เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1899 ดื่มสุราฟังเรื่องเล่า
ตอนที่ 1,899 ดื่มสุราฟังเรื่องเล่า
เมื่อคำพูดของเด็กหนุ่มลอยไปเข้าหูกลุ่มคน ใครคนหนึ่งก็ส่งเสียงตอบกลับมาทันที “ชินเหลียนเซินเพิ่งสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้ไม่นาน แม้ว่านางจะสามารถเอาชนะในการประลองความรู้ได้ถึงเจ็ดร้อยกว่าครั้ง แต่ชื่อเสียงโดยรวมก็ยังสู้บรรดาศิษย์เอกของสำนักต่างๆ ไม่ได้ การที่นางถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ห้าสิบนั้นก็นับว่าสูงมากแล้ว หากเจ้าไม่เข้าใจความหมาย ก็จงอย่าได้พูดจาเหลวไหลออกมา…”
“เฮอะ”
หลินเป่ยเฉินพยายามมองหาคนพูดพร้อมกับถามว่า “เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อจงไต้จุน ไม่ทราบว่าเจ้ามีคำแนะนำอันใดหรือ?”
คนพูดเป็นบุรุษคิ้วหนา ตาโต ใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางอวดดีผู้หนึ่ง
“เจ้าทราบหรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะ
“ไม่จำเป็นต้องทราบ”
จงไต้จุนเชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าจงไต้จุนเป็นผู้ยึดมั่นในหลักความจริง ทุกสิ่งที่ข้าพูดคือความจริง ข้าไม่เคยพูดจาเหลวไหลมาก่อน”
แต่เมื่อคำพูดดำเนินมาถึงตรงนี้ คนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็แอบกระซิบบอกเขาว่าตัวตนที่แท้จริงของหลินเป่ยเฉินนั้นคือผู้ใด
แล้วสีหน้าของจงไต้จุนก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบกล่าวออกมาเสียงดังว่า “ว่าไงนะ? เจ้าพูดใหม่ซิ? ภรรยาของข้ากำลังจะคลอดบุตรแล้วอย่างนั้นหรือ? ทุกคน ข้าคงต้องขอตัวก่อนล่ะ”
แล้วบุรุษหนุ่มก็หมุนตัววิ่งหนีไป
หลินเป่ยเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
เขาไม่ได้อยากจะทำอะไรจงไต้จุนเลย ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงการโต้เถียงกันธรรมดาเท่านั้น
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ชื่อเสียงความน่ากลัวของเขาถึงกับทำให้ภรรยาของผู้อื่นต้องคลอดบุตรออกมาแล้ว…
ในเวลาเดียวกันนี้ กลุ่มคนที่ยืนรวมตัวอยู่รอบกายหลินเป่ยเฉินก็ถอยห่างออกไปมากขึ้น
ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มเป็นตัวเชื้อโรค
ให้ตายเถอะ
ฆ่าทิ้งให้หมดซะดีไหมเนี่ย?
หวังเฟิงหลิวรีบขยับเข้ามากระซิบข้างหูว่า “นายท่านขอรับ ข้าน้อยว่านี่เป็นโอกาสดีที่พวกเราจะทำเงินได้ก้อนโตเลยนะขอรับ อัตราการต่อรองของแม่นางชินดีงามมาก หมายความว่าเราลงเงินน้อย แต่ได้ค่าตอบแทนสูง นายท่านไม่คิดลองเสี่ยงดวงดูหรือขอรับ?”
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนเห็นแก่เงินขนาดนั้นเลยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินหันกลับมาถลึงตาใส่ “ข้าเพิ่งปฏิเสธไปว่าการจัดอันดับของแม่นางชินนั้นเหลวไหล… แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าขอร้องถึงขนาดนี้ ข้าก็คงต้องลองเดิมพันดูสักหน่อย เอาเงินของเจ้าไปวางเดิมพันให้ข้าสักแสนตำลึงทอง ไม่สิ เอาลงไปสักห้าแสนตำลึงทองเลยก็ได้ ข้าจะเดิมพันว่าพี่ชินต้องได้อันดับหนึ่งในวิชาภาษาศาสตร์อย่างแน่นอน”
หวังเฟิงหลิวรีบหมุนตัวไปทำเรื่องแทงพนันอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ๆๆ เด็กน้อย เจ้ากล้าเดิมพันถึงเพียงนี้ ไม่กลัวสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหรือ?”
ใครคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
เมื่อหลินเป่ยเฉินหันหน้ากลับไปมอง เขาก็พบว่าผู้ถามเป็นชายชราแต่งกายชุดดำ ซึ่งไม่รู้ว่ามายืนอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ชายชราผู้นี้กำลังจ้องมองรายชื่อผู้เข้าสอบบนแผ่นหินด้วยความพินิจพิจารณา เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินการเดิมพันของหลินเป่ยเฉินจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้
ชายชราชุดดำผู้นี้มีรูปร่างผอมบาง ใบหน้าราบเรียบธรรมดา ผิวหนังเหี่ยวย่น แต่ดวงตามีความอ่อนโยนอย่างผู้ที่มีจิตใจดี แม้ว่าลักษณะโดยรวมจะเป็นเพียงชายชราธรรมดาผู้หนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด หลินเป่ยเฉินกลับรู้สึกว่าชายชราผู้นี้ได้ซ่อนความพิเศษบางอย่างเอาไว้
“ข้าไม่กลัวหรอกขอรับ”
หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปตามความจริง “เพื่อเอาชนะใจสตรี บุรุษต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ต่อให้ข้าต้องเสียเงินไปทั้งหมด ข้าก็จะใช้โอกาสนี้พิสูจน์ให้แม่นางชินเหลียนเซินเห็นว่า ข้าเชื่อมั่นในตัวนางมากเพียงใดและนางจะต้องซาบซึ้งใจอย่างแน่นอน…”
ชายชราชุดดำยกนิ้วโป้งให้เขาด้วยความชื่นชม “เป็นแผนการที่ประเสริฐนัก”
“ท่านผู้เฒ่าก็เห็นด้วยกับข้าใช่หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินยิ้มอย่างผู้ชนะ “อีกอย่าง ต่อให้ข้าเสียเงินเดิมพันไปทั้งหมด แต่ข้าก็มีวิธีนำเงินกลับคืนมาได้เสมอ นับดูในอาณาจักรแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถสู้กับข้าได้ ดังนั้น การแย่งเงินเดิมพันคืนมาจากโต๊ะพนันจึงเป็นสิ่งที่ง่ายดายยิ่งนัก”
หลินเป่ยเฉินพูดจาวางท่าใหญ่โต เมื่อผู้คนรอบข้างได้ยินคำพูดเหล่านั้น ต่างก็ยิ่งพากันถอยห่างออกไปจากเขามากขึ้น
ฟังที่เจ้าเด็กคนนี้พูดออกมาสิ เขายังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือไม่?
ชายชราชุดดำเองก็มีสีหน้าพิศวงขึ้นมาแล้วเช่นกัน “เจ้านี่มันเป็นตัวประหลาดจริง ๆ”
หลินเป่ยเฉินยิ้มรับด้วยความสดชื่น “ข้าเพียงมีความซับซ้อนมากกว่าผู้คนทั่วไปเท่านั้น”
“ว่าแต่ว่าท่านผู้เฒ่าไม่กลัวข้าน้อยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินถามออกมาอีกครั้ง เข้าใจว่าชายชราชุดดำผู้นี้ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา
ชายชราชุดดำยิ้มกว้างและตอบว่า “ข้าแก่แล้ว จะกลัวเจ้าไปเพื่ออะไร? เจ้าไม่ใช่มนุษย์กินคนสักหน่อย… อีกอย่าง ข้ามาที่นี่เพื่อแทงพนัน ขอข้าดูก่อนเถอะว่าจะเลือกเดิมพันที่ผู้ใดดี ฮ่า ๆๆ ข้าจะเลือกเดิมพันที่เด็กสาวเฉียวฟู่คนนี้ก็แล้วกัน”
หลินเป่ยเฉินถามออกมาด้วยความคิดไม่ถึงว่า “ท่านผู้เฒ่ารู้จักนางหรือขอรับ?”
“ย่อมรู้จัก”
ชายชราชุดดำพยักหน้า “แต่นางไม่รู้จักข้าหรอก”
“อ้าว?”
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินลุกวาวด้วยความสนใจ แอบกระซิบถามว่า “ท่านผู้เฒ่ากล่าวเหมือนมีเรื่องราวในอดีต”
“เฮ้อ เรื่องมันยาวน่ะ เป็นเรื่องราวของความรักที่เกิดขึ้นในวัยหนุ่มสาว”
ชายชราตอบด้วยสีหน้าเหม่อลอย
โชคดีที่ตอนนี้หลินเป่ยเฉินทำได้เพียงรอคอยให้การสอบจบลง เขารู้สึกเบื่อหน่ายเพราะไม่มีอะไรทำ จึงคิดว่าการนั่งพูดคุยกับชายชราชุดดำผู้นี้ก็น่าจะฆ่าเวลาได้ดีเช่นกัน
เขานำไวน์ที่ซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ตออกมาจัดวางพร้อมด้วยถ้วยหยกสองใบ หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “ข้าน้อยมีสุรา ท่านผู้เฒ่ามีเรื่องเล่า งั้นพวกเรามานั่งดื่มสุรารับฟังเรื่องเล่าดีไหมขอรับ?”
ชายชราชุดดำไม่ได้เกรงใจ เขารับถ้วยใส่ไวน์ไปจิบ แล้วดวงตาก็เบิกโพลง “นับเป็นสุราที่ประเสริฐ… สุรานี้มีชื่อว่าอันใดหรือ?”
หลินเป่ยเฉินตอบว่า “ชื่อว่าสุราฆ่าเวลาขอรับ”
ชายชราชุดดำขมวดคิ้ว
“นับเป็นสุราดีมีชื่อไม่ธรรมดา”
ชายชราดื่มไวน์ขาวหมดถ้วยในรวดเดียว หลังจากนั้น เขาก็ไม่ทราบว่าตนเองสมควรกล่าวอะไรอีกแล้ว
หลินเป่ยเฉินรีบกล่าวว่า “แต่คงยอดเยี่ยมสู้เรื่องเล่าของท่านผู้เฒ่าไม่ได้หรอกขอรับ”
“เจ้านับเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง”
ชายชราชุดดำหยิบขวดไวน์ไปเทใส่ถ้วยด้วยตนเอง พร้อมกันนั้นก็เริ่มเปิดฉากเล่าเรื่องราวว่า “ในอดีตอันยาวนาน ข้าเคยมีความรักอยู่ในอาณาจักรเล่ยฉื่อแห่งนี้ แต่โชคร้ายที่ข้าไม่ได้เกิดมาเป็นบัณฑิตเคร่งตำรา ข้าไม่สามารถทนอ่านตำราได้ทั้งวันทั้งคืนหรอก สุดท้าย ผู้คนในอาณาจักรนี้ก็ไม่มีใครต้อนรับข้า ข้าจึงต้องออกเดินทางไปผจญภัยในอาณาจักรอื่นเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ตนเอง”
“บัดนี้ เมื่อข้าได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ข้าก็พบว่าบรรดาคนรู้จักในอดีตได้กลายเป็นโครงกระดูกสลายหายกันไปหมดแล้ว นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก… เฮ้อ ข้าแก่เกินไปที่จะเห็นผู้ใดตกตายอีกแล้ว เรามาร่ำสุรากันเถอะ อย่าพูดถึงอดีตที่น่าเบื่อของข้าอีกเลย”
“ดูจากแววตาของท่านแล้ว หรือว่าแม่นางเฉียวฟู่จะเป็น…”
“ไม่ใช่”
ชายชราชุดดำรีบส่ายศีรษะ “เฉียวฟู่ไม่ใช่บุตรหลานของข้า แต่เป็นบุตรหลานของสตรีผู้หนึ่งที่ข้าเคยรู้จัก”
“สตรีผู้หนึ่ง?”
หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาทันที “อุ๊ย หรือว่าอดีตคนรักของท่านผู้เฒ่าแต่งงานใหม่ขอรับ?”
ชายชราชุดดำเกือบจะทุบถ้วยหยกทิ้งแล้ว “เจ้าหนู เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตนเองพูดมากเหลือเกิน?”
“ข้าน้อยเป็นคนตรงไปตรงมาขอรับ คิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น”
หลินเป่ยเฉินยิ้มกว้างและถามต่อไป “สรุปว่าแม่นางเฉียวฟู่เป็นบุตรหลานของอดีตคนรักของท่านผู้เฒ่าใช่หรือไม่?”