เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1888 ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่
ตอนที่ 1,888 ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่
“เจ้าดูออกหรือไม่?”
“ดูอันใด?”
“เขาคือคนที่พี่ชินรอคอย”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“มิฉะนั้น นางจะให้ความสนใจเขาถึงเพียงนี้หรือ?”
“ก็เพราะเขาหล่อน่ะสิ”
“เจ้าคิดว่าพี่ชินเป็นคนเช่นนั้นหรือ?”
“ความหล่อสามารถชนะได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
“เอ่อ… หากเจ้ายืนกรานเช่นนี้ มันก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่”
เด็กชายและเด็กหญิงนั่งยอง ๆ พูดคุยกันอยู่หน้าประตูห้อง
หลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งสองร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนักพรตหญิงชินมาตลอดเวลา
เหตุใดนางจึงต้องทนถูกผู้คนในอาณาจักรเล่ยฉื่อเหยียดหยามด้วย?
ด้วยความรู้ความสามารถของพี่ชิน นางสามารถไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ เด็กชายและเด็กหญิงมักจะเกิดคำถามนี้ขึ้นมาบ่อย ๆ
ซึ่งคำตอบก็คือ ‘พี่ชินกำลังรอคอยใครบางคน’
พี่ชินเคยบอกต่อพวกเขาว่า ‘คนที่นางรอคอยอยู่นั้นแบกภาระเอาไว้มากเกินไป นางจึงอยากจะแข็งแกร่งให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อแบ่งเบาภาระของเขา’
พี่ชินเคยบอกต่อพวกเขาว่า ‘คนผู้นั้นไม่สมควรแบกภาระเอาไว้ด้วยตนเองเพียงลำพัง’
พี่ชินเคยบอกต่อพวกเขาว่า ‘ในเมื่อสำนักศึกษาทั่วอาณาจักรเล่ยฉื่อไม่ยอมรับลูกศิษย์ที่มาจากภพภูมิอื่น นางก็ต้องหาทางให้ได้’
นางจะใช้เวลาระหว่างนี้เรียนรู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุด
นี่จึงเป็นความสามารถของผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง
เด็กน้อยทั้งสองติดตามเป็นคนรับใช้ข้างกายนางมาโดยตลอด
พวกเขาจึงได้เป็นสักขีพยานการเรียนรู้ของนักพรตหญิงชินที่ไม่เคยหยุดยั้ง
พี่ชินเคยบอกต่อพวกเขาว่า ‘ตราบใดที่สามารถทำให้ตนเองแข็งแกร่งได้เร็วที่สุด นางก็จะไม่ลังเลที่จะใช้วิธีการนั้น’
ขอแค่ได้ช่วยเหลือคนที่นางกำลังรอคอยอยู่ก็เพียงพอแล้ว
แต่เด็กน้อยทั้งสองไม่เคยทราบชื่อของคนผู้นั้น
พี่ชินมักจะเรียกคนผู้นั้นว่า ‘เขา’ สั้น ๆ เสมอ
‘เขา’ ผู้นั้นต้องเป็นคนประเภทใดกันนะถึงทำให้สตรีอย่างพี่ชินยอมเสียสละให้แก่เขาได้ขนาดนี้
เด็กน้อยทั้งสองเคยจินตนาการไปต่าง ๆ นานา
อาจจะเป็นยอดฝีมือร่างใหญ่กำยำ
อาจจะเป็นมือกระบี่ร่างกายบึกบึน
อาจจะเป็นแม่ทัพใหญ่ที่ควบคุมนักรบจำนวนหลายพันคน?
หรืออาจจะเป็นจักรพรรดิของดินแดนใดสักแห่งหนึ่ง?
แต่ในที่สุด วันนี้ทั้งสองก็ได้พบเห็น ‘เขา’ ผู้นั้นแล้ว
ตัวจริงของเขาผู้นั้นแตกต่างไปจากจินตนาการที่เด็กน้อยทั้งสองเคยคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
แต่เมื่อลองทบทวนดูดี ๆ พวกเขาก็รู้สึกพอใจยิ่งนัก
ไม่ว่าจะมองในมุมของเด็กรับใช้หรือมองในมุมของน้องชายน้องสาวของนักพรตหญิงชิน พวกเขาล้วนพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
แข็งแกร่ง ทรงพลัง …และดุดันไม่เกรงใจใคร!
ประเด็นสำคัญคือเขามีหน้าตาหล่อเหลาอย่างหาตัวจับยาก
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังยอมมีเรื่องกับสำนักตงหลินผู้มีอิทธิพลเพื่อปกป้องพี่ชิน
นี่คือคนที่สมบูรณ์แบบ
สมแล้วที่เป็นบุรุษที่พี่ชินเลือก
ตอนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนั้น เด็กน้อยทั้งสองคิดว่าเขาผู้นั้นอาจจะกำลัง ‘รังแก’ พี่ชินอยู่ด้านใน ก็ให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาในหัวใจ
ดังนั้น พวกเขาจึงนั่งยอง ๆ พูดคุยกันหน้านิ่วคิ้วขมวด
แต่ในทันใดนั้นเอง หน้าทางเข้าจวนที่พักก็มีเสียงผู้คนเคาะประตู
ไม่ใช่สิ
ต้องบอกว่าเป็นเสียงของผู้คนกำลังพยายามพังประตูเข้ามาต่างหาก
“มีคนมา”
“หรือว่าจะเป็นพวกสำนักตงหลิน?”
“น่าจะใช่ หยาบคายเช่นนี้คงไม่มีผู้ใดอีกแล้ว”
“พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”
“เคาะประตูแล้วเข้าไปเรียกพี่ชินดีหรือไม่?”
“ต้องเข้าไปด้วยหรือ? เกิดเจ้าเข้าไปเห็นภาพที่เด็กไม่ควรเห็นจะทำอย่างไร?”
เด็กชายและเด็กหญิงต่างก็ลังเล
ในทันใดนั้น…
โครม!
ประตูใหญ่หน้าทางเข้าจวนที่พักก็ถูกพังทลายลงแล้วจริง ๆ
หวังเฟิงหลิวลอยกระเด็นเข้ามาในสนามหญ้าพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากปากและจมูก
“เจ้าพวกคนต่ำช้า…”
หวังเฟิงหลิวลุกขึ้นระเบิดเสียงคำราม “กล้าพังประตูบุกรุกที่พักของนายท่าน พวกเจ้าตายแน่ พวกเจ้าไม่รู้เสียแล้วว่ากำลังมีเรื่องกับผู้ใด”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นต่อเนื่อง ก่อนที่กลุ่มคนจะกรูเข้ามา
ทุกคนล้วนสวมใส่ชุดเครื่องแบบของสำนักตงหลิน
กลุ่มของชายวัยกลางคนผู้มีท่าทางหยิ่งผยองกลุ่มหนึ่งรายล้อมไปด้วยลูกศิษย์จำนวนมากเดินเข้ามาอย่างแช่มช้า
“ที่เจ้ายังไม่ตาย ก็เพราะว่าเจ้าเป็นคนของกองโจรกระบี่อวตาร หากยังคิดขัดขวางพวกเราอีก อย่าหาว่าสำนักตงหลินไม่ไว้หน้ากองโจรกระบี่อวตารก็แล้วกัน”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนผู้หนึ่งระเบิดเสียงคำรามด้วยความเย็นชาและอำมหิต “เฉินเป่ยหลินอยู่ที่ใด? ยังไม่รีบไสหัวออกมาอีก”
เสียงคำรามดังปานฟ้าถล่มกึกก้องไปทั่วจวนที่พัก ทำให้ผนังและหน้าต่างสั่นไหว ประตูห้องทุกบานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ค่ายอาคมที่ถูกเปิดใช้งานเรืองแสงสว่างวูบวาบ มีอักขระจำนวนมากปรากฏขึ้น
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนผู้นี้เป็นรองอาจารย์ใหญ่ของสำนักตงหลิน มีสถานะเป็นบุตรชายของอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบัน และถือเป็นผู้มีอำนาจผู้หนึ่งในอาณาจักรเล่ยฉื่อ หน้าที่ของเขาคือการเก็บกวาดปัญหาที่ทำให้สำนักตงหลินต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
แต่หลินเป่ยเฉินกลับไม่ได้ปรากฏตัวออกมาตามที่คิด
ทว่าแขกที่มาเข้าพักในจวนอื่นๆ บริเวณนี้ต่างก็รีบวิ่งออกมาดูด้วยความแตกตื่นตกใจ
กลุ่มแขกเหล่านั้นล้วนเป็นบัณฑิตมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วอาณาจักรเล่ยฉื่อ
พวกเขาเพิ่งจะทำเรื่องเข้าพักได้เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นเป็นมู่หรงเทียนแห่งสำนักไทปิง ฉู่ชิงซือตัวแทนนักศึกษาจากสำนักเทียนเจี้ยว เฉาซูอี้จากหอตำราซางฉี โจวเฉิงเฉิงจากสำนักศึกษาเซวียนเติ้ง เฉียวฟู่จากสำนักชูซาน ซือเหรินเฉินจากสำนักเซวี่ยไห่ ทุกคนล้วนมาปรากฏตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เห็นได้ชัดว่าหลายสำนักต่างก็ให้ความสนใจเรื่องราวในครั้งนี้อยู่ไม่น้อย
ผู้คนจากสำนักตงหลินยิ่งรู้สึกคึกคักมากกว่าเดิม
พวกเขาคิดจะใช้โอกาสนี้จัดการเฉินเป่ยหลินและชินเหลียนเซินต่อหน้าทุกคน และทำให้ทุกคนได้เห็นว่าสำนักตงหลินไม่ใช่จะปล่อยให้ผู้ใดมาดูถูกกันง่าย ๆ
“เฉินเป่ยหลิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เลิกซ่อนตัวได้แล้ว รีบออกมาเถอะ”
หลี่กวงอวี้ก้าวเดินออกไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าและกล่าวต่อไปว่า “ในเมื่อเจ้าบังอาจสังหารคนของสำนักตงหลิน บัดนี้ไยจึงไม่กล้าเสนอหน้าออกมาอีกเล่า? ก่อนหน้านี้ เจ้าทำตัวยโสโอหังมากนักไม่ใช่หรือ? เจ้าบอกว่าจะสั่งสอนพวกเราสำนักตงหลินไม่ใช่หรืออย่างไร?”
ในฐานะหัวหน้าศิษย์จากสำนักตงหลิน หลี่กวงอวี้ย่อมมีขั้นพลังไม่ต่ำต้อย ทุกคำพูดของเขาดังกังวานไปทั่วจวนที่พัก ค่ายอาคมรอบบริเวณเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ม่านพลังที่เรืองแสงขึ้นมาปรากฏรอยแตกร้าวไม่ต่างจากผืนน้ำที่มีผู้คนโยนก้อนหินลงไป ประตูหน้าต่างเพดานกำแพงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง จวนที่พักเริ่มเกิดรอยแตกร้าวให้เห็นในสายตา
แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่ออกมาอยู่ดี
ผู้ที่ออกมารับหน้าพวกเขากลับกลายเป็นฟางซื่อหลี่ รองอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาฉิวจื่อ