เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1906 ชายชราชุดดำลงมือ
ตอนที่ 1,906 ชายชราชุดดำลงมือ
“เจ้าชื่ออะไร?”
หลินเป่ยเฉินถามเสียงเรียบ
เด็กหนุ่มรุ่นพี่กัดฟันตอบกลับมา “ข้าเป็นเพียงบัณฑิตไร้ชื่อเสียง เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อของข้าหรอก ข้านั้น…”
“ข้าจะไม่เสียเวลาคุยกับคนขี้ขลาดที่แม้แต่นามของตนเองก็ไม่กล้าเอ่ยออกมา”
หลินเป่ยเฉินขัดจังหวะขึ้นโดยทันที “ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง… บอกมาว่าเจ้าชื่ออะไร?”
เด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีลังเลเล็กน้อย ก่อนสูดหายใจลึก ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดตอบว่า “ข้ามีนามว่าหลี่เซินเจี๋ย”
“ประเสริฐ เจ้ามีอะไรจะถามหรือ?”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยความกระตือรือร้น
หลี่เซินเจี๋ยกัดฟันกำหมัด ตัวสั่นด้วยความตึงเครียด “ข้าอยากจะรู้ว่าพวกท่านโกงการสอบได้อย่างไร?”
“หา?”
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็นประกายวาวโรจน์ขึ้นมาทันที
เสียงอุทานดังออกมาจากกลุ่มคนดังอื้ออึง
โกงการสอบ
นี่เป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรงยิ่งนัก
“เจ้าช่วยพูดอีกสักครั้งได้หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินสูดหายใจลึก พยายามสงบสติอารมณ์
หลี่เซินเจี๋ยกล่าวด้วยความอัดอั้นตันใจว่า “ข้าอยากจะรู้ว่าชินเหลียนเซินโกงการสอบจนได้หกร้อยคะแนนเต็มในการสอบทั้งหกวิชาที่ผ่านมาได้อย่างไร”
“เจ้าตัวบัดซบ…”
หวังเฟิงหลิวปลดปล่อยรังสีอำมหิตออกมา
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นส่งสัญญาณบอกให้หวังเฟิงหลิวอย่าเพิ่งลงมือ
“ผู้ใดสั่งให้เจ้ามาพูดเช่นนี้?”
หลินเป่ยเฉินจ้องมองเด็กหนุ่มผู้หวาดวิตกเบื้องหน้าและถามเน้นย้ำทีละคำ
“ข้าพูดของข้าเอง”
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“ฮ่า ๆๆ แต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้มีความกล้าหาญถึงเพียงนั้นหรอก”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะตอบกลับไป
เด็กหนุ่มผู้ขวางทางเดินไม่สนใจถ้อยคำเย้ยหยันจากหลินเป่ยเฉิน เขากล่าวต่อไปด้วยเสียงที่ดังมากขึ้นว่า “นับตั้งแต่ที่สำนักศึกษาฉิวจื่อก่อตั้งขึ้นมา เคยมีการสอบมาแล้ว 37,821 ครั้ง แต่ละครั้งจะแบ่งการสอบออกเป็นแปดวิชา จำนวนผู้เข้าสอบในแต่ละครั้งมีตั้งแต่สามพันคนไปจนถึงหนึ่งแสนคน ในบรรดาผู้คนทั้งหมด มีผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้เพียง 11,361 คน คิดเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของผู้เข้าสอบทั้งหมด”
“และข้าหมายถึงผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้วิชาเดียวเท่านั้น ส่วนผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้สองวิชามีทั้งหมดเพียง 176 คน และผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้สามวิชาก็มีเพียง 73 คน ผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้สี่วิชามีอยู่ 21 คน และผู้ที่ทำคะแนนเต็มได้ห้าวิชามีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น จนกระทั่งถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถทำคะแนนเต็มได้หกวิชามาก่อน…”
หลี่เซินเจี๋ยอธิบายถึงสถิติที่ตนเองจดจำได้อย่างแม่นยำ
หลังจากนั้น เขาก็ตะโกนให้ทุกคนได้ยินกันอย่างทั่วถึง “นี่คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด อย่าว่าแต่ชินเหลียนเซินเป็นคนที่มาจากภพภูมิอื่น นางไม่ใช่คนของอาณาจักรเล่ยฉื่อ นางจะมีความรู้ความสามารถดีกว่าบรรดาศิษย์จากสำนักศึกษาต่าง ๆ ได้อย่างไร นางเพิ่งจะเริ่มศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ผู้เยียวยาได้เพียงหกเดือนกับอีกยี่สิบเอ็ดวันเท่านั้น ต่อให้นางเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ค้ำฟ้า แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำคะแนนสอบได้ดีถึงเพียงนี้…ดังนั้น คำตอบจึงมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือนางโกงการสอบ”
หลินเป่ยเฉินนิ่งเงียบไม่พูดคำใด
เหตุผลที่เขาไม่พูดก็เพราะไม่ทราบว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี
หลินเป่ยเฉินลังเลว่าตนเองควรจะสังหารบัณฑิตหนุ่มผู้มาปั่นป่วนสถานการณ์คนนี้ดีหรือไม่
ทันใดนั้น เฉียวปี้อี๋ก็ส่งเสียงตวาดกลับไปด้วยความโกรธแค้นว่า “คุณชายหลี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังพูดอะไรออกมา?”
หลี่เซินเจี๋ยเชิดหน้าขึ้นสูงตอบว่า “ข้ารู้ ข้าเพียงมาสอบถามด้วยความสงสัยเท่านั้น”
“เจ้าอิจฉาต่างหาก เจ้าถึงได้เริ่มปล่อยข่าวลือใส่ร้ายพวกเรา”
เฉียวปี้อี๋กล่าวด้วยความรำคาญใจ “เจ้านำเอาข้อมูลในอดีตมาผสมกับความจริงที่ตนเองบิดเบือน พยายามโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อว่าการสอบครั้งนี้มีความไม่ชอบมาพากล… เจ้าทราบหรือไม่ว่าตนเองกำลังทำสิ่งใดอยู่ฮะ?”
หลี่เซินเจี๋ยยังคงเชิดหน้าขึ้นสูง แต่นิ่งเงียบไม่ตอบคำใด สีหน้าเริ่มปรากฏความไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฉียวปี้อี๋กล่าวต่อไปว่า “ผู้ใดสั่งให้เจ้าออกมาพูดเช่นนี้?”
ในแววตาของหลี่เซินเจี๋ยพลันมีความหวาดกลัวฉายวูบ แต่แล้วในทันใดนั้นเอง เขาก็กัดฟันตอบด้วยความหนักแน่นว่า “นี่เป็นความคิดของข้าแต่เพียงผู้เดียว ในฐานะผู้เข้าสอบ ข้าย่อมมีสิทธิ์สงสัย”
เฉียวปี้อี๋หัวเราะเยาะตอบกลับไป “ข้าจำเจ้าได้ เจ้าเป็นลูกศิษย์ของสำนักศึกษาเล็ก ๆ นามว่าสำนักเฉินซิง คนขี้ขลาด… แม้แต่ชื่อสำนักของตนเองเจ้าก็ไม่กล้าเปิดเผย นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าทำเช่นนี้เพราะถูกผู้อื่นบังคับ”
ใบหน้าของหลี่เซินเจี๋ยซีดขาวขึ้นมาทันที
“ข้า…”
เขาเริ่มลังเล “ไม่มีผู้ใดสั่งข้ามาทั้งนั้น ข้า…”
“ไร้ยางอาย”
เฉียวปี้อี๋กล่าวด้วยความเดือดดาลใจ “ไสหัวไปซะ เจ้าทำให้ผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาคนอื่น ๆ ต้องมีมลทินหมดแล้ว”
เวลานั้นเสียงคัมภีร์ถูกเปิดออกพลันดังขึ้นในอากาศ
แล้วร่างของหลี่เซินเจี๋ยก็ถูกคลื่นพลังกระแทกจนลอยกระเด็นออกไปไกลหลายสิบวา
การโจมตีครั้งนี้ทำให้กลุ่มคนเกิดความปั่นป่วนและมีเสียงร้องตะโกนดังขึ้นไม่หยุด
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงลงมือทำร้ายผู้คน?”
“สาวน้อย เจ้าหมกมุ่นกับคนแปลกหน้าจนถึงกับทำร้ายผู้คนในอาณาจักรเดียวกันแล้วหรือ?”
“เจ้าเป็นลูกศิษย์จากสำนักชูซานใช่หรือไม่? เฮอะ ช่างน่าอับอายขายหน้าแทนสำนักของเจ้าจริง ๆ เจ้าลุ่มหลงในบุรุษจนเห็นผิดเป็นชอบและถึงกับทำร้ายผู้ร่วมสอบ… อาจารย์จากสำนักชูซานอยู่ที่ใด? ยังไม่รีบมาจัดการลูกศิษย์ของพวกท่านอีก”
ในกลุ่มฝูงชนบังเกิดเสียงตะโกนต่อว่าไม่หยุดหย่อน
นี่เท่ากับเป็นการเติมเชื้อไฟเข้าไปในกองเพลิง
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็นประกายเย็นเฉียบด้วยความอำมหิต
สิ่งที่เขาเกลียดชังที่สุดก็คือคนที่คอยปั่นป่วนสถานการณ์อยู่ในความมืดนี่แหละ
เขาหันกลับไปมองหน้านักพรตหญิงชินอย่างขอความคิดเห็น
นักพรตหญิงชินส่ายศีรษะตอบกลับมาเล็กน้อย
นางรู้ดีว่าหลินเป่ยเฉินต้องการจะทำอะไร
แต่การฆ่าคนยิ่งเท่ากับเป็นการตกสู่กับดักที่อีกฝ่ายวางเอาไว้
หลินเป่ยเฉินจึงทำได้เพียงถอนหายใจและอดทนต่อไปเท่านั้น
ตัวเขาไม่ได้มีปัญหากับการฆ่าคน แต่นักพรตหญิงชินยังจำเป็นต้องศึกษาอยู่ที่อาณาจักรเล่ยฉื่อไปอีกนาน หากเขาลงมือในตอนนี้ อนาคตในการศึกษาศาสตร์แห่งสายเลือดผู้เยียวยาของนักพรตหญิงชินก็จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
“งั้นพวกเรากลับที่พักกันดีกว่า”
หลินเป่ยเฉินพูดด้วยความเจ็บใจ
แต่ในทันใดนั้น…
“โอ๊ย!”
“อะเฮือก…”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นติด ๆ กัน
ปรากฏว่ากลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและคอยส่งเสียงตะโกนปั่นป่วนสถานการณ์เมื่อสักครู่นี้ค่อย ๆ ล้มลงขาดใจตายทีละคนสองคน
พวกเขามีกันทั้งหมดสิบสามคน
ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
ทุกคนต่างก็ตายโดยทันที
เสียงจากฝูงชนเงียบลงอีกครั้ง
หลายคนมีสีหน้าว่างเปล่า หลายคนมีสีหน้าตื่นกลัว
หลินเป่ยเฉินมีสีหน้าประหลาดใจ
ทันใดนั้น เสียงของชายชราชุดดำก็ดังขึ้นอย่างแช่มช้าว่า “หลังจากดื่มสุราของเจ้ามาสามวัน ข้าขอตอบแทนโดยการกำจัดมดปลวกเหล่านี้ให้เจ้าก็แล้วกันนะ ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก… ฮ่า ๆๆ ถือว่าค่าสุราที่ข้าติดค้างเจ้าได้รับการชดใช้ทั้งหมดแล้ว”
รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างชายชราชุดดำแรงกล้า
Comments for chapter "บทที่ 1906 ชายชราชุดดำลงมือ"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
puiphone
รอก่อนดิปลาซิวปลาสร้อยไม่นับ รอฉลามมาก่อนดิ