เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1903 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ตอนที่ 1,903 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“ข้า…”

ศิษย์หญิงมีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาในทันใด

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของหลินเป่ยเฉิน “ไม่ต้องกลัว ข้าไม่สังหารสตรีหรอก”

เมื่อกล่าวจบ เขาก็เดินจากไปพร้อมด้วยนักพรตหญิงชินและคนอื่น ๆ

ผู้คนจ้องมองแผ่นหลังของหลินเป่ยเฉินอย่างพูดอะไรไม่ออก

ทันใดนั้น หลายคนถึงได้เข้าใจว่าตนเองประเมินฝีมือของชินเหลียนเซินต่ำต้อยมากเกินไป

การเอาชนะผู้คนในการประลองความรู้ได้ถึง 721 ครั้งไม่ใช่ความน่ากลัวที่แท้จริงของนาง

บัดนี้ นางสามารถทำคะแนนสอบในวิชาภาษาศาสตร์ได้ถึงหนึ่งร้อยคะแนนเต็มและตามคำพูดของเฉินเป่ยหลิน หากข้อสอบมีคะแนนมากกว่านี้ ชินเหลียนเซินก็จะต้องได้คะแนนมากกว่านี้แน่นอน

หลี่กวงอวี้และกลุ่มผู้ติดตามจากสำนักตงหลินก็รีบกลับที่พักของตนเองเช่นกัน

บรรดาผู้ที่เป็นหัวหน้าศิษย์จากสำนักต่าง ๆ ล้วนมีสีหน้าที่แตกต่างกันไป

แต่โดยส่วนใหญ่นั้น พวกเขาก็รู้สึกกดดันขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

ชินเหลียนเซินเป็นผู้ที่มาจากภพภูมิอื่น แต่กลับสามารถทำคะแนนสอบในอาณาจักรเล่ยฉื่อได้เป็นอันดับหนึ่ง และนั่นก็ทำให้หลายคนรู้สึกว่าตนเองต่างหากที่เป็นตัวประหลาดสำหรับอาณาจักรแห่งความรู้แห่งนี้

“การสอบวิชาพฤกษาศาสตร์ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย พวกเราต้องเอาชนะนางให้ได้”

“เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้อีกแล้ว”

“ผู้ใดจะได้อันดับหนึ่งก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นแต่นางผู้นี้เพียงผู้เดียว”

ผู้คนจากหลากหลายสำนักพูดคุยกัน

นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวความแค้นส่วนตัว

แต่นี่เป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาประจำอาณาจักรเล่ยฉื่อต่างหาก

…

หลังจากนั้น

ผ่านไปเพียงพริบตาเดียว การสอบในช่วงบ่ายก็มาถึง

แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!

เมื่อหมดช่วงเวลาพักเที่ยง บรรดาผู้เข้าสอบก็ต้องเดินกลับเข้าไปสู่ลานทำข้อสอบอีกครั้ง

หลินเป่ยเฉินต้องกลับมายืนรอคอยให้นักพรตหญิงชินทำข้อสอบเสร็จสิ้นอยู่หน้าประตูอีกหน

ระหว่างช่วงพักเที่ยง เขาได้นำยาบำรุงกำลังและอาหารเสริมบำรุงสมองทุกชนิดออกมาให้นักพรตหญิงชินรับประทาน เขาถึงกับซื้อเครื่องดื่มบำรุงกำลังอย่างกระทิงแดงมาให้นางดื่มเพื่อเพิ่มความคึกคักอีกด้วย

การสอบในช่วงบ่ายเป็นวิชาพฤกษาศาสตร์

การสอบจะว่าด้วยการระบุชนิดสมุนไพร สรรพคุณของสมุนไพร ต้นกำเนิดของสมุนไพร และอื่น ๆ อีกมากมาย

สมุนไพรทุกชนิดล้วนเป็นสมุนไพรที่อยู่ในเส้นทางดาราจักร

นี่แตกต่างจากการเรียนวิชาปรุงยา เพราะผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยานั้นอาจจะไม่สามารถปรุงยาได้เก่งกาจเท่ากับผู้ใช้สายเลือดนักปรุงยา แต่สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องมีก็คือความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสมุนไพรแต่ละชนิด รวมถึงต้นกำเนิดของพวกมันด้วยนั่นเอง

เหล่าโต๊ะพนันเปิดรับเดิมพันอีกครั้ง

ครั้งนี้ แม้ว่าผู้เข้าสอบจากสำนักใหญ่หลายคนจะสามารถทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่กลุ่มคนส่วนใหญ่ก็นิยมเดิมพันที่ชินเหลียนเซิน และนั่นก็ทำให้อัตราต่อรองของนางเลื่อนระดับจากอันดับที่ 50 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 15 แล้ว

หลินเป่ยเฉินเดินไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเคียงข้างกับชายชราชุดดำ

“นี่ ท่านผู้เฒ่าจำหน้าหลานสาวของตนเองได้หรือไม่?”

หลินเป่ยเฉินนำไวน์ขาวขวดใหม่ออกมาจัดวางด้วยความสุภาพอ่อนน้อม

“จำไม่ได้”

ชายชราคว้าขวดไวน์ด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขสักเท่าไหร่

หลินเป่ยเฉินรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ไวน์ขาวแต่ละขวดมีมูลค่าไม่ใช่น้อย แต่ใครใช้ให้ชายชราชุดดำผู้นี้เป็นยอดฝีมือเร้นกายกันล่ะ การจะเอาชนะใจผู้แข็งแกร่งระดับนี้ ก็คงต้องลงทุนกันสักหน่อย

แต่ท่าทีของชายชราแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในตอนบ่าย เขาเอาแต่ดื่มสุรา ไม่สนใจพูดคุยอีกแล้ว

…

สองชั่วยามผ่านไป การสอบสิ้นสุดลง

และสิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะว่าในการสอบวิชาพฤกษาศาสตร์นั้น ชินเหลียนเซินก็ยังทำได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มเช่นเดิม นางสามารถเอาชนะบรรดาตัวแทนจากสำนักศึกษาชื่อดังได้อย่างง่ายดาย

ในวิชาพฤกษาศาสตร์ เฉียวฟู่ทำได้ 98 คะแนน หลี่กวงอวี้ทำได้ 97 คะแนน มู่หรงเทียนทำได้ 96 คะแนน และฉู่ชิงซือทำได้ 92 คะแนน…

การทำคะแนนเต็มได้สองวิชาติดทำให้ชื่อของชินเหลียนเซินกลายเป็นฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนบรรดาผู้เข้าสอบแทบทุกคน

การสอบได้คะแนนเต็มครั้งแรกอาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่การได้คะแนนเต็มครั้งที่สองย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกแล้ว

นี่คือความสามารถของอัจฉริยะที่แท้จริง!

นี่คือความจริงที่พิสูจน์แล้วว่าความหวาดหวั่นของสำนักศึกษาชื่อดังทั้งหลายไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาวิตกกังวลมากเกินไปเอง

เพราะในวันต่อมา ไม่ว่าจะเป็นวิชาแร่ธาตุศาสตร์หรือค่ายอาคมศาสตร์ ชินเหลียนเซินก็ยังคงทำได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มอย่างต่อเนื่อง

ส่วนหลี่กวงอวี้ตามมาเป็นอันดับสอง สามารถทำได้ 93 และ 95 คะแนนตามลำดับ

ในอดีต เพียงคะแนนของหลี่กวงอวี้ผู้เดียวก็คงสามารถทำให้ผู้คนตกตะลึงได้ทั้งแผ่นดิน

แต่บัดนี้ การทำได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มของชินเหลียนเซินได้กลบรัศมีความยอดเยี่ยมของหลี่กวงอวี้ไปหมดสิ้น

ต่อให้ทำได้ 99 คะแนน ถึงอย่างไรก็สู้ทำได้ 100 คะแนนไม่ได้อยู่ดี

และเป็นไปอย่างที่เฉินเป่ยหลินกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การที่ชินเหลียนเซินสามารถทำได้ 100 คะแนนและอันดับที่สองทำได้ 98 คะแนนนั้น ไม่ได้หมายความว่านางจะมีขีดความสามารถที่จะเอาชนะพวกเขาได้เพียงสองคะแนนเท่านั้น

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“นางไม่ใช่คนของอาณาจักรเรา นางไม่ใช่คนของเส้นทางดาราจักรแห่งนี้ด้วยซ้ำ ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน นางสามารถเอาชนะลูกศิษย์จำนวนหลายพันคนที่ร่ำเรียนอย่างเคร่งเครียดมาตลอดหลายปีได้อย่างไร?”

“หรือว่าข้อสอบของสำนักศึกษาฉิวจื่อจะมีปัญหา?”

“นี่ พูดอะไรออกมาระวังปากหน่อยสิ สำนักศึกษาฉิวจื่อไม่มีทางทำพลาดเช่นนั้นแน่”

“ใช่ เจ้าไม่ควรสงสัยในสำนักศึกษาฉิวจื่อเด็ดขาด”

เสียงพูดคุยดังอื้ออึงทั่วภูเขาเหวินเต้า

ก่อนการสอบ พวกเขาพอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าชินเหลียนเซินมีความสามารถไม่ธรรมดา แต่ทุกคนก็คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่านางจะมีความอัจฉริยะจนสามารถเอาชนะตัวแทนจากสำนักศึกษาชื่อดังทั่วอาณาจักรเล่ยฉื่อเช่นนี้

หลังจากนั้น คำถามสำคัญก็ตามมา

ในการสอบอีกสี่วิชาที่เหลืออยู่ ชินเหลียนเซินจะสามารถทำคะแนนเต็มได้ทั้งหมดหรือไม่?

นี่คือสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากคิดสงสัย

แม้แต่โต๊ะพนันเองก็เช่นกัน

แน่นอนว่าอัตราการเดิมพันได้มีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง

ชินเหลียนเซินได้มีชื่ออยู่ในกลุ่มตัวเต็งร่วมกับหลี่กวงอวี้ เฉียวฟู่ โจวเฉิงเฉิง เฉาซูอี้ ฉู่ชิงซือและมู่หรงเทียนเรียบร้อยแล้ว

บรรดาผู้ที่มารับชมการประกาศผลสอบเพื่อความตื่นเต้นนั้นได้รู้แล้วว่าตนเองกำลังร่วมเป็นสักขีพยานในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของสำนักศึกษาฉิวจื่อ

เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ผู้คนก็ยิ่งมารวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น

นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่อาณาจักรเล่ยฉื่อเป็นจำนวนมาก

ภูเขาเหวินเต้าอัดแน่นด้วยผู้คนทั้งด้านในและด้านนอก

การสอบยังคงดำเนินต่อไป