เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1898 ผู้ที่ได้เข้าสอบรอบต่อไป
ตอนที่ 1,898 ผู้ที่ได้เข้าสอบรอบต่อไป
เพียงพริบตาเดียว อีกหนึ่งวันก็ผ่านพ้นไป
ศิษย์ผู้หนึ่งเป็นตัวแทนจากสำนักตงหลินมาขอรับคัมภีร์ตำรับยายี่สิบสี่จักรพรรดิกลับคืนไป ณ จวนที่พักของหลินเป่ยเฉินด้วยท่าทางที่ลนลานเป็นอย่างยิ่ง
หลินเป่ยเฉินไม่ได้กลั่นแกล้งให้อีกฝ่ายขายหน้า
นักพรตหญิงชินมีความทรงจำดีเลิศ นางสามารถจดจำเนื้อหาในคัมภีร์ได้เกือบหมดแล้ว แต่ถึงกระนั้น หลินเป่ยเฉินก็ยังเปลี่ยนคัมภีร์ตำรับยายี่สิบสี่จักรพรรดิให้เป็นแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือของเขาเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น เขาจึงคัดลอกเนื้อหาทั้งหมดส่งให้นักพรตหญิงชินกับเยว่หงเซียงอ่านผ่านทางแอปวีแชต
ส่วนเฉียวปี้อี๋เขาจำเป็นต้องปล่อยผ่านไป
เพราะพวกเขายังไม่สนิทกันจนถึงขั้นจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้
เอาไว้สนิทกว่านี้ค่อยคิดดูก็แล้วกัน
…
อีกสองวันต่อมา บรรยากาศทั่วภูเขาเหวินเต้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
วันนี้ เป็นวันประกาศผลสอบว่าผู้ใดบ้างที่จะได้รับสิทธิ์ให้เข้าสอบรอบต่อไป
เมฆครึ้มดำทะมึนบนท้องฟ้า สายลมกระโชกแรง อากาศมืดมนตั้งแต่รุ่งเช้า
แต่เมื่อบรรดาอาจารย์อาวุโสในสำนักศึกษาฉิวจื่อผนึกกำลังกันร่ายคาถา เพียงไม่นาน เมฆดำก็จางหายไป สายลมเบาบางลง ท้องฟ้าแจ่มใส ค่าดัชนีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศกลายเป็นศูนย์
สำหรับผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาระดับสูง พวกเขาถึงกับสามารถร่ายคาถาควบคุมดินฟ้าอากาศได้แล้ว
มีผู้คนมารวมตัวกันอยู่หน้าหอคัมภีร์ค้ำฟ้าเป็นจำนวนมาก
ครั้งนี้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าสอบรอบต่อไปมีจำนวนประมาณห้าพันคน
ส่วนผู้ที่สอบตกต้องกลับบ้านไปนั้นมีจำนวนนับหมื่นคน
บรรยากาศในขณะนี้ทำให้หลินเป่ยเฉินนึกถึงภาพของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของบรรดาเด็กวัยรุ่นในชาติภพที่แล้วของเขาขึ้นมาทันที
แม้องค์ประกอบโดยรวมจะต่างกัน แต่บรรยากาศก็เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
นักพรตหญิงชินเดินหายเข้าไปในพื้นที่จัดทำข้อสอบ
หลินเป่ยเฉินต้องการจะติดตามเข้าไปด้วย แต่เขาไม่ใช่ผู้เข้าสอบ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยืนรออยู่หน้าประตูเท่านั้น
ได้ยินเสียงระฆังเริ่มต้นการสอบดังขึ้น
แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
หลินเป่ยเฉินยืนรอคอยอยู่หน้าประตูด้วยความอดทน
ครั้งนี้ การสอบจะแบ่งออกเป็นแปดวิชา การสอบหนึ่งวิชาจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน
กล่าวโดยสรุปก็คือ การสอบในครั้งนี้จะใช้เวลาทั้งหมดราวสี่วันจึงจะเสร็จสิ้น
การสอบในช่วงแรก บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
การสอบเข้าเป็นลูกศิษย์สำนักศึกษาฉิวจื่อนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถกระทำกันได้ง่าย ๆ
แต่ถ้าสามารถสอบเข้าได้สำเร็จ อนาคตของพวกเขาก็จะยาวไกลยิ่งนัก
เพราะมีเพียงแต่ศิษย์ของสำนักศึกษาฉิวจื่อเท่านั้นจึงจะได้สัมผัสกับองค์ความรู้ที่บรรพบุรุษแห่งสายเลือดผู้เยียวยาถ่ายทอดเอาไว้
ในอาณาจักรเล่ยฉื่อ สำนักศึกษาฉิวจื่อย่อมเป็นอันดับหนึ่งที่ไร้คู่ต่อกร
ดังนั้น สำนักศึกษาแห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาทั่วเส้นทางดาราจักร
แม้ว่าจะมีสำนักศึกษาแห่งอื่น ๆ ที่มีความโด่งดังเช่นกัน อาทิ สำนักตงหลินซึ่งเติบโตขึ้นมาสู่ตำแหน่งผู้ที่มีอำนาจได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ยังตามหลังสำนักศึกษาฉิวจื่ออีกยาวไกล
ประตูทางเข้าสำหรับพื้นที่จัดทำข้อสอบปิดสนิทแน่น
ด้านหลังประตูบานนี้ ยอดอัจฉริยะจำนวนมากกำลังทำข้อสอบด้วยความเคร่งเครียด
สำนักศึกษาฉิวจื่อจะแบ่งการสอบออกเป็นแปดวิชา ซึ่งประกอบไปด้วย วิชาภาษาศาสตร์ วิชาพฤกษาศาสตร์ วิชาแร่ธาตุศาสตร์ วิชาค่ายอาคมศาสตร์ วิชาอสูรศาสตร์ วิชาประวัติศาสตร์ วิชาวิญญาณศาสตร์และวิชากลยุทธ์ศาสตร์
การสอบวิชาแรกในเช้าวันนี้คือวิชาภาษาศาสตร์
สำหรับบัณฑิตทุกคน ภาษาคือรากฐานสำคัญในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ไม่เพียงแต่จะต้องศึกษาประวัติศาสตร์ทางภาษาในการอ่านเขียนของเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น แต่พวกเขาต้องมีความชำนาญในการอ่านภาษาอสูรและภาษาปีศาจ รวมไปถึงภาษาโบราณได้อย่างแตกฉานอีกด้วย
ตราบใดที่สามารถเรียนรู้ภาษาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ผู้เข้าสอบก็จะมีความเข้าใจในการอ่านตำราโบราณมากยิ่งขึ้น
ในเส้นทางดาราจักร อารยธรรมของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ผ่านการวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน หลายอารยธรรมเกิดขึ้นมาและก็หายสาบสูญไป บางอารยธรรมซ่อนตัวอยู่ในความมืด แต่ทุก ๆ อารยธรรมเหล่านั้นย่อมมีองค์ความรู้เป็นของตนเองที่ควรค่าให้ผู้คนศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
ตามตำนานเล่าขานว่า องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เป็นอัจฉริยะในด้านภาษาอย่างหาตัวจับยาก ว่ากันว่าทุกภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่ในขณะนั้น องค์จักรพรรดิสามารถพูด ฟังและอ่านออกเขียนได้ทั้งหมด
และบรรพบุรุษแห่งผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาอย่างกงซานซิน ก็เป็นทั้งบุตรสาวบุญธรรมและเป็นศิษย์เอกขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
เพราะฉะนั้น ภาษาคือรากฐานสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
และผู้ที่จะสอบเข้าเป็นผู้เยียวยาในสำนักศึกษาฉิวจื่อก็ต้องมีความชำนาญในการใช้ภาษาต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่าสามสิบภาษา
หรือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าลูกศิษย์จากสำนักต่างๆ นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีความชำนาญด้านภาษามากกว่าสามสิบภาษา
เวลาเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ณ หน้าประตูพื้นที่จัดทำข้อสอบ มีเสียงพูดคุยดังขึ้นตลอดเวลา
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเสียงพูดคุยของบรรดา ‘บิดามารดา’ ของผู้เข้าสอบ
และในเวลาเดียวกันนี้ ก็เริ่มมีผู้คนเปิดรับแทงพนัน
และสำนักศึกษาฉิวจื่อก็ไม่ได้ขัดขวางการแทงพนัน ตราบใดที่การพนันไม่ไปรบกวนการสอบ นี่ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎอันใด
หลินเป่ยเฉินพยายามห้ามตนเองไม่ให้เข้าร่วมการพนัน
ในอดีต ทุกครั้งที่เขาแทงพนัน หลินเป่ยเฉินมักแน่ใจเสมอว่าตนเองจะเป็นผู้ชนะ
เขาไม่มีทางพึ่งพาโชคชะตาเพียงอย่างเดียวเด็ดขาด
“นายท่าน เป็นเช่นนี้ไม่ถูกต้อง นี่เป็นการพนันที่ไม่ยุติธรรมเลย”
หวังเฟิงหลิวลากแขนหลินเป่ยเฉินมาที่โต๊ะแทงพนันโต๊ะหนึ่งพร้อมกับกล่าวว่า “ดูนี่สิขอรับ มีชื่อผู้เข้าสอบทั้งหมดห้าพันคน และไม่มีรายละเอียดอื่นใดอีกทั้งสิ้น หากผู้ใดจะแทงพนัน คนผู้นั้นก็ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าสอบเสียก่อน มิหนำซ้ำ ยังต้องใช้เวลาอดทนรออีกไม่น้อย… นายท่าน นี่เป็นการพนันที่ไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ”
หลินเป่ยเฉินจ้องมองรายชื่อผู้เข้าสอบที่ปรากฏอยู่บนแผ่นหินขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า
ด้านหลังชื่อของผู้เข้าสอบแต่ละคนจะมีตัวเลขอัตราการเดิมพันแจ้งเอาไว้
เช่นเดียวกับลำดับหมายเลขที่คาดว่าผู้เข้าสอบคนนั้นจะสามารถทำคะแนนได้สำเร็จ
บัดนี้ รายชื่อผู้เข้าสอบที่มาเป็นอันดับหนึ่งของโต๊ะพนันย่อมต้องเป็นหลี่กวงอวี้จากสำนักตงหลิน
แม้ว่าเมื่อสามวันก่อน สำนักตงหลินจะต้องอับอายขายหน้าจากการไปหาเรื่องก่อกวนเฉินเป่ยหลิน แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ได้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของหัวหน้ากลุ่มศิษย์ของสำนักตงหลินเลยแม้แต่น้อย อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ หลี่กวงอวี้ก็ได้รับการยกย่องมาโดยตลอดว่าเป็นผู้เยียวยารุ่นใหม่อนาคตไกลและได้รับการนับหน้าถือตาจากผู้คนนับไม่ถ้วน
ผู้ที่ตามมาเป็นอันดับสองคือเฉียวฟู่ หัวหน้ากลุ่มศิษย์จากสำนักชูซาน
ใช่แล้ว หญิงสาวร่างอ้วนที่น่าจะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าคนสามคนรวมกันนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าผลงานที่ผ่านมาของเฉียวฟู่คงยอดเยี่ยมไม่ใช่น้อย
ผู้ที่ตามมาเป็นอันดับสี่คือเป็นมู่หรงเทียนแห่งสำนักไทปิง
ส่วนผู้ที่ได้อันดับห้าคือซือเหรินเฉินจากสำนักเซวี่ยไห่
อันดับหกคือเฉาซูอี้จากหอตำราซางฉี
โจวเฉิงเฉิงจากสำนักศึกษาเซวียนเติ้งตามมาเป็นอันดับเจ็ด
ฉู่ชิงซือตัวแทนนักศึกษาจากสำนักเทียนเจี้ยวได้อันดับที่แปดไปครอบครอง
หลินเป่ยเฉินเพ่งตามองรายชื่อเหล่านั้นและพบว่าล้วนแต่เป็นผู้คนที่เขาเคยได้ยินชื่อมาก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น
ไม่มีชื่อของนักพรตหญิงชินปรากฏอยู่ในสิบอันดับแรก
เพราะชื่อของนางตกไปอยู่อันดับที่ห้าสิบ
“บัดซบ นี่จัดอันดับกันอย่างไร ทุบทิ้งซะดีไหม”
หลินเป่ยเฉินพูดด้วยความโกรธแค้น “ชินเหลียนเซินของข้าไม่ติดสิบอันดับแรกได้อย่างไร นี่เป็นการจัดอันดับที่เหลวไหลเกินไปแล้ว!!”
Comments for chapter "บทที่ 1898 ผู้ที่ได้เข้าสอบรอบต่อไป"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
puiphone
ถ้าแทงอัตราจ่ายก็สูงนะ