เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1921 อาจารย์ใหญ่เสียชีวิตแล้ว
ตอนที่ 1,921 อาจารย์ใหญ่เสียชีวิตแล้ว
“สถานการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกท่านยังไม่รีบลงมืออีกหรือ?”
หลี่ซืออี้กวาดสายตาจ้องมองบรรดาอาจารย์อาวุโสจากสำนักอื่น ๆ “อย่าลืมข้อตกลงของพวกเราสิ”
บรรดาอาจารย์อาวุโสจากสำนักต่าง ๆ พลันมีสีหน้าลังเลใจขึ้นมาในทันใด
หลี่กวงอวี้ร้องตะโกนขึ้นมาว่า “พวกท่านทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงไม่ปรากฏตัวออกมา? นั่นเป็นเพราะว่านางเลื่อนขั้นพลังไม่สำเร็จ ร่างกายจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส นางจึงไม่อาจรับมือราชาหินดำได้อย่างแน่นอน การต่อสู้ในวันนี้ พวกเราจะเป็นฝ่ายชนะ หากพวกท่านไม่ช่วยเหลือพวกเรา ในอนาคตข้างหน้า ก็อย่าหวังพึ่งพิงสำนักตงหลินก็แล้วกัน”
ครั้งนี้ สีหน้าของใครหลายคนเริ่มแปรเปลี่ยนไป
จริงด้วยสินะ
เหตุการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้ หากเป็นในสถานการณ์ปกติ กงซานอิ๋งเฉวี่ยนต้องปรากฏตัวออกมาแล้ว
แต่นี่นางยังไม่ปรากฏตัวออกมา
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่ากงซานอิ๋งเฉวี่ยนเลื่อนขั้นพลังไม่สำเร็จ ร่างกายจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะธาตุไฟเข้าแทรก
แต่ด้วยสถานะที่สูงส่งของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงไม่มีผู้ใดกล้าคิดสงสัยในเรื่องนี้
แต่วันนี้ สถานการณ์บานปลายเกินควบคุม นอกจากอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะไม่ปรากฏตัวออกมา แม้แต่เสียงของนางก็ไม่มีการเอื้อนเอ่ยเลยสักคำ หรือว่าสิ่งที่หลี่กวงอวี้พูดออกมานั้นจะเป็นความจริง?
“อาจารย์ฟาง เรื่องราวบานปลายมากเกินไปแล้ว เชิญตัวอาจารย์ใหญ่ออกมาแก้ไขปัญหาเถอะ”
รองอาจารย์ใหญ่จากสำนักศึกษาไทปิงกล่าว
“ถูกต้อง มีแต่อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเท่านั้นถึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้”
รองอาจารย์ใหญ่จากสำนักชูซานส่งเสียงสนับสนุน
“ให้อาจารย์ใหญ่แสดงตัวออกมาเถอะ”
“หากอาจารย์ใหญ่แสดงตัวออกมา พวกเราก็ไม่มีสิ่งใดติดใจสงสัยอีกแล้ว”
“ได้โปรดเชิญตัวอาจารย์ใหญ่ออกมาด้วย”
อาจารย์อาวุโสจากสำนักศึกษาต่าง ๆ ประสานเสียงกันเป็นหนึ่งเดียว
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าแผนการอันชั่วร้ายของสองพ่อลูกตระกูลหลี่นั้น จะส่งผลกระทบวุ่นวายไปทั้งอาณาจักรเล่ยฉื่อเช่นนี้
ทว่าฟางซื่อหลี่ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดคำใด
“นี่พวกท่านเชื่อคำพูดของคนทรยศอย่างหลี่ซืออี้จนสงสัยในตัวของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนแล้วงั้นรึ?”
หลี่เสี่ยวเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
กลุ่มของรองอาจารย์ใหญ่จากสำนักศึกษาต่าง ๆ มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไป ไม่มีผู้ใดกล้าพูดคำใดออกมาอีกแล้ว
หากจะว่ากันตามความเป็นจริง หลายปีที่ผ่านมาพวกเขาเก็บงำความไม่พอใจที่มีต่อสำนักศึกษาฉิวจื่อมาโดยตลอด เพียงแต่ว่ากงซานอิ๋งเฉวี่ยนมีความแข็งแกร่งมากเกินไป สำนักศึกษาต่าง ๆ จึงไม่กล้าสร้างความขัดแย้ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง
ผู้คนจากสำนักศึกษาทั้งหลายเผชิญหน้าทางเลือกที่ต้องตัดสินใจ
การตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคตของสำนักตนเอง
ดังนั้น พวกเขาจึงต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวัง
“ฮ่า ๆๆ พวกเจ้าสุนัขรับใช้ทั้งสี่ตัวก็มีดีแค่คำพูดเท่านั้น”
หลี่ซืออี้ระเบิดเสียงหัวเราะ มั่นใจมากขึ้นว่าข่าวที่ตนเองเคยได้รับทราบมาก่อนหน้านี้เป็นความจริง “ไปตามตัวกงซานอิ๋งเฉวี่ยนออกมาซะ แล้วมาดูกันเถอะว่านางยังสมควรได้รับความเคารพจากผู้คนอยู่อีกหรือไม่?”
บัดนี้ ศิษย์ของสำนักตงหลินได้มายืนล้อมรอบคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่สองพ่อลูกตระกูลหลี่เรียบร้อยแล้ว
และหลี่ซืออี้ก็เลือกผู้ติดตามของตนเองที่เชื่อใจได้ก่อตั้งค่ายกลคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่บุตรชายของตนเองโดยเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนจากสำนักต่าง ๆ ที่เคยรับใช้พวกเขาก่อนหน้านี้ ก็รีบเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับสองพ่อลูกตระกูลหลี่อย่างไม่รอช้า
แต่แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังคงยืนรับชมเหตุการณ์ต่อไป
ส่วนบรรดาอาจารย์อาวุโสจากสำนักศึกษาชื่อดังอย่างหอตำราซางฉี สำนักชูซาน และสำนักศึกษาอื่น ๆ ต่างก็เลือกอยู่ฝ่ายเดียวกับสำนักศึกษาฉิวจื่อหมดสิ้น
การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นเพราะความตายของเฉาซูอี้ หอตำราซางฉีต้องการล้างแค้นพ่อลูกตระกูลหลี่ ส่วนสำนักชูซานก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉียวฟู่กับเฉียวปี้อี๋ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเลือกอยู่ฝ่ายเดียวกับสำนักศึกษาฉิวจื่อไปโดยปริยาย
หลินเป่ยเฉินจับคางและเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น
แต่เขาก็แอบสงสัยอยู่ในใจว่า ‘หรือข่าวลือเกี่ยวกับกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะเป็นความจริง?’
ทว่า การที่นางสามารถสลายการโจมตีของราชาหินดำได้เมื่อวันก่อน นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่ากงซานอิ๋งเฉวี่ยนยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย
บัดนี้ นักพรตหญิงชินได้รับการคัดเลือกให้เป็นลูกศิษย์โดยตรงของกงซานอิ๋งเฉวี่ยน เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องเลือกยืนอยู่ข้างเดียวกับสำนักศึกษาฉิวจื่ออย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปัญหาก็คือกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะสามารถรับมือกับราชาหินดำได้จริง ๆ หรือไม่ หากไม่มีผู้ใดสามารถจัดการกับราชาหินดำได้จริง ถ้าอย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
หลินเป่ยเฉินเริ่มคิดหาทางหนีทีไล่ในการพานักพรตหญิงชินและคนอื่น ๆ หลบหนีกลับไปที่เมืองหยุนเมิ่ง
ให้ตายเถอะ
นี่เป็นเพราะว่าเขาอ่อนแอมากเกินไป
หลินเป่ยเฉินมั่นใจว่าหากตนเองแข็งแกร่งมากกว่านี้ เขาก็คงไม่ต้องคิดหาทางหนีเช่นนี้แน่
เฮ้อ ต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นแล้วสิ!
หลินเป่ยเฉินพึมพำอยู่ในใจ สายตาจ้องมองยังทิศทางของราชาหินดำ
ราชาหินดำยังคงนั่งหลับตาและปลดปล่อยพลังกดดันออกมาจากร่างกาย
นั่งนิ่งเฉยราวกับเป็นคนตาย
สมแล้วที่เป็นยอดฝีมือตัวจริง ขนาดยังไม่ทันขยับตัว พลังกดดันก็แทบทำให้ผู้คนหายใจไม่ออกแล้ว
ราชาหินดำเป็นผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพัน งั้นพลังวิญญาณและเลือดในร่างกายของเขาก็น่าจะมีพลังมากกว่าผู้ใช้สายเลือดวิถีอื่นสินะ?
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วใช้ความคิด
“กงซานอิ๋งเฉวี่ยน เหตุใดท่านยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก?”
หลี่ซืออี้ส่งเสียงตะโกนลั่นท้องฟ้า “พวกเราอยากเห็นการต่อสู้ระหว่างท่านกับราชาหินดำแล้ว หรือว่าท่านหวาดกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวออกมา?”
ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวจากด้านในของสำนักศึกษา
ไม่มีคลื่นพลังปลดปล่อยออกมา
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยังคงไม่แสดงตัว
แม้แต่คำพูดสักคำก็ไม่มีให้ได้ยิน
บรรยากาศจึงแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
แม้บางคนจะไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ซืออี้ แต่ก็รับทราบแล้วว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
ฟางซื่อหลี่และคณะอาจารย์อาวุโสยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่หลินเป่ยเฉินก็แอบสังเกตเห็นว่าสี่เสาหลักของสำนักศึกษาฉิวจื่อมีความกังวลปรากฏขึ้นในแววตาที่ไม่อาจปิดบังได้เลย
หรือว่า…
หลินเป่ยเฉินเองก็เริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วเช่นกัน
ทันใดนั้น สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น…
“กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเสียชีวิตแล้ว กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเสียชีวิตแล้ว”
เสียงตะโกนดังขึ้นจากในสำนักศึกษาฉิวจื่อ
แล้วลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งออกมา
ลำแสงสายนั้นเป็นร่างของเจิ้งซินหลู่ หนึ่งในอาจารย์อาวุโสของสำนักศึกษาฉิวจื่อ
เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ ในมือถือคัมภีร์ทองคำเล่มหนึ่งขณะกล่าวเสียงดังว่า “อาจารย์ใหญ่เสียชีวิตแล้ว นางล้มเหลวในการเลื่อนขั้นพลัง เมื่อรับการโจมตีจากราชาหินดำเมื่อวันก่อน อาจารย์ใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด… นางตายแล้ว อาจารย์ใหญ่ตายแล้ว…”
เจิ้งซินหลู่เป็นหนึ่งในอาจารย์อาวุโสของสำนักศึกษาฉิวจื่อ
มีสถานะสูงส่ง
เป็นรองก็แต่เพียงสี่เสาหลักอย่างพวกฟางซื่อหลี่เท่านั้น
เมื่อฝูงชนได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของพวกเขาก็แทบกระดอนออกมาอยู่นอกหน้าอก
ดูเหมือนว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะได้รับการยืนยันแล้ว!!