เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1884 ถอนรากถอนโคน
ตอนที่ 1,884 ถอนรากถอนโคน
หยวนสวีหลิวไม่อาจข่มกลั้นความเจ็บปวดได้ เขาจึงระเบิดเสียงคำรามและเหวี่ยงหมัดขวาตอบโต้ทันที
เสียงคำรามกึกก้อง
ไม่ต่างจากเสียงฟ้าผ่า
พละกำลังของผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพันระดับจอมเทพจักราระดับ 4 ย่อมมีความน่าเกรงขาม
การโจมตีด้วยหมัดนี้ของหยวนสวีหลิวมีอานุภาพเพียงพอที่จะถล่มวัดร้างได้ทั้งหลัง
แต่หลินเป่ยเฉินกลับอ้าปากออกดูดกลืนพลังที่แผ่ออกมาจากหมัดของฝ่ายตรงข้ามลงท้องของตนเองหน้าตาเฉย
ความวุ่นวายโกลาหลสลายไปในพริบตา
“เป็นไปได้อย่างไร?”
หยวนสวีหลิวหรี่ตาลงด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อ
เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ใช้สายเลือดผู้กลืนกินอย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้น…
กร๊อบ!
เขาก็ได้ยินเสียงกระดูกแตกหัก
ก่อนที่แขนขวาของหยวนสวีหลิวจะถูกหลินเป่ยเฉินกระชากขาดอย่างรุนแรง
“ช่างอำมหิตเหลือเกิน”
เมื่อเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ หลี่กวงซูก็ถึงกับหยุดชะงักและรีบตะโกนออกมาว่า “พี่หยวนเป็นถึงลูกศิษย์จากสำนักเฉิงเซินหลิวเชียวนะ…”
แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่ได้หยุดมือ
เขาจัดการกระชากขาทั้งสองข้างของหยวนสวีหลิวจนขาดออกจากหัวเข่า
ต้องไม่ลืมว่าผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพันนั้นจะมีร่างกายแข็งแรงทนทานมากกว่าผู้คนปกติ
แต่ถึงกระนั้น หยวนสวีหลิวกลับถูกเด็กหนุ่มหน้าขาวผู้นี้ฉีกกระชากแขนขาได้ง่ายดายราวกับเป็นเพียงตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่ง
ช่องว่างระหว่างขั้นพลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป
หลินเป่ยเฉินไม่ได้ใช้วิชาแปลกประหลาดพิสดารอันใด เขาเพียงใช้พละกำลังในร่างกายของตนเองเท่านั้น
หยวนสวีหลิวนอนจมกองเลือด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่เขาก็ไม่ได้ร่ำร้องขอความเมตตา ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยหยัน “เด็กน้อย หากเจ้ามีความสามารถก็ฆ่าข้าเถอะ… อาจารย์ของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่…”
โผละ!
หลินเป่ยเฉินยกเท้าขึ้นและกระทืบลงไปที่ศีรษะของหยวนสวีหลิวอย่างแรง
ด้วยความแม่นยำ
ศีรษะก็ระเบิดกระจาย
ไม่มีเสียงพูดเย้ยหยันออกมาอีกแล้ว
รอบกายปกคลุมด้วยความเงียบ
สำหรับผู้คนที่ปากดีเช่นนี้ หลินเป่ยเฉินไม่มีทางปล่อยให้ลอยนวลไปเด็ดขาด
ส่วนกลุ่มบัณฑิตที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าวัดร้างก็มีสีหน้าตกตะลึง ต่างฝ่ายต่างเริ่มผงะถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
นี่เป็นการลงมือที่อำมหิตเกินไป
นี่คือพฤติกรรมของฆาตกรเลือดเย็นที่แท้จริง!
หลี่กวงซูเบิกตาโตจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยความไม่อยากเชื่อ เขายกมือขึ้นมาชี้หน้าหลินเป่ยเฉินด้วยนิ้วมืออันสั่นเทา “นี่เจ้า… เจ้าถึงกับกล้าฆ่าคนเชียวหรือ?”
“หากไม่มายุ่งกับข้าก่อน ข้าก็ไม่ยุ่งกับพวกเจ้าหรอก”
หลินเป่ยเฉินจ้องมองหลี่กวงซูด้วยแววตาเย็นชา พูดเน้นย้ำทีละคำว่า “หากคิดมาก่อกวนข้า ก็ต้องจัดการอย่างถอนรากถอนโคน... เจ้าเป็นผู้ที่ออกคำสั่งให้มันลงมือใช่หรือไม่?”
หลี่กวงซูเชิดหน้าขึ้นกัดฟันตอบกลับไปว่า “เป็นข้าแล้วจะทำไม? เจ้ากล้าทำอะไรข้าหรือ?”
“ยอมรับแล้วสินะ”
หลินเป่ยเฉินยิงฟันยิ้มอวดฟันขาววับ “งั้นก็ตายซะเถอะ”
พูดจบนิ้วมือของเขาก็กระตุก
วูบ!
ลำแสงกระบี่พุ่งออกไปข้างหน้าจากนิ้วมือของเด็กหนุ่ม
เส้นผมของหลี่กวงซูปลิวไสว จิตสังหารแผ่ออกมาจากร่างกาย ระเบิดเสียงคำรามออกมาว่า “สร้างกำแพงทองแดงป้องกันภัย!”
แว่วเสียงเหมือนผู้คนกำลังสวดมนต์ดังขึ้น
แล้วกำแพงกึ่งโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นคุ้มกันรอบกายหลี่กวงซู
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกัน จากนั้นจึงสะเก็ดไฟก็สาดกระจายออกมาจากกำแพงกึ่งโปร่งแสงนั้น
หลี่กวงซูลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
กำแพงกึ่งโปร่งแสงไม่ได้สลายหายไป แต่กลับปรากฏรอยร้าวขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ
“นี่มันอะไรกัน…”
หลี่กวงซูรีบระเบิดเสียงคำรามอีกครั้ง “เคลื่อนย้ายกายหลบหนีภัย!”
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็เคลื่อนย้ายตำแหน่งไปอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็วยิ่ง
ฟู่!
ม่านโลหิตสาดกระจายในอากาศ
แขนซ้ายของหลี่กวงซูถูกลำแสงกระบี่ทะลุเข้าใส่จนระเบิดกระจาย ในอากาศจึงเต็มไปด้วยม่านฝนโลหิต
แม้ว่าเขาจะร่ายมนต์เคลื่อนย้ายตำแหน่งตนเอง แต่ก็ยังเชื่องช้าเกินไปที่จะหลบการโจมตีจากหลินเป่ยเฉินได้ทันเวลา
“อ๊ากกกกกก...”
หลี่กวงซูส่งเสียงร้องโหยหวน เจ็บปวดจนน้ำหูน้ำตาไหล
เขาเป็นผู้ฝึกวิชาตามสายเลือดผู้เยียวยา จึงไม่ได้มีความเก่งกาจเรื่องการต่อสู้ ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าความเจ็บปวดจากแขนข้างที่ขาดหายไปนั้น แทบจะทำให้เขาเป็นลมหมดสติแล้ว
“น่าสนใจนี่”
หลินเป่ยเฉินแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
หลี่กวงซูมีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายไม่ถึงขั้นจอมเทพจักรา หลินเป่ยเฉินจึงคิดว่าการโจมตีเมื่อสักครู่น่าจะสังหารอีกฝ่ายได้สำเร็จ แต่อีกฝ่ายกลับหนีรอดไปจากความตายได้อย่างปาฏิหาริย์
ความยอดเยี่ยมของผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยานั้นทำให้หลินเป่ยเฉินประหลาดใจได้อย่างแท้จริง
เพียงร่ายมนต์เป็นคำพูด ก็สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย
อย่างเช่น เพียงพูดคำว่า ‘สร้างกำแพงทองแดงป้องกันภัย’ ก็จะปรากฏม่านพลังกางกั้นเป็นกำแพงคุ้มกันรอบกายได้จริง ๆ
นี่หรือคือพลังของผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยา
เจ๋งชะมัด
ไม่ต้องเหนื่อยแรงด้วย
หากเป็นผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาระดับสูงอย่างเช่นอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาฉิวจื่อ เขาก็คงสามารถระเบิดดวงดาวทำลายดวงจันทร์ได้ด้วยคำพูดประโยคเดียวแล้วกระมัง?
มิน่าล่ะ นักพรตหญิงชินถึงสนใจอยากฝึกฝนวิชาตามสายเลือดนี้
ในอนาคต ถ้าเขากับนางทะเลาะกัน เพียงนักพรตหญิงชินพูดออกมาประโยคเดียวว่า ‘ดาบพิฆาตตัดความเป็นชาย’ ใส่เขา… แค่คิด หลินเป่ยเฉินก็ขนลุกไปทั้งตัว!!
ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงได้รับทราบว่าผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยานั้นไม่สามารถประเมินฝีมือต่ำเกินไปได้เลยจริง ๆ แล้วพวกเขาก็มีความสามารถในการป้องกันตนเองดีเลิศอีกด้วย
หลินเป่ยเฉินสงบจิตใจ ถลึงตาจ้องมองไปยังหลี่กวงซูที่กำลังเหงื่อตกด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“น่าอนาถใจยิ่งนัก เห็นทำตัวอวดเก่งถึงเพียงนั้น ข้าก็นึกว่าเจ้าจะมีดีอันใด ที่แท้ก็เป็นเพียงมดปลวกต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นเอง”
หลินเป่ยเฉินยกมือขวาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนที่จะงอนิ้วมือเล็กน้อย
คลื่นพลังพลันรวมตัวอยู่ที่ปลายนิ้วมือของเด็กหนุ่มสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ลำแสงกระบี่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
“เจ้า… เจ้าจะทำอะไร?”
หลี่กวงซูแสดงสีหน้าเหลือเชื่อและกล่าวด้วยความไม่อยากยอมรับความจริง “ไม่มีทาง… อย่าบอกนะว่า… เจ้าคิดจะฆ่าข้าจริง ๆ น่ะ?”
วูบ!
คำตอบที่เขาได้รับคือลำแสงกระบี่
“เคลื่อนย้ายกายหลบหนีภัย…”
หลี่กวงซูส่งเสียงร้องด้วยความตื่นกลัว
ร่างกายของเขากลายเป็นภาพพร่ามัว เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง หลี่กวงซูก็ไปนั่งอยู่ห่างจากตำแหน่งเดิมทางขวามือร่วมสิบวาแล้ว