เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1913 ผู้ต้องสงสัยหลัก
ตอนที่ 1,913 ผู้ต้องสงสัยหลัก
และผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาแห่งอาณาจักรเล่ยฉื่อก็จะต้องยอมก้มหัวหมอบกราบอยู่แทบเท้าเขาเพียงผู้เดียว
“วันพรุ่งนี้จะเป็นการสอบวิชาวิญญาณศาสตร์และกลยุทธ์ศาสตร์ รับรองว่าทุกคนต้องตกใจกับคะแนนของเราอย่างแน่นอน”
ความมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่กวงอวี้
หลังจากนั้น เขาก็อัญเชิญวิญญาณทั้งห้าดวงออกมาจากคัมภีร์วิญญาณของตนเอง และสั่งให้พวกมันเข้าไปฝังตัวอยู่ในห้องเก็บตำราประจำจวนที่พักของสำนักตงหลิน
ห้องเก็บตำราห้องนี้มีแต่ตำราที่เกี่ยวข้องกับวิชาวิญญาณศาสตร์และวิชากลยุทธ์ศาสตร์ หากเป็นผู้คนปกติถ้าจะท่องจำตำราได้ทั้งหมด ก็คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปี
แต่อาศัยความช่วยเหลือของวิญญาณทั้งห้าดวงนี้ เพียงคืนเดียว หลี่กวงอวี้ก็สามารถจดจำได้หมดสิ้น
เพราะความจำของวิญญาณเหล่านั้นจะกลายมาเป็นความจำของเขาเช่นกัน
อีกหนึ่งชั่วยามผ่านไป
ประตูห้องลับเปิดออกอย่างช้า ๆ
หลี่ซืออี้เดินยิ้มกริ่มเข้ามาในห้อง
เมื่อหลี่กวงอวี้เห็นสีหน้าของบิดาก็รู้แล้วว่าแผนการของพวกเขาประสบผลสำเร็จ “ท่านพ่อ ทุกคนโกรธแค้นกันแล้วใช่หรือไม่…”
“ฮ่า ๆๆ กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถูกกดดันอย่างหนัก ในที่สุดก็ยอมปรับเปลี่ยนแผนการของตนเอง นางจะเพิ่มจำนวนลูกศิษย์สายตรงจากหนึ่งคนเป็นสามคน และยังรับปากอีกด้วยว่านางจะทำการแก้แค้นราชาหินดำ เพื่อชดใช้ให้แก่อาจารย์อาวุโสจากสำนักต่าง ๆ ที่ถูกฆ่าตาย… เพียงเท่านี้ แผนการของพวกเราก็ลุล่วงแล้ว”
หลี่ซืออี้รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
เมื่อสถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ นี่ก็เท่ากับว่าแผนการของพวกเขาสำเร็จลุล่วงโดยที่ยังไม่ทันได้ลงมือขั้นตอนต่อไปเลยด้วยซ้ำ
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนไม่มีทางเลือกนอกจากยอมเผชิญหน้ากับราชาหินดำ การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ อาจจะทำให้กงซานอิ๋งเฉวี่ยนต้องประกาศตนลงจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาฉิวจื่อก็เป็นได้
แล้วอีกไม่นาน สํานักศึกษาฉิวจื่อก็จะตกมาอยู่ในมือของหลี่กวงอวี้!
เช่นเดียวกับอาณาจักรเล่ยฉื่อที่จะต้องตกเป็นของตระกูลหลี่!!
และพวกเขาก็จะกลายเป็นตำนานครอบครองความยิ่งใหญ่ตลอดไป
นี่เป็นภาพฝันที่สวยงามยิ่งนัก
“ว่าแต่ว่าเจ้าหลอมรวมวิญญาณทั้งห้าสำเร็จแล้วใช่หรือไม่?”
หลี่ซืออี้จ้องมองบุตรชายของตนเอง
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถได้วิญญาณของชินเหลียนเซินมาครอบครอง สองพ่อลูกจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมล่าถอยและเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เฉาซูอี้ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้เยียวยารุ่นใหม่ระดับยอดอัจฉริยะเช่นกัน
“เรียบร้อยแล้วขอรับ”
หลี่กวงอวี้ตอบด้วยความตื่นเต้น “ท่านพ่อ คัมภีร์กลั่นวิญญาณมีความยอดเยี่ยมจริง ๆ มันช่วยเปลี่ยนระดับสายเลือดของลูก และบัดนี้ ลูกสามารถควบคุมวิญญาณเหล่านั้นได้อย่างเบ็ดเสร็จ ในการสอบวันพรุ่งนี้ ลูกต้องได้คะแนนเต็มอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ยังมีนางมารร้ายชินเหลียนเซินอยู่อีกทั้งคน มิเช่นนั้น ครั้งนี้ลูกคงได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแต่เพียงผู้เดียวแล้ว…”
“ประเสริฐ”
หลี่ซืออี้พยายามปลอบโยนบุตรชายด้วยการกล่าวว่า “คิดทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง อย่าสนใจเรื่องราวเล็กน้อยเพียงเท่านี้เลย บัดนี้ กงซานอิ๋งเฉวี่ยนสัญญาแล้วว่าจะเพิ่มจำนวนลูกศิษย์ของตนเองจากหนึ่งคนเป็นสามคน หากวันพรุ่งนี้เจ้าสามารถทำคะแนนเต็มได้สำเร็จ ตำแหน่งศิษย์หนึ่งในสามก็จะต้องตกเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องราวอื่น ๆ ไม่มีอันใดสำคัญอีกแล้ว…”
“อ้อ เจ้าอย่าลืมนะว่ากระแสมวลชนก็เป็นสิ่งสำคัญ บัดนี้ ผู้คนเริ่มสงสัยในตัวของชินเหลียนเซินกับเฉียวฟู่ไม่น้อย พวกเขาต่างก็สงสัยว่าพวกนางจะเป็นฆาตกรที่สังหารเฉาซูอี้ คืนนี้ พวกนางคงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ แล้วพรุ่งนี้พวกนางจะทำข้อสอบได้ดีตามปกติได้อย่างไร?”
หลี่กวงอวี้รีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “จริงด้วยสินะขอรับ ขอบคุณท่านพ่อที่เตือนสติลูก”
…
การชุมนุมหน้าทางเข้าสำนักศึกษาฉิวจื่อยุติลงเมื่อมีเสียงของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนดังขึ้นมาเจรจาด้วยตนเอง
และเนื่องจากฝูงชนกดดัน กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเพิ่มจำนวนลูกศิษย์ที่ตอนแรกจะรับเพียงคนเดียวเพิ่มเป็นสามคน และในเวลาเดียวกันนี้ นางก็ได้รับปากกับทุกคนว่าจะจัดการชายชราชุดดำเมื่อการสอบสิ้นสุดลง เพื่อเป็นการแก้แค้นให้แก่ผู้คนที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้
คำพูดของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์
เมื่อนางประกาศออกไป กลุ่มคนที่รวมตัวกันประท้วงอยู่หน้าสำนักศึกษาฉิวจื่อก็แยกย้ายสลายตัวโดยทันที
สถานการณ์กลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง
วันพรุ่งนี้ยังคงมีการสอบสองวิชาสุดท้ายต่อไป
แต่ความตายของเฉาซูอี้ยังคงส่งผลกระทบกระเทือนตามมา
ผู้ต้องสงสัยหลักกลายเป็นชินเหลียนเซินกับเฉียวฟู่
เนื่องจากในกลุ่มผู้เข้าสอบที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับต้น ๆ มีเพียงพวกนางสองคนเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกลอบสังหาร และไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย
มิหนำซ้ำ พวกนางยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับชายชราชุดดำอีกด้วย
ชินเหลียนเซินกับเฉินเป่ยหลินมีความสนิทสนมกับชายชราชุดดำ จนชายชราชุดดำถึงกับประกาศตนว่าติดหนี้บุญคุณเฉินเป่ยหลิน และยินดีทำตามคำขอร้องของเขาเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ และชายชราชุดดำถึงกับลงมือฆ่าคนที่ดูหมิ่นชินเหลียนเซิน… เฉินเป่ยหลินอาจจะสั่งให้ชายชราชุดดำไปฆ่าผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ เพื่อเป็นการกำจัดคู่แข่งให้แก่ชินเหลียนเซินก็เป็นได้
และเฉียวฟู่มีผู้คนไปขุดประวัติมาจนได้ทราบว่าท่านยายของนางนั้นเคยเป็นอดีตคนรักของชายชราชุดดำ
และตัวตนที่แท้จริงของชายชราชุดดำก็มีนามว่าราชาหินดำ ซึ่งเป็นผู้คนที่มาจากนอกอาณาจักรเล่ยฉื่อ
จากข่าวลือ ในอดีตนั้น ราชาหินดำได้ตกหลุมรักกับท่านยายของเฉียวฟู่ แต่ความรักของพวกเขาถูกกีดกันเนื่องจากชาติกำเนิดและวิถีทางสายเลือดที่แตกต่างกัน สุดท้าย ราชาหินดำก็ต้องถูกขับไล่ออกไปจากอาณาจักรเล่ยฉื่อ แต่ผู้คนคิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะกลับมาอีกครั้งในฐานะยอดฝีมือที่น่ากลัว
แน่นอนว่าชายชรากลับมาเพื่อแก้แค้น
และบรรดาผู้คนที่เคยขัดขวางความรักของเขาในอดีต บัดนี้ ก็กลายเป็นอาจารย์อาวุโสในสำนักศึกษาต่าง ๆ หมดสิ้น
การสอบประจำปีของสำนักศึกษาฉิวจื่อเป็นกิจกรรมที่รวมตัวผู้คนจากสำนักต่าง ๆ ให้มาอยู่รวมกันได้มากที่สุด
ดังนั้น ชายชราชุดดำและเฉียวฟู่จึงมีแรงจูงใจในการก่อเหตุ
แม้ว่าเฉียวฟู่จะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากข้องเกี่ยวกับราชาหินดำ แต่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้บ้างว่านั่นจะไม่ได้เป็นเพียงละครฉากหนึ่ง?
ชายชราชุดดำแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มีผู้ใดบ้างไม่อยากญาติดีด้วย?
เมื่อกระแสมวลชนเป็นเช่นนี้ แรงกดดันที่มีต่อชินเหลียนเซินกับเฉียวฟู่ก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ
จวนที่พักของสำนักชูซานถูกบุกรุกด้วยผู้คนที่โกรธแค้น มีการวางเพลิงและทำลายทรัพย์สิน อาจารย์และศิษย์ของสำนักชูซานออกมาขัดขวาง เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก บางคนหายตัวเป็นปริศนาและบางคนก็ต้องรีบหลบหนีไป…
สองพี่น้องตระกูลเฉียวต้องถูกนำตัวไปพักอยู่ในหอคัมภีร์ค้ำฟ้าเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับพวกนาง
แต่ทางด้านของชินเหลียนเซินกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย
เหตุผลแรกนั้นเป็นเพราะว่าจวนที่พักที่นางอาศัยอยู่เป็นพื้นที่ของแขกระดับสูง หากไม่ได้รับอนุญาต ผู้คนก็จะเข้าไปโดยพลการไม่ได้เด็ดขาด
เหตุผลที่สองเป็นเพราะว่าเฉินเป่ยหลินน่ากลัวเกินไป ก่อนหน้านี้ เคยมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาตะโกนว่า
“ชินเหลียนเซิน เจ้าจงไสหัวออกไปซะ”
“ชินเหลียนเซิน เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะศึกษาในสำนักฉิวจื่อ”
แล้วเฉินเป่ยหลินก็ปรากฏตัวออกมาหักแขน หักขา เลาะฟันคนเหล่านั้นจนหมดปาก...
เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้เสียสติที่ไม่ต้องใช้เหตุผลในการกระทำเรื่องราวต่าง ๆ เลย
สุดท้าย ก็ไม่มีผู้ใดกล้ามาส่งเสียงตะโกนหน้าจวนที่พักของพวกเขาอีกแล้ว
ค่ำคืนนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในคืนที่เกิดความวุ่นวายโกลาหลมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของภูเขาเหวินเต้า
ร้านค้าและบ้านเรือนผู้คนจำนวนมากถูกบุกรุกทำลาย เกิดความเสียหายไม่ใช่น้อย
ความวุ่นวายโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนจำนวนมากวิตกกังวล
แต่ก็ทำให้ใครอีกหลายคนเกิดความทะเยอทะยานเช่นกัน
แล้วค่ำคืนอันยาวนานก็ผ่านพ้นไปในที่สุด!