เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1908 ชายชราอาละวาด
ตอนที่ 1,908 ชายชราอาละวาด
“เจ้าหนู อย่าคิดว่าเราดื่มสุราของเจ้าเพียงไม่กี่วัน เจ้าจะมีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่งสอนเราได้”
ชายชราชุดดำยืนอยู่ที่เดิมและยกมือขึ้นมาเล็กน้อย เตรียมที่จะปล่อยพลังทำลายล้างได้ทุกเมื่อ “หมัดเมื่อสักครู่นี้ถือเป็นบทเรียนที่จะสั่งสอนให้เจ้ารู้จักที่ต่ำที่สูง ส่วนเรื่องค่าสุรา ถือว่าข้าตอบแทนไปหมดแล้ว”
หลินเป่ยเฉินสูดหายใจลึก ๆ โคจรพลังปราณภายในร่างกายและกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าช่างอำมหิตยิ่งนัก”
หลังจากนั้น อาการบาดเจ็บที่แขนของเด็กหนุ่มก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง
นี่คือครั้งแรกที่เขามีโอกาสได้ต่อสู้กับผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
และนั่นก็ทำให้หลินเป่ยเฉินรู้สึก…
ราวกับว่าตนเองเป็นมดปลวกที่ต่ำต้อยผู้หนึ่ง
ไม่มีทางเอาชนะอีกฝ่ายได้เลย
ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม
“เราผู้เฒ่าจะทำให้เจ้าเข้าใจ ว่านี่คือเรื่องที่เจ้าไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย”
กลิ่นอายอันตรายแผ่ออกมาจากร่างกายของชายชราชุดดำ
ชายชราหันกลับไปมองผู้คนที่อยู่รอบกาย ไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหล พลังกดดันแผ่ออกไปเป็นกระแสคลื่น ทุกคนรู้สึกได้ถึงความตายที่คุกคามเข้ามา
“เป็นเพียงมดปลวกต่ำต้อยคิดสถาปนาตนเองครอบครองอาณาจักรเล่ยฉื่อ และตั้งตนอยู่สูงเหนือกว่าผู้อื่น เป็นเช่นนี้ต้องฆ่าให้ตายให้หมด ฮ่า ๆๆ”
เอ่อ…
หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในขณะนี้ ชายชราชุดดำคล้ายกับคนวิกลจริตเต็มขั้น
สมองของชายชราต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ชายชราควบคุมตนเองไม่ได้อีกแล้ว
หลินเป่ยเฉินรีบถอยกลับไปยืนอยู่ข้างกายนักพรตหญิงชิน จับมือของนางและเฉียวปี้อี๋ลอบดึงพวกนางให้ถอยออกมาจากกลุ่มคน
ในเวลาเดียวกันนี้ ชายชราชุดดำก็ระเบิดลำแสงสีดำพุ่งออกมาเข้าใส่กลุ่มคน และนั่นก็ทำให้ผู้คนจากสำนักต่าง ๆ ล้มตายราวกับใบไม้ร่วง
“ชายชราผู้นี้เป็นใครกันแน่?”
“ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งเหลือเกิน?”
“อ๊ากกกก”
เสียงร้องตะโกนดังอื้ออึง
บรรดาอาจารย์อาวุโสจากสำนักไทปิง สำนักชูซาน สำนักศึกษาเซวียนเติ้ง หอตำราซางฉี สำนักเซวี่ยไห่และอีกหลากหลายสำนักต่างก็ตกตะลึงสุดขีด
การโจมตีของชายชราชุดดำแสดงให้เห็นถึงขั้นพลังที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาทุกคน
ทันใดนั้น ภาพมายาของคัมภีร์หลายเล่มก็ลอยขึ้นมาจากด้านหลังของกลุ่มอาจารย์อาวุโส
ภาพมายาของคัมภีร์เหล่านั้นปลดปล่อยคลื่นพลังบางอย่างออกมา
สำหรับผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยา การโจมตีอาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นของพวกเขา แต่เมื่อเลื่อนขั้นเป็นผู้เยียวยาระดับสูงได้สำเร็จ พวกเขาก็จะสามารถสร้างค่ายอาคมขึ้นมาป้องกันตนเองจากผู้ที่มีขั้นพลังเหนือกว่าได้โดยไม่มีปัญหา
เพราะจุดแข็งของพวกเขาคือพลังในการคุ้มครองตนเอง
“ฮ่า ๆๆ…”
แขนเสื้อของชายชราชุดดำปลิวไสว เขาเงยหน้าหัวเราะใส่ท้องฟ้า ใบหน้ากระตุกอย่างบ้าคลั่ง “วันนี้ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
แล้วชายชราก็สะบัดมือ ลำแสงสีดำพุ่งออกมาอีกครั้ง
ครืน!
มวลอากาศปั่นป่วน คลื่นพลังแผ่กระจายเป็นเกลียวคลื่น
จังหวะนี้ หลินเป่ยเฉินมองเห็นด้วยสองตาของตนเองว่าคลื่นพลังที่ชายชราชุดดำปล่อยออกมานั้นรวมตัวกลายเป็นดาบยักษ์เล่มใหญ่ที่กำลังจะฟันเข้าใส่กลุ่มคน
เหล่าผู้คนตกอยู่ในความตื่นตระหนก
“แย่แล้ว”
“พวกเราร่วมมือกัน”
อาจารย์อาวุโสหลายท่านถึงกับยอมนำคัมภีร์วิญญาณประจำตัวออกมาใช้งาน เสียงพลิกหน้ากระดาษดังขึ้นในอากาศ แล้วคลื่นพลังกดดันก็ปลดปล่อยออกมาจากคัมภีร์วิญญาณเหล่านั้น เกิดเป็นแรงต้านทานดาบยักษ์จากการโจมตีของชายชรา
การร่วมมือร่วมใจกันระหว่างอาจารย์อาวุโสต่างสำนักเช่นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นในอาณาจักรเล่ยฉื่อมาหลายร้อยปีแล้ว
คลื่นพลังระเบิดตัวบนท้องฟ้าไม่ต่างจากมีผู้คนยิงดอกไม้ไฟ
แต่ในทันใดนั้น…
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ม่านพลังที่ปกคลุมกลุ่มคนจากหลายสำนักศึกษาพลันแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
บรรดาอาจารย์อาวุโสลอยกระเด็นออกไปพร้อมกับโลหิตที่ฉีดพุ่งออกมาจากร่างกาย
และในพริบตาต่อมา อาจารย์อาวุโสหลายสิบท่านก็นอนจมกองเลือด ตกตายอย่างไม่อาจหวนคืน
ช่างเป็นความตายที่น่าสยดสยอง
ม่านพลังแตกสลายลงไปเพราะไม่อาจต้านทานอานุภาพการทำลายล้างของดาบยักษ์ และความพ่ายแพ้ของอาจารย์อาวุโสที่ผนึกกำลังร่วมมือกันเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เจ้าพวกบัณฑิตจอมปลอมเอ๋ย สุดท้ายก็ใช้การไม่ได้เลยสักคน ฮ่า ๆๆ…”
ชายชราชุดดำระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความบ้าคลั่งมากกว่าเดิม
เขายกมือขึ้น
ดาบยักษ์พลันลอยตัวสูงขึ้นไปในอากาศและทำท่าจะโจมตีลงมาใส่กลุ่มผู้คนอีกครั้ง
“หยุดมือก่อน”
“นี่เจ้าจะไม่ไว้หน้าสำนักศึกษาของพวกเราเลยหรือ?”
เสียงตะโกนด้วยความโกรธแค้นดังขึ้นจากกลุ่มคนของสำนักศึกษาฉิวจื่อ
เงาคนเคลื่อนไหววูบวาบ
แล้วเงาร่างสี่ร่างพร้อมด้วยคัมภีร์วิญญาณก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เสียงเปิดหน้ากระดาษดังขึ้น แล้วลำแสงสีทองคำก็พุ่งออกมาเป็นเหมือนสายโซ่ทองคำสี่เส้นตรงเข้าไปรัดพันดาบยักษ์และตรึงดาบยักษ์เล่มนั้นให้หยุดค้างอยู่กลางอากาศ
“เจ้ากระทำรุนแรงมากเกินไปแล้ว”
หนึ่งในสี่คนที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศขณะนี้ย่อมต้องเป็นฟางซื่อหลี่ ดวงตาของเขาเป็นประกายวาวโรจน์ “พวกเราเองต่างก็เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันแท้ ๆ เหตุใดถึงต้องฆ่าแกงกันด้วย?”
“ฮ่า ๆๆ …สุนัขรับใช้ของมันทั้งสี่ตัวอย่างพวกเจ้ายังอยู่อีกหรือนี่?”
บัดนี้ ชายชราชุดดำมีดวงตาแดงก่ำ ผู้คนเสียสติเกินการควบคุม เขาระเบิดเสียงหัวเราะดังกังวาน ดาบยักษ์ทมิฬสั่นไหวอย่างรุนแรงและสามารถระเบิดสายโซ่ขาดสะบั้นได้ทั้งสี่เส้น
แรงระเบิดนั้นถึงกับทำให้ภูเขาเหวินเต้าสั่นสะเทือนไปทั้งลูก
ฟางซื่อหลี่และพรรคพวกย่อมตกตะลึง สีหน้าแปรเปลี่ยนไป ทราบแล้วว่าตนเองคงไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่าย
แต่ในทันใดนั้น…
“ตัวบัดซบ เจ้ากล้าผิดคำสาบานกลับมาที่นี่อีกได้อย่างไร?”
เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวผู้หนึ่งดังออกมาจากข้างในสำนักศึกษาฉิวจื่อ
ชายชราชุดดำพลันหยุดชะงัก
ดาบยักษ์ทมิฬหยุดการเคลื่อนไหว
หรือว่านี่จะเป็นเสียงของกงซานอิ๋งเฉวี่ยน?
คงมีแต่ท่านอาจารย์ใหญ่เท่านั้นกระมังที่สามารถรับมือกับชายชราชุดดำผู้นี้ได้?
ในที่สุด กงซานอิ๋งเฉวี่ยนผู้ลึกลับก็ปรากฏตัวออกมาแล้วใช่หรือไม่?
ใบหน้าที่หล่อเหลาของหลินเป่ยเฉินเกิดความสงสัยเล็กน้อย
แต่นี่เป็นเสียงของสตรีนี่นา?
หรือว่ากงซานอิ๋งเฉวี่ยนตัวจริงจะเป็นสตรี?
ถ้าอ่าน “เซียนกระบี่มาแล้ว” ถึงบทนี้แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วเกือบยี่สิบตอน!! #อ่านก่อนใครได้ที่เว็บเอนจอย