เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1926 เหตุผลที่แท้จริง
ตอนที่ 1,926 เหตุผลที่แท้จริง
หลินเป่ยเฉินไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตนเองจะโชคดีได้รับโลหิตพิสุทธิ์มาง่าย ๆ ขนาดนี้
นี่คือเรื่องราวที่งดงามยิ่งกว่าความฝันของเขาเสียอีก
“เอ่อ คือว่า…”
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยความกระตือรือร้นอีกครั้ง “มันมีค่ามากเกินไปขอรับ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดู “หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณชายหลิน พวกเราสำนักศึกษาฉิวจื่อก็คงต้องถูกทำลายโดยราชาหินดำไปเรียบร้อยแล้ว ความช่วยเหลือจากคุณชายคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และอีกอย่าง ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดมีขั้นพลังสูงส่งมากพอที่จะใช้งานโลหิตพิสุทธิ์ชุดนี้ได้ ดังนั้นคุณชายหลินอย่าได้เกรงใจเลย”
“หากเป็นเช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่เกรงใจแล้ว”
หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นยืนคารวะด้วยความนอบน้อม
และเขาก็รับโลหิตพิสุทธิ์ระดับจอมเทพอนันต์อย่างเป็นทางการ
หลินเป่ยเฉินมั่นใจว่าหลังจากนี้ตนเองต้องเลื่อนขั้นพลังได้สำเร็จแน่นอน
อย่างน้อย เขาก็ต้องเข้าสู่ขอบเขตจอมเทพจักราตอนปลาย
แต่ในอนาคตข้างหน้า นั่นก็แลกมากับการที่เขาต้องคุ้มครองสำนักศึกษาฉิวจื่อด้วยเช่นกัน
เมื่อกงซานอิ๋งเฉวี่ยนเห็นท่าทีของเด็กหนุ่ม นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ในที่สุด กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็สามารถใช้โลหิตพิสุทธิ์ชุดนี้ผูกมัดหลินเป่ยเฉินเข้ากับสำนักศึกษาของตนเองได้สำเร็จ
ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่นางก็มั่นใจได้แล้วว่าสำนักศึกษาฉิวจื่อจะยังคงอยู่รอดปลอดภัย
หลายคนอาจจะไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินเป่ยเฉิน แต่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนมองออกเป็นอย่างดี
นอกจากข้อมูลที่รายงานโดยฟางซื่อหลี่แล้ว กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยังใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาวิเคราะห์ลักษณะท่าทีของหลินเป่ยเฉิน และนางก็รู้ว่าตนเองจะประเมินเด็กหนุ่มผู้นี้ต่ำต้อยเกินไปไม่ได้เป็นอันขาด
หลายคนไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดนางจึงรับเด็กหัวทึบอย่างเฉียวปี้อี๋เข้าเป็นหนึ่งในศิษย์เอก
เหตุผลที่แท้จริงนั้นเรียบง่ายมาก...
เป็นเพราะว่าเฉียวปี้อี๋สนิทสนมกับหลินเป่ยเฉิน
ผู้ใดที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับหลินเป่ยเฉิน ผู้นั้นย่อมมีอนาคตที่สดใส
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนมีประสบการณ์ใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน นางจึงมองออกว่าหลินเป่ยเฉินเป็นคนไม่ธรรมดา และเด็กหนุ่มก็มักจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผลประโยชน์แก่คนรอบข้างเสมอ โดยเฉพาะคนใกล้ชิดของเขา ยิ่งมีความสนิทสนมกันมากเพียงใด ก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากเกินจินตนาการ
“ข้าได้ข่าวมาว่าศพของราชาหินดำอยู่ในมือของคุณชายหลินใช่หรือไม่?”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถามขึ้นมาอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าตอบรับว่าใช่
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถามต่อไปโดยทันที “ไม่ทราบว่าข้าขอดูหน่อยได้หรือไม่?”
นางจะดูศพเพื่ออะไรกันนะ?
หรือนางอยากเห็นว่าศัตรูตัวฉกาจของตนเองตายอย่างไร?
หลินเป่ยเฉินได้แต่คิดแล้วก็สงสัย แต่เขาก็นำศพของราชาหินดำออกมาจากพื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ของแอปสวิ่นเล่ยโดยไม่รอช้า
แม้จะเสียชีวิตมาได้นานพอสมควร แต่หน้าตาของราชาหินดำก็ยังคงเดิม
สภาพศพยังอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ
หลินเป่ยเฉินเคยพยายามเปลี่ยนท่าศพแล้ว
ปรากฏว่าศพของราชาหินดำมีความแข็งทื่อมากเกินไป หลินเป่ยเฉินพยายามจับเหยียดขาอยู่นานสองนานแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
เมื่อเห็นศพของราชาหินดำปรากฏขึ้นตรงหน้า อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็มีสีหน้าเคร่งขรึมมากขึ้น
นางลุกขึ้นยืนวาดนิ้วในอากาศลักษณะเหมือนกำลังเขียนอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น ลำแสงสีเงินก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วมือของนางไม่ต่างจากสายโซ่ที่รัดพันร่างกายของราชาหินดำ และหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ลำแสงเหล่านั้นก็พุ่งเข้าไปในรูจมูกของราชาหินดำ…
เชี่ย!
ขนาดตายแล้วยังจะทรมานซากศพอีกเหรอเนี่ย?
แม่นางท่านนี้จิตใจโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว
นางไม่เหลือจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์อยู่บ้างหรือไง?
หลินเป่ยเฉินอดขนลุกไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามปราม
หลังจากนั้น ใบหน้าของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็ซีดขาวมากขึ้น
นิ้วมือของนางสั่นเทา แต่ก็ยังคงปลดปล่อยพลังเวทมนตร์ต่อไป
และในที่สุด ลำแสงสายโซ่สีเงินก็ไหลคืนกลับออกมาจากรูจมูกของราชาหินดำ และมันก็กลับไปรวมตัวอยู่บนฝ่ามือของนางอีกครั้ง
“ตายแล้วจริง ๆ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนหอบหายใจเล็กน้อย ก่อนอธิบายว่า “เพียงแต่สภาพการตายแปลกประหลาดมากเกินไป ร่างกายยังคงสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผล แต่จิตวิญญาณสูญสลายดับสิ้น เกรงว่าตอนที่เขาตาย ราชาหินดำคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ…”
ปรากฏว่านางพยายามตรวจสอบว่าราชาหินดำเสียชีวิตจริงหรือไม่
นี่คือการตรวจสอบที่จำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีชนชั้นยอดฝีมืออย่างราชาหินดำถึงแก่ความตายง่ายดายเพียงนี้มาก่อน
ต้องเข้าใจว่าชื่อเสียงของราชาหินดำนั้นมีความแข็งแกร่งน่าหวาดกลัว
ดังนั้น แม้ภายนอกชายชราจะดูเหมือนเสียชีวิตไปแล้ว แต่ขอแค่มีพลังวิญญาณหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ราชาหินดำก็สามารถฟื้นคืนชีพกลับจากความตายได้เสมอ
นั่นคือสิ่งที่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนหวาดกลัว
แต่บัดนี้ นางสามารถวางใจได้แล้ว
หลินเป่ยเฉินเฝ้ามองการตรวจสอบของอาจารย์ใหญ่อย่างใกล้ชิด
นางไม่ทราบว่าเขายืนยันเรื่องนี้มานานแล้ว
เมื่อจิตใจผ่อนคลายลง กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็เอ่ยถามด้วยความระมัดระวังว่า “คุณชายหลิน ไม่ทราบว่าท่านใช้วิธีการใดในการสังหารราชาหินดำหรือ?”
แน่นอนว่าสำหรับนาง วิธีการสังหารในรูปแบบนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ทั้งมวล
หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดเล็กน้อย ก็ให้คำตอบในที่สุด “ข้าน้อยวางยาพิษในสุราของเขาขอรับ”
เรื่องนี้ไม่มีอันใดให้น่าอับอาย เพราะราชาหินดำเป็นคนดื่มเข้าไปเอง
“ในโลกนี้มียาพิษอยู่ไม่กี่ชนิดที่สามารถฆ่าผู้คนระดับราชาหินดำได้ แต่เท่าที่ข้าทราบ ยาพิษเหล่านั้นไม่ได้มีผลลัพธ์อย่างที่ท่านสังหารราชาหินดำเลย… คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณชายหลินยังเป็นผู้ชำนาญการใช้ยาพิษอีกด้วย”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
ในฐานะผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยา กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเข้าใจว่าตนเองมีขอบเขตความรู้เกี่ยวกับยาพิษมากพอสมควร แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ายังคงมียาพิษชนิดหนึ่งที่สามารถสังหารยอดฝีมืออย่างราชาหินดำได้ง่ายดายขนาดนี้…
“ความจริงนั้น ราชาหินดำเป็นคนที่น่าสงสารผู้หนึ่ง”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนถอนหายใจออกมาอีกครั้งด้วยความเศร้า “คนผู้นี้เกิดที่บริเวณนอกอาณาจักรเล่ยฉื่อ เขามีสายเลือดขั้นสูง จึงมีพรสวรรค์ในการฝึกวิชา โดยเฉพาะการใช้สายเลือดผู้คงกระพัน นั่นทำให้เขามีความแข็งแกร่งเกินหน้าผู้คนที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน”
“แต่หลังจากนั้น เขาก็ได้เดินทางมาที่อาณาจักรเล่ยฉื่อ และตกหลุมรักกับเฉียวเหมี่ยวอี้ ซึ่งในขณะนั้นนางเป็นหัวหน้าศิษย์ประจำสำนักชูซาน พวกเขามีความเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก แต่ด้วยความที่เป็นคนมุทะลุดุดันยอมหักไม่ยอมงอมากเกินไป ราชาหินดำจึงมีปัญหากับผู้คนในสำนักชูซาน เช่นเดียวกับผู้คนในอาณาจักรเล่ยฉื่อ สุดท้าย ราชาหินดำก็กลายเป็นศัตรูของผู้คนจำนวนมาก...”
หืม?
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเริ่มเล่าเรื่องแล้วหรือ?
หลินเป่ยเฉินรีบกางหูรับฟังด้วยความตั้งใจ
มีใครบ้างไม่ชอบเรื่องซุบซิบนินทา?
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนกล่าวต่อไปว่า “ในตอนนั้น มีคนลอบโจมตีราชาหินดำ และทำให้เขาได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ธาตุไฟแตกซ่าน เป็นผลให้เขาเสียสติควบคุมตนเองไม่ได้ ราชาหินดำจึงพลั้งมือทำร้ายเฉียวเหมี่ยวอี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส…”