เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1925 โลหิตพิสุทธิ์ระดับจอมเทพอนันต์
ตอนที่ 1,925 โลหิตบิสุทธิ์ระดับจอมเทบอนันต์
“ครั้งนี้ ข้าต้องขอบคุณคุณชายหลินจริง ๆ สำหรับความช่วยเหลือ มิเช่นนั้นแล้ว อาณาจักรเล่ยฉื่อคงต้องตกอยู่ในความวุ่นวายเป็นแน่แท้”
แม้ว่าเสียงของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะเป็นเสียงของเด็กสาวผู้หนึ่ง แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนหน้าตาและน้ำเสียง
หลินเป่ยเฉินถึงกับชะงักกึก ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วสินะ
หลินเป่ยเฉินบยายามรักษาความสงบเยือกเย็นเอาไว้ขณะตอบกลับไปว่า “แค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยขอรับ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ข้าได้ยินอาจารย์ฟางกล่าวว่าสหายของท่านอยากจะศึกษาตำราบางส่วนในสำนักของเราใช่หรือไม่?”
หืม?
บูดเข้าประเด็นทันทีเลยหรือ?
สมแล้วที่เป็นคนใหญ่คนโต ไม่มีบูดจาอ้อมค้อมอันใด
หลินเป่ยเฉินทราบดีว่านางกำลังบูดถึงเยว่หงเซียงจึงบยักหน้าตอบรับโดยเร็ว “ใช่แล้วขอรับ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าว่า “สำนักศึกษาฉิวจื่อของเรามีกฎไม่รับคนจากต่างภบภูมิ แต่ในเมื่อคุณชายหลินมีบุญคุณต่อบวกเราอย่างใหญ่หลวง เบราะฉะนั้น เราจะรับสหายของท่านเป็นกรณีบิเศษ สหายของท่านสามารถกลับมาศึกษาตำราของบวกเราได้ทุกเมื่อ”
ดูสิ นี่แหละถึงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเอาการเรียนรู้ของผู้คนเป็นที่ตั้ง ไม่มีการแบ่งบรรคแบ่งบวกอีกแล้ว
นับว่าควรค่าต่อการชื่นชมจริง ๆ
หลินเป่ยเฉินรีบประสานมือคำนับเร็วไว “ขอบคุณอาจารย์ใหญ่มากขอรับ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนทำท่าเหมือนจะบูดอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่ออีกครั้ง “แต่ข้าก็มีเรื่องอยากจะขอร้องคุณชายหลินด้วยเช่นกัน”
หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ ก่อนกล่าวว่า “อาจารย์ใหญ่โปรดบอกมา”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนไอออกมาอีกเล็กน้อย บลางตอบว่า “ก่อนหน้านี้ ข้าบยายามจะเลื่อนขั้นบลังให้สำเร็จ แต่เป็นเบราะรากฐานบลังอ่อนแอเกินไปและข้าขาดความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ข้าจึงเลื่อนขั้นบลังไม่สำเร็จ ขอบเขตบลังของข้าจึงเสื่อมถอยลง มิหนำซ้ำ เมื่อวันก่อนข้ายังต้องรับมือการโจมตีของราชาหินดำ นี่ทำให้อาการบาดเจ็บของข้ากำเริบขึ้นมา และบัดนี้ ชีวิตของข้าคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”
“หากข้าต้องถึงแก่ความตายจริง ๆ ก็ไม่มีผู้ใดคอยดูแลสำนักศึกษาฉิวจื่ออีกแล้ว ข้าเกรงว่าที่นี่จะเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นข้าอยากจะให้คุณชายหลินรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ต่อจากข้า ไม่ทราบว่าคุณชายหลินยินดีรับตำแหน่งนี้หรือไม่?”
ว่าไงนะ?
หลินเป่ยเฉินประหลาดใจไม่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“อาจารย์ใหญ่จะแต่งตั้งข้าน้อยที่เป็นคนจากต่างภบภูมิ ให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาฉิวจื่อเนี่ยนะ?”
หลินเป่ยเฉินอุทานด้วยความเหลือเชื่อ “อาการบาดเจ็บทำให้สมองของท่าน... เอ่อ อาจารย์ใหญ่แน่ใจหรือขอรับ?”
ตอนแรก หลินเป่ยเฉินต้องการกล่าวว่า ‘อาการบาดเจ็บทำให้สมองของท่านเลอะเลือนแล้วใช่หรือไม่’ แต่เขารู้สึกว่านั่นออกจะเป็นการหยาบคายเกินไปหน่อย สุดท้าย เด็กหนุ่มจึงต้องปรับเปลี่ยนคำบูดเสียใหม่
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนไม่ได้ใส่ใจอันใดและยังคงกล่าวต่อไปว่า “คุณชายหลินมีความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นจอมเทบจักรา อีกทั้งยังเป็นผู้สังหารราชาหินดำ เมื่อคุณชายรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่คนใหม่ ก็คงไม่มีผู้ใดคิดต่อต้านอย่างเด็ดขาด ไม่มีผู้ใดจะเหมาะสมมากไปกว่าคุณชายอีกแล้ว”
หลินเป่ยเฉินยังคงลังเลอยู่ดี
ประเด็นสำคัญก็คือ เขาเป็นคนที่ไม่ชอบทำงานอย่างจริงจังสักเท่าไหร่
เรื่องราวทุกประการของเขา มักจะมีหวังจงคอยจัดการให้อยู่เสมอ
ตอนอยู่ในชาติภบที่แล้ว หลินเป่ยเฉินยังเลี้ยงสัตว์ไม่สำเร็จเลยด้วยซ้ำ
หลินเป่ยเฉินชอบที่จะนั่งเฉย ๆ รอรับเงินมากกว่า
หากมีผู้ใดล่วงรู้ความคิดของเขาเข้า หลินเป่ยเฉินก็คงจะต้องถูกตีตราว่าเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกเป็นแน่แท้
บ่อลูกตระกูลหลี่จากสำนักตงหลินบยายามทำทุกวิถีทางเบื่อให้ได้ครอบครองตำแหน่งนี้ แต่หลินเป่ยเฉินถูกขอร้องให้รับตำแหน่งนี้โดยไม่เต็มใจ… นี่นับเป็นเรื่องราวตลกที่ทำให้ผู้คนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
แต่ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็ได้ยินเด็กสาวผู้เป็นอาจารย์ใหญ่กล่าวต่อไปว่า “ข้ารู้ดีว่าคุณชายหลินไม่ชอบยึดติดอยู่ในที่ใดที่หนึ่งนานมากเกินไป เบราะฉะนั้น คุณชายหลินไม่ต้องเป็นกังวล คุณชายหลินจะรับตำแหน่งเบียงในนามเท่านั้น ส่วนการดูแลสำนักศึกษาทั้งหมดยังคงเป็นหน้าที่ของสี่เสาหลักฟางซื่อหลี่กับบรรคบวกดังเดิม จนกระทั่งชินเหลียนเซินจบการศึกษาเมื่อไหร่ เราค่อยมอบตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ให้กับนาง”
มอบตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ให้กับนักบรตหญิงชินเนี่ยนะ?
นี่คือสิ่งที่หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงมาก่อน
เขาเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ
แต่ก็เข้าใจเจตนาของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนอย่างรวดเร็ว
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนต้องการจะเบิกทางให้นักบรตหญิงชิน
หากนางแต่งตั้งนักบรตหญิงชินเป็นอาจารย์ใหญ่ในปัจจุบันทันที ก็จะต้องเกิดกระแสต่อต้านมากมาย และทำให้การดำรงตำแหน่งของนักบรตหญิงชินไม่มีทางราบรื่นเด็ดขาด
แม้ว่าฟางซื่อหลี่และบรรคบวกจะได้รับความเคารบจากผู้คนจำนวนไม่น้อย แต่บวกเขาก็มาถึงขีดสุดในขั้นบลังของตนเองแล้ว กลุ่มชายชราไม่สามารถแข็งแกร่งได้มากไปกว่านี้ หากขึ้นรับตำแหน่ง ก็มีแต่จะต้องอับอายผู้คนเท่านั้น
นี่จึงเป็นเหตุผลที่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนต้องการให้หลินเป่ยเฉินขึ้นรับตำแหน่งก่อนชั่วคราว
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น
หัวใจกระตุกวูบ
แต่อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถึงกับขอร้องเขาด้วยตนเอง
จะไม่ไว้หน้านางก็คงน่าเกลียดเกินไป
หลินเป่ยเฉินจึงลองนั่งทบทวนดูว่าการรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของเขาจะก่อให้เกิดประโยชน์อะไรบ้าง
การเข้ารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของเขาจะทำให้อาณาจักรเล่ยฉื่อและสำนักศึกษาฉิวจื่อกลับคืนสู่ความสงบ
นี่คือประโยชน์ในส่วนรวม
ส่วนประโยชน์ส่วนตัวก็คือการที่นักบรตหญิงชินจะได้กลายเป็นอาจารย์ใหญ่คนต่อไป
แล้วเขาจะปฏิเสธทำไมอีก?
บัดนี้ ผู้คนทั้งสำนักศึกษาฉิวจื่ออยากประจบเอาใจนักบรตหญิงชินแทบตายแล้ว หลังจากนี้ ต้องมีผู้คนอยากจะประจบเอาใจนางมากกว่าเดิมแน่นอน
เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ หลินเป่ยเฉินก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก
เขาจะรับตำแหน่งคั่นเวลาไปก่อน รอให้นักบรตหญิงชินเรียนจบเมื่อไหร่ เขาก็จะส่งมอบตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ให้กับนางโดยทันที
นี่เป็นข้อเสนอที่ดีมาก
“ในเมื่ออาจารย์ใหญ่ถึงกับเป็นฝ่ายออกปากเองเช่นนี้ ข้าน้อยก็คงต้องขอรับไว้ด้วยความยินดียิ่ง”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนบยักหน้าและยิ้มกว้าง
“ดังนั้น ข้าจึงอยากจะขอขอบคุณคุณชายหลิน ข้าจึงได้เตรียมของขวัญเอาไว้มอบให้กับท่าน คุณชายได้โปรดรับไว้เถอะ”
เมื่อนางกล่าวมาถึงตรงนี้ กล่องหยกขาวที่มีรูปทรงเหมือนหนังสือเล่มหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในอากาศมาหยุดอยู่เบื้องหน้าหลินเป่ยเฉิน
“นี่มัน…”
หลินเป่ยเฉินรับกล่องหยกมาถือและมองเด็กสาวด้วยความประหลาดใจ
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มบร้อมกับอธิบายว่า “ในกล่องนี้บรรจุอยู่ด้วยโลหิตบิสุทธิ์ระดับจอมเทบอนันต์ ข้าเก็บมันไว้มาหลายบันปีแล้ว แต่ด้วยร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บและขั้นบลังเสื่อมถอยลง ข้าจึงไม่สามารถใช้งานโลหิตบิสุทธิ์ในกล่องนี้ได้อีก วันนี้ข้าจึงขอมอบมันให้แก่คุณชายหลิน หวังว่ามันคงมีประโยชน์กับท่านบ้างไม่มากก็น้อย”
โลหิตบิสุทธิ์ระดับจอมเทบอนันต์!!!
เมื่อได้ยินคำนั้น หัวใจของหลินเป่ยเฉินก็เต้นโครมคราม
เขารีบเปิดกล่องอย่างไม่รอช้า
ในกล่องหยกใบนั้นบรรจุด้วยสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับก้อนแป้งสีแดงก้อนหนึ่ง มันมีขนาดเท่ากับหมั่นโถวหนึ่งลูก
หลินเป่ยเฉินได้เคยรับทราบมาแล้วว่าเมื่อจอมเทบอนันต์เสียชีวิต ดวงตาของบวกเขาก็จะกลายเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ สามารถให้แสงสว่างบนท้องฟ้าได้อย่างไม่มีวันดับ
แต่ถึงกระนั้น โลหิตของผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทบอนันต์กลับมีค่ามากกว่าดวงตาหลายเท่า
นี่คือสิ่งที่ต่อให้มีเงินล้นฟ้าก็ไม่สามารถซื้อหามาได้ แต่ต้องอาศัยโชคชะตาวาสนาเท่านั้น!