้าใจเลย สถานการณ์ของอาณาจักรซือเว่ยกำลังตกอยู่ในวิกฤตคับขัน ขณะที่นายทหารคนอื่น ๆ กำลังออกไปสู้รบอย่างดุเดือดนั้น มีแต่เพียงพวกเขาที่ถูกพาตัวเข้ามาอยู่ในสุสานกษัตริย์และออกกำลังกายอย่างไม่สนใจสถานการณ์โดยรวมแม้แต่น้อย
แต่ทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพใหญ่หลินเป่ยเฉิน
ดังนั้น ต่อให้ไม่เข้าใจ ก็ไม่มีผู้ใดไม่กล้าปฏิบัติตาม
ด้านหลังสุดของกลุ่มคน ได้ยินเสียงแผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าหนูยักษ์ตัวหนึ่งกำลังกระโดดไปมาด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
หนูยักษ์ตัวนี้มีร่างกายใหญ่โตเท่ากับภูเขาขนาดย่อม
นี่คือการวิวัฒนาการของอากวง
เมื่อมันฟื้นตื่นขึ้นมา พลังในร่างกายก็พลุ่งพล่านไร้ขีดจำกัด เจ้าหนูจึงต้องอาศัยการออกกำลังกายเพื่อปลดปล่อยพลังและย่อขนาดร่างของตนเองให้กลับมาเท่ากับยามปกติอีกครั้ง
และฉู่เหินรวมไปถึงสมาชิกคนสำคัญที่ถูกพาตัวมาจากแผ่นดินตงเต้าอย่างหลิงจุนเซวียน หลิงไท่ซวี ฉุยเฮาเฟิง เยว่หงเซียงและคนอื่น ๆ ก็รวมอยู่ในกลุ่มผู้ออกกำลังกายเช่นกัน
“อีกไม่นาน การฝึกก็จะเสร็จสิ้นแล้ว”
ในหัวใจของใครหลาย ๆ คนเต็มไปด้วยความคาดหวัง
พวกเขารู้จักการฝึกวิชาแบบกลุ่มในรูปแบบนี้เป็นอย่างดี
พวกเขาเคยฝึกมาก่อนจึงตั้งตารอผลลัพธ์เมื่อการฝึกฝนสำเร็จเสร็จสิ้น
ในไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มคนที่เดินทางข้ามมิติมาจากแผ่นดินตงเต้าสามารถปรับตัวกับโลกใบใหม่ได้โดยไม่มีปัญหา
ไม่เพียงแต่ปรับตัวเท่านั้น
แต่พวกเขายังแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย
ในเวลาอันรวดเร็ว
สมาชิกจากแผ่นดินตงเต้าถูกตรวจพบว่าพวกเขามีสายเลือดระดับสูง เมื่อรวมเข้ากับประสบการณ์ฝึกยุทธ์ในอดีต และได้รับการบำรุงโดยโอสถและสมุนไพรวิเศษที่หลินเป่ยเฉินทิ้งเอาไว้ให้ พลังปราณในร่างกายของพวกเขาจึงเลื่อนระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว แทบไม่ต่างจากเกิดปาฏิหาริย์เลยด้วยซ้ำ
บัดนี้ หลายคนอยู่ในขอบเขตจอมเทพตอนปลายแล้ว
อีกเพียงก้าวเดียวก็จะเลื่อนขั้นขึ้นสู่ขอบเขตจอมเทพจักรพรรดิ
พวกเขาไม่เคยเลื่อนขั้นพลังอย่างรวดเร็วเช่นนี้มาก่อน
นี่คือข้อดีของการที่มีผู้อื่นคอยกรุยทางเอาไว้ให้
เมื่อเกิดพื้นที่ว่างอันเหมาะสม ต้นไม้น้อยใหญ่อย่างพวกเขาจึงสามารถเจริญเติบโตงอกงามได้อย่างอุดมสมบูรณ์