เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1915 ออกฤทธิ์เมื่อไหร่
ตอนที่ 1,915 ออกฤทธิ์เมื่อไหร่
ช่วงเวลาพักเที่ยงผ่านพ้นไป
การสอบวิชาสุดท้ายในรอบบ่ายเริ่มต้นขึ้น
นี่คือวิชากลยุทธ์ศาสตร์
แม้ว่าชื่อวิชาจะเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ แต่เนื้อหาข้อสอบโดยส่วนใหญ่นั้นจะเกี่ยวกับความรู้ในประวัติศาสตร์ขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษผู้บุกเบิกทั้งยี่สิบสี่สายเลือด
และข้อสอบเกินครึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
สำหรับประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งเส้นทางดาราจักรนั้น องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คือผู้กอบกู้เผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาจากความมืดมนของยุคแห่งการล่มสลายครั้งที่สอง มือหนึ่งของท่านสร้างอารยธรรมให้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็สร้างยี่สิบสี่สายเลือดขึ้นมา เพราะฉะนั้น โลกที่ทุกคนดำรงอยู่ในทุกวันนี้ล้วนเป็นผลมาจากความสามารถขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น
และสำหรับผู้เข้าสอบสายเลือดผู้เยียวยานั้น พวกเขาล้วนทราบดีว่าข้อสอบในวิชานี้มีความยากมากกว่าข้อสอบในเจ็ดวิชาที่ผ่านมาหลายเท่า
ในช่วงเวลาแห่งการสอบ ฝูงชนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็มายืนรอคอยอยู่หน้าประตูลานทำข้อสอบ
ชายชราชุดดำก็มาปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน
ชายชราชุดดำเดินไปที่แผ่นหินประกาศผลคะแนนสอบในวิชาก่อนหน้านี้
เมื่อเขามองเห็นลำดับคะแนน ชายชราก็หัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันมาหาหลินเป่ยเฉินและกล่าวว่า “เจ้าหนู นำสุราออกมาอีก”
หลินเป่ยเฉินรีบนำขวดไวน์ที่ผสมเมทานอลยื่นให้แก่ชายชราโดยไม่ลังเล
ชายชรารับขวดไวน์ไปเปิดฝาจุกออกและกระดกดื่มทันที
“หืม ดูเหมือนรสชาติจะแปลกไปเล็กน้อย ข้ารู้สึกได้เลยว่าสุรามีฤทธิ์แรงขึ้น”
ชายชราพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
งั้นก็ดื่มซะให้พอใจเลยแล้วกัน!
หลินเป่ยเฉินแอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจ
เขาสั่งซื้อสารเมทานอลมาจากในอินเทอร์เน็ต โดยไม่ทราบเลยว่ามันจะออกฤทธิ์ต่อชายชราชุดดำอย่างไรบ้าง
แต่ฟังจากปากคำของหวังเฟิงหลิว หลินเป่ยเฉินก็พอจะได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าชายชราที่มีนามว่าราชาหินดำผู้นี้เป็นผู้คนของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย ซึ่งถือเป็นศัตรูโดยตรงกับหลินเป่ยเฉิน แม้เด็กหนุ่มจะทราบดีว่าชายชรามาที่อาณาจักรเล่ยฉื่อเพื่อล้างแค้นเรื่องราวในอดีตของตนเอง แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่ประมาท ดังนั้นเขาต้องรีบหาทางกำจัดชายชราผู้นี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
“เจ้าหนู เจ้าไม่ดื่มบ้างหรือ?”
ชายชราชุดดำจ้องมองหลินเป่ยเฉิน
“วันนี้ข้าน้อยดื่มไปแล้วขอรับ”
หลินเป่ยเฉินตอบ “ข้าน้อยจะดื่มเพียงวันละห้าถ้วยเท่านั้น และวันนี้ข้าน้อยก็ดื่มไปครบแล้ว”
ชายชราชุดดำมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย
แม้เขาจะไม่เข้าใจ แต่ชายชราก็ไม่ได้รบเร้าเด็กหนุ่มอีก สุราทั้งหมดจึงตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“เฮ้อ สุราที่ประเสริฐ เราผู้เฒ่าไม่เคยดื่มสุราดีเช่นนี้มานานแล้ว”
ชายชราชุดดำอารมณ์ดีขึ้นมาในพริบตา กล่าวเสียงดังว่า “ทุกครั้งที่เราฆ่าคน เราก็ต้องดื่มสุราก่อนเสมอ ยิ่งสุราแรงเท่าไหร่ จิตสังหารก็ยิ่งแรงกล้าเท่านั้น และเราผู้เฒ่าก็จะสามารถฆ่าคนได้มากขึ้น… เจ้าหนู สุราของเจ้ามีฤทธิ์แรงพอที่จะทำให้เราผู้เฒ่าฆ่ากงซานอิ๋งเฉวี่ยนได้แล้ว… เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นของตอบแทนเล่า?”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา สายตาของคนรอบข้างก็จ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉินเป็นจุดเดียว
“เจ้าคนชั่วช้าสามานย์”
อาจารย์ท่านหนึ่งจากสำนักตงหลินตะโกนใส่หลินเป่ยเฉินอย่างทนไม่ไหว
พลั่ก!
หลินเป่ยเฉินไม่ปล่อยให้ชายชราชุดดำลงมือ เขารีบซัดฝ่ามือกระแทกหน้าอกคนผู้นั้นลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศตีลังกาสามร้อยหกสิบองศาก่อนจะร่วงหล่นกระแทกพื้นอย่างแรง… ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าอาจารย์ท่านนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“ข้าน้อยขอสิ่งใดก็ได้ใช่ไหมขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินหันกลับมาจ้องมองที่ชายชราชุดดำ
ชายชราขมวดคิ้วและยิ้มอย่างเยือกเย็น “อย่าโลภมากเกินไป ห้ามพูดถึงโลหิตพิสุทธิ์อีก”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่นและกล่าวว่า “งั้นข้าน้อยขอให้ท่านออกไปจากอาณาจักรเล่ยฉื่อ และเลิกล้มการล้างแค้นกงซานอิ๋งเฉวี่ยนได้หรือไม่?”
ชายชราชุดดำยกแขนเสื้อเช็ดคราบสุราที่มุมปาก ก่อนถามว่า “สุราของเจ้ามีค่าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ขึ้นอยู่กับว่าผู้ดื่มสุราคิดว่าสุรานี้มีค่ามากเพียงพอหรือไม่?”
ชายชราส่ายหน้า ตอบว่า “เราว่ามันไม่มีค่ามากพอ”
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจ “งั้นก็ไม่มีอย่างอื่นแล้วขอรับ”
ชายชราชุดดำยิ้มกว้าง หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “เจ้าหนู เจ้าเป็นคนฉลาดและคนฉลาดมักจะไม่กระทำเรื่องโง่เขลา สุราของเจ้าสามารถเปลี่ยนชีวิตเจ้าได้ เราผู้เฒ่าขอรับปากว่าตราบใดที่เจ้าไม่เข้ามาแทรกแซงเรื่องของเรา เราผู้เฒ่าจะปล่อยให้เจ้าได้ออกไปจากอาณาจักรเล่ยฉื่ออย่างปลอดภัย”
หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นยิงลำแสงออกไป
เพล้ง!
แล้วขวดไวน์ก็ระเบิดกระจาย
ของเหลวที่ผสมเมทานอลสาดกระจายอยู่บนพื้นดิน
“งั้นท่านก็ไม่มีสิทธิ์ดื่มสุราของข้า”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “คำพูดของท่านช่างไร้ความหมายสิ้นดี”
ชายชราชุดดำหรี่ตาลง จิตสังหารแรงกล้าถูกปลดปล่อยออกมา แล้วมุมปากของเขาก็ยกตัวเป็นรอยยิ้ม “ประเสริฐ เจ้าหนู เจ้าทำให้เราผู้เฒ่าซาบซึ้งใจในความกล้าหาญของเจ้าจริง ๆ งั้นข้าจะปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน”
เขาโยนคอขวดไวน์ที่แตกหักในมือทิ้งไป ดวงตากลับมามีความสงบสุขุม จิตสังหารสลายตัวลงไป
หลินเป่ยเฉินรีบเก็บปืน ยกมือจับคางใช้ความคิด
ราชาหินดำเป็นคนเจ้าอารมณ์ เป็นคนในลักษณะที่เมื่อสักครู่นี้ยังยิ้มให้กัน แต่ในลมหายใจต่อมาก็พร้อมที่จะฆ่ากันได้แล้ว
รอบก่อนตอนที่หลินเป่ยเฉินช่วยเหลือกลุ่มบัณฑิตจากสำนักตงหลิน เขาเองก็ยังถูกชายชราโจมตีใส่ แต่บัดนี้ หลินเป่ยเฉินถึงกับระเบิดขวดสุราที่ชายชราถืออยู่ในมือ ทว่าชายชรากลับไม่ถือโทษโกรธเคือง นี่มีคำอธิบายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…
ราชาหินดำต้องการเก็บพลังเอาไว้ใช้สู้กับกงซานอิ๋งเฉวี่ยน
นี่คือการต่อสู้ระหว่างสองผู้แข็งแกร่ง
ทุกคนล้วนทราบดีว่าเมื่อการสอบในช่วงบ่ายจบลงและการประกาศคะแนนสอบผ่านพ้นไป นั่นก็ได้เวลาที่ราชาหินดำกับกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะต้องต่อสู้กันแล้ว
ดูจากความตึงเครียดของราชาหินดำ นี่แสดงให้เห็นว่าชายชราไม่มั่นใจเลยว่าตนเองจะคว้าชัยชนะได้หรือไม่
ดังนั้น ชายชราจึงจำเป็นต้องเก็บออมพลังทุกส่วนของตนเองเอาไว้ก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยา
เท่ากับเขากำลังอยู่ในดงของศัตรู
“หากสำนักศึกษาฉิวจื่อถูกราชาหินดำทำลายลงไป พี่ชินของเราก็ไม่มีที่ให้ร่ำเรียนน่ะสิ อีกอย่าง ราชาหินดำมาจากเผ่ามนุษย์ทะเลทราย ถือว่าเป็นศัตรูโดยตรงของเราอยู่แล้ว ในเมื่อใช้สุราขอสงบศึกไม่เป็นผล… งั้นเราก็คงต้องขอเลือกข้างกงซานอิ๋งเฉวี่ยนเต็มตัว”
หลินเป่ยเฉินเข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างแจ่มแจ้ง
เขาเริ่มวางแผนการเกี่ยวกับบทบาทของตนเองในการต่อสู้ระหว่างราชาหินดำกับกงซานอิ๋งเฉวี่ยนที่กำลังจะมาถึง
แต่หลังจากใช้ความคิดอยู่สักครู่ เด็กหนุ่มก็ได้ค้นพบความจริงอันน่าเศร้า…
นี่คือการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่แท้จริงสองคน ส่วนตัวเขาเองเปรียบเสมือนเศษสวะผู้หนึ่งเท่านั้น…
เขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย
นี่คือเรื่องราวที่น่าตลกเป็นอย่างยิ่ง
หลินเป่ยเฉินมีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักราตอนกลาง แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้
หากเขาอยู่ในขั้นจอมเทพจักราตอนปลาย เขาก็คงลองชาร์จพลังใส่ปืนกลมือและสังหาราชาหินดำไปนานแล้ว
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ…
สารเมทานอลจะออกฤทธิ์เมื่อไหร่?