เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1928 พบกันช้าไป
ตอนที่ 1,928 พบกันช้าไป
หลินเป่ยเฉินลองม้วนตัวตีลังกากลับหลังสามตลบ
ราชาหินดำก็ทำตามได้อย่างไม่มีปัญหา
ไม่ต่างไปจากหุ่นยนต์ลอกเลียนแบบ
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนเห็นเช่นนั้นก็ต้องตกตะลึง
สมแล้วที่เป็นเด็กหนุ่มผู้นี้
ความสามารถในการเชื่อมวิญญาณช่างน่าสะพรึงกลัว
ใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
หลินเป่ยเฉินก็สามารถควบคุมร่างแยกร่างใหม่ของตนเองได้อย่างชำนาญ
หลินเป่ยเฉินสามารถควบคุมร่างของราชาหินดำได้ตามใจปรารถนา
เด็กหนุ่มทราบดีว่านี่เป็นโอกาสดีสำหรับตนเอง
ราชาหินดำมีพลังที่แท้จริงแข็งแกร่งเกินจินตนาการ และการได้ควบคุมร่างกายของชายชรา หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกว่าตนเองพลอยแข็งแกร่งมากขึ้นไปด้วย
“คารวะนายท่าน”
ร่างของราชาหินดำกล่าว แม้จะมีน้ำเสียงเป็นชายชราดังเดิม แต่เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของหลินเป่ยเฉิน ราชาหินดำก็ประสานมือก้มศีรษะให้แก่เด็กหนุ่มราวกับได้ตายแล้วเกิดใหม่ก็ปาน
ตอนแรก หลินเป่ยเฉินตั้งใจจะใช้แอปเมจิก คาเมร่าแปลงโฉมราชาหินดำเป็นคนอื่น แต่คิดไปคิดมา เขาไม่ควรทำเรื่องนั้นต่อหน้าอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน
เมื่อตัดสินใจได้ดังนี้ เขาก็จัดการเก็บร่างของราชาหินดำเข้าไปในพื้นที่ฝากไฟล์ออนไลน์อีกครั้ง
“ไม่ทราบว่าคุณชายหลินรู้จักเผ่ามนุษย์ทะเลทรายหรือไม่?”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นต่อพรสวรรค์ของหลินเป่ยเฉินและเริ่มเปิดประเด็นใหม่
หลินเป่ยเฉินผงกศีรษะตอบว่า “พอได้ยินชื่อมาบ้าง”
ก็เป็นศัตรูเก่าของเขานี่นา
“เช่นนั้นคุณชายก็ต้องรู้ว่าราชาหินดำเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกมันทุ่มเททรัพยากรให้เขาเป็นจำนวนมาก แต่การที่ท่านสังหารราชาหินดำเช่นนี้ เผ่ามนุษย์ทะเลทรายคงไม่อยู่นิ่งเฉยแน่”
สีหน้าของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนมีความเคร่งขรึมจริงจังมากขึ้นขณะกล่าวต่อ “พวกเราพยายามจะช่วยปิดข่าวให้ท่านก็แล้วกัน แต่ก็คงถ่วงเวลาได้ไม่นานนัก เผ่ามนุษย์ทะเลทรายมีหูตากว้างไกล ข้าหวังว่าพวกเราจะพอถ่วงเวลาให้คุณชายเตรียมการรับมือการล้างแค้นจากเผ่ามนุษย์ทะเลทรายได้รอบคอบรัดกุมที่สุด แต่ที่สำคัญก็คือ คุณชายจะประมาทพวกมันไม่ได้เป็นอันขาด”
“นี่ไม่ต่างจากที่โบราณกล่าวว่าในเมื่อเป็นสังคัง ก็จงอย่าหวาดกลัวอาการคัน”
หลินเป่ยเฉินตอบเสียงเรียบ “ข้าน้อยกับเผ่ามนุษย์ทะเลทรายมีหนี้แค้นกันอยู่แล้วขอรับ ก่อนหน้านี้ ข้าก็ฆ่าคนของพวกมันไปไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังอยากจะจับตัวข้าน้อยไปทดลอง… เฮอะ ในเมื่อพวกมันอยากมาก่อกวนข้าเอง พวกมันก็ต้องตายกันไปให้หมด”
น้ำเสียงของเด็กหนุ่มบอกถึงความกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนลอบชื่นชม ‘ลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือร้าย’ ผู้นี้อยู่ในใจ และเมื่อสอบถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับเผ่ามนุษย์ทะเลทราย นางก็แน่ใจได้แล้วว่าหลินเป่ยเฉินมีความเข้าใจต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ทะเลทรายผู้เป็นศัตรูจริง ๆ ดังนั้น อาจารย์ใหญ่จึงไม่มีสิ่งใดให้ต้องเป็นกังวลอีกแล้ว
และหัวข้อสนทนาของพวกเขาก็มาถึงเรื่องราวของนักพรตหญิงชิน
“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนตามสายเลือดผู้เยียวยามากเท่ากับสตรีผู้นี้มาก่อน... หากจะมีผู้ใดสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้ทัดเทียมท่านบรรพบุรุษกงซานซิน คนผู้นั้นก็ต้องเป็นชินเหลียนเซินผู้เดียวเท่านั้น”
เมื่อพูดถึงนักพรตหญิงชิน น้ำเสียงของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็มีความแจ่มใสมากขึ้น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ ไม่อาจซ่อนเร้นความตื่นเต้นในหัวใจได้เลย
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนดีใจเป็นอย่างยิ่งที่การรับศิษย์ในครั้งนี้ของตนเอง ทำให้นางได้พบเจอกับยอดอัจฉริยะแห่งผู้ใช้สายเลือดผู้เยียวยาตัวจริง
นี่คือเรื่องที่อยู่นอกเหนือการคาดคิด
“ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าบางทีนางอาจจะเป็นท่านบรรพบุรุษกลับชาติมาเกิด”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนกล่าวต่อไป “น่าเสียดายที่เราพบกันช้าไป หากข้าพบนางเร็วกว่านี้สักสิบปี ข้าก็คงสามารถช่วยทำให้นางบรรลุขั้นจอมเทพอนันต์ได้ภายในระยะเวลาร้อยปี และหลังจากนั้น นางก็จะได้สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง”
บรรลุขั้นจอมเทพอนันต์ในระยะเวลาร้อยปี?
หลินเป่ยเฉินไม่ได้ตกใจเลยสักนิด
ดูอย่างตัวเขาสิ บัดนี้ บรรลุขั้นจอมเทพจักราได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ
แต่หากผู้อื่นรู้เรื่องนี้ คงต้องตกใจจนอุจจาระราดรดกางเกงเป็นแน่แท้
หลินเป่ยเฉินหันกลับมาจ้องมองกงซานอิ๋งเฉวี่ยนที่กำลังหอบหายใจและถามว่า “อาการบาดเจ็บของอาจารย์ใหญ่ไม่มีหนทางรักษาจริงหรือขอรับ? อาจารย์ใหญ่น่าจะมีสมุนไพรวิเศษเก็บอยู่กับตัวไม่น้อย จะถึงขั้นไม่มีสมุนไพรชนิดใดสามารถรักษาได้เชียวหรือ?”
“ขอบคุณคุณชายสำหรับความห่วงใย”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนส่ายหน้าและตอบว่า “ข้าได้รับบาดเจ็บจากการพยายามเลื่อนขั้นพลัง ไม่ว่ายาวิเศษชนิดใดก็รักษาไม่ได้”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนมีความรอบรู้มากกว่าผู้ใด
นางอ่านตำรามามากมาย ขอบเขตความรู้ขยายกว้างไกลมากกว่าผู้คนทั่วไปหลายเท่า
ดังนั้นนางจึงเข้าใจอาการบาดเจ็บของตนเองเป็นอย่างดี
นี่ไม่ใช่อาการบาดเจ็บธรรมดา
แต่เป็นการดีดสะท้อนของการพยายามเลื่อนขั้นพลัง
ยิ่งพยายามเลื่อนขั้นพลังในระดับสูงมากเท่าไหร่ การสะท้อนกลับก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น
ไม่มียาวิเศษชนิดใดจะสามารถรักษาได้อีกแล้ว
หลินเป่ยเฉินได้ยินดังนั้นก็คิดว่าตนเองน่าจะพอมีทางรักษาอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนได้บ้าง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงนำขวดบรรจุยาบำรุงกำลังออกมาจากแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์พร้อมกับกล่าวว่า “นี่เรียกว่าโอสถเสริมวิญญาณธาตุขอรับ ปกติข้าน้อยปรุงเอาไว้ดื่มเอง มันจะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน สามารถรับประทานได้ง่าย ไม่มีผู้ใดจะปรุงโอสถชนิดนี้ได้นอกจากข้าน้อยอีกแล้ว อาจารย์ใหญ่ลองดื่มดูเถอะขอรับ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนชำเลืองมองวัตถุบรรจุโอสถน้ำรูปร่างแปลกประหลาดที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ก่อนจะรับมาถือไว้เพราะไม่อยากจะปฏิเสธความห่วงใยจากหลินเป่ยเฉิน
“ชินเหลียนเซินกำลังเก็บตัวอยู่ในภูเขาลูกที่สองของแดนตำรา ท่านไปพบนางเถอะ”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มกว้างและกล่าวว่า “หลังจากนี้ นางคงจะต้องร่ำเรียนอย่างหนัก เกรงว่าภายในระยะเวลาครึ่งปี ชินเหลียนเซินคงไม่มีเวลามาพบเจอกับคุณชายอีก หากพวกท่านมีอะไรจะบอกกล่าวต่อกัน ก็จงใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า”
“ขอบคุณอาจารย์ใหญ่มากขอรับ”
หลินเป่ยเฉินเข้าใจความหมายในการไล่อย่างสุภาพของอีกฝ่าย จึงลุกขึ้นยืน ประสานมือคำนับ
จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินจากมา
เร่งฝีเท้าไปหานักพรตหญิงชิน
อีกหลายเดือนหลังจากนี้ กงซานอิ๋งเฉวี่ยนคงเคี่ยวกรำนักพรตหญิงชินในการฝึกฝนวิชาอย่างหนัก และคงไม่เปิดโอกาสให้หลินเป่ยเฉินได้มีเวลาอยู่ส่วนตัวกับนางอีก
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจ้องมองแผ่นหลังของหลินเป่ยเฉินที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
นับว่าหลินเป่ยเฉินโชคดีกว่าราชาหินดำหลายเท่า
ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าโชคชะตาชีวิตของคนเราไม่เหมือนกันต่างหาก
การยืนยันในความตายของราชาหินดำทำให้ความกังวลใจทั้งหมดของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนสลายหายสิ้น นางจึงสามารถกลับมานั่งลงบนเก้าอี้และใช้เวลาพักฟื้นตัวได้อย่างสบายใจอีกครั้ง
ทันใดนั้น นิ้วมือของนางก็ไปสัมผัสขวดบรรจุโอสถน้ำของหลินเป่ยเฉินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพียงสัมผัสแค่ตัวขวด กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างประหลาด
นางจำได้ดีว่าเด็กหนุ่มกล่าวว่าโอสถน้ำชนิดนี้มีรสชาติอร่อย สามารถรับประทานได้ง่าย
ในชีวิตของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนเคยรับประทานอาหารที่มีรสชาติอร่อยมานับไม่ถ้วน และอาการบาดเจ็บในครั้งนี้ นางก็ลองรับประทานโอสถมากมายหลายชนิดแล้ว และโอสถทุกชนิดก็ไม่ได้มีรสชาติที่อร่อยเลย ดังนั้นกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าโลกนี้จะมีโอสถที่รสชาติอร่อยและสามารถรักษาผู้คนได้จริง ๆ หรือ?