เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1929 ไม่ได้ตั้งใจแอบดู
ตอนที่ 1,929 ไม่ได้ตั้งใจแอบดู
แต่นางไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วนี่นา
หัวใจของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนกระตุกวูบ
นางเปิดฝาขวดออก
กลิ่นหอมหวานพลันลอยขึ้นมาเตะจมูก
ในขวดบรรจุด้วยของเหลวสีน้ำนม
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนลองจิบดูเล็กน้อยด้วยความลังเลใจ
ช่างเป็นรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานจริง ๆ
ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มเล็กน้อยและกระดกดื่มอีกอึดใหญ่
รสชาติเปรี้ยวหวานไหลผ่านลำคอ ลงสู่กระเพาะอาหาร ก่อนจะแผ่พลังอบอุ่นซ่านไปทั่วร่างกาย
ทันใดนั้น…
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็เบิกตาโต สีหน้าของนางดูตกตะลึง ขณะอ้าปากค้าง
บนริมฝีปากสีชมพูอ่อนของนางยังคงมีคราบโอสถวิเศษติดอยู่ อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงรีบแลบลิ้นเลียคราบทั้งหมดนั้นด้วยความเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
…
ณ ภูเขาลูกที่สองในแดนตำราสามโลก
หลินเป่ยเฉินปั่นจักรยานเสือภูเขาด้วยความสบายอกสบายใจและพบกับจุดที่นักพรตหญิงชินใช้นั่งอ่านหนังสือในที่สุด
เสื้อคลุมสีขาวของนางคือสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุดในสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าเขาเช่นนี้
นักพรตหญิงชินยังคงมีความงดงามเฉิดฉายที่พร้อมจะละลายหัวใจของบุรุษทุกคน
ในอดีต นักพรตหญิงชินมีภาพลักษณ์เป็นนักบวชผู้สูงส่งและยังคงรักษาไว้ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่บัดนี้ นางเปลี่ยนไปกลายเป็นบัณฑิตสาวที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการอ่านตำรา แม้ท่าทางจะสงบสุขุมดังเดิม แต่ก็มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
หลินเป่ยเฉินเห็นดังนั้นก็รีบเบรกจักรยาน หยุดจอดโดยทันที
เอี๊ยด!
และเฝ้ามองหญิงสาวผู้เป็นที่รักอ่านหนังสืออยู่นานสองนาน
“เจ้ายังมองไม่พออีกหรือ?”
สุดท้าย นักพรตหญิงชินก็ต้องวางตำราที่อ่านลงและหันหน้ามามองเขาอยู่ดี
หลินเป่ยเฉินเตะขาตั้งจักรยานลงและเหวี่ยงตัวลงมาพร้อมกับยิ้มกว้าง “มองอีกหมื่นปีก็ไม่พอหรอกขอรับ”
นักพรตหญิงชินจ้องมองตอบกลับมาด้วยแววตาว่างเปล่า
สีหน้าเย็นชาสมบูรณ์แบบของนักพรตหญิงชินเช่นนี้กลับกระตุ้นเร้าหลินเป่ยเฉินได้มากกว่าเดิมหลายเท่า
เขารีบโน้มตัวเข้าไปหานางโดยไม่ลังเล
“เดี๋ยวก่อนสิ…”
นักพรตหญิงชินหอบหายใจ ดวงตาของนางเบิกโต ขนตายาวงอนพลิ้วไหว
หลังจากนั้นอีกอึดใจใหญ่ นางก็ต้องผลักหลินเป่ยเฉินออกไปทั้ง ๆ ที่ยังหอบหายใจอยู่อย่างนั้น มือขาวผ่องยกขึ้นเช็ดปากแผ่วเบาและกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแดนตำราสามโลก ล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนทั้งสิ้น”
หลินเป่ยเฉินตอบรับกลับมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “ข้าไม่เชื่อว่านางจะไร้จิตสำนึกถึงขนาดนั้นหรอก”
นักพรตหญิงชินยิ้มเล็กน้อยก่อนส่ายศีรษะ
นางคุ้นเคยดีแล้ว
หลินเป่ยเฉินเป็นผู้ที่จะไม่ยอมแพ้สิ่งใดง่าย ๆ เสมอ
“ข้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน”
นักพรตหญิงชินปรับเปลี่ยนระดับลมหายใจและกล่าวต่อไปว่า “ข้าค้นพบเบาะแสถึงวิธีแก้คำสาปแล้ว และข้าก็พบวิธีชุบชีวิตไป๋ชินอวิ๋นด้วย แต่เรื่องราวทั้งหมดนั้นต้องอาศัยขั้นพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้และนั่นก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน”
หลินเป่ยเฉินจับมือของนางมากุมกระชับแน่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รักแท้ไม่มีวันหมดอายุ ต่อให้นานเพียงใดความรู้สึกก็จะยังเหมือนเดิม… ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ข้าก็จะสนับสนุนท่านและรอคอยท่านเสมอ”
นักพรตหญิงชินไม่ได้ตอบรับคำใด
นางเพียงโน้มศีรษะมาซบลงบนหัวไหล่ของเขา
กาลเวลาคล้ายกับจะหยุดนิ่ง
หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของตนเอง
และภาพการพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับนักพรตหญิงชิน ณ วิหารเทพกระบี่ในเมืองหยุนเมิ่งก็ฉายวนกลับมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไม่ทราบเลยว่าพวกเขานั่งกันอยู่ตรงนั้นนานเพียงใด
แต่ทั้งสองคนกำลังนึกทบทวนถึงสิ่งที่พวกตนเองได้เคยเผชิญมาด้วยกัน
พวกเขาเคยร่วมเป็นร่วมตายกันอย่างแท้จริง
และในเวลานี้ หลินเป่ยเฉินก็ยินดีแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่ตลอดไป เพื่อให้ไม่ต้องแยกจากกันอีกตลอดกาล และเพื่อที่เขาจะได้อยู่ข้างกายนักพรตหญิงชิน...
กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะรู้จักกันมานานถึงเพียงนี้
แต่ภาพฝันในวันวานทั้งหมดนั้นกลับต้องสลายลงไปด้วยเสียงอุทานที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นซึ่งดังขึ้นในหูของคนทั้งสองว่า
“เอ่อ… ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจแอบดูและไม่ได้มีเจตนาจะรบกวน เพียงแต่ข้าอยากจะถามว่า… คุณชายหลิน ท่านยังมีโอสถเสริมวิญญาณธาตุอยู่อีกหรือไม่?”
นั่นเป็นเสียงของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน
เครื่องดื่มบำรุงกำลังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนได้อย่างนั้นหรือ?
หลินเป่ยเฉินไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน
หากรู้เช่นนี้…
เขาคงรอให้ได้เข้าพบนักพรตหญิงชินเสร็จสิ้นเสียก่อนถึงจะมอบยาขวดนั้นให้แก่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน เพราะเขาคงจะไม่ถูกขัดจังหวะเช่นนี้
“กราบเรียนอาจารย์ใหญ่ นี่เป็นโอสถที่ปรุงได้ยากและจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก”
หลินเป่ยเฉินเรียบเรียงคำพูดตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนตอบกลับมาว่า “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิเศษชนิดใดหรือต้องการมากเงินทองแค่ไหน คุณชายหลินโปรดบอกมาได้เลย”
หลินเป่ยเฉินรีบสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อาจารย์ใหญ่พูดเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้าน้อยเป็นคนที่นับถือในมิตรภาพและน้ำใจของสหายอยู่เสมอ… หึ ๆ โอสถชนิดนี้ข้าจะมอบให้อาจารย์ใหญ่โดยไม่คิดสิ่งใดตอบแทน ขอแค่พวกเรามีมิตรภาพอันดีงามเช่นนี้ตลอดไปก็พอแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นาน
ลังใส่ยาบำรุงกำลังที่หลินเป่ยเฉินสั่งซื้อออนไลน์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน
แม้การซื้อยาบำรุงกำลังยกลังจะไม่ใช่ราคาถูก ๆ แต่หลินเป่ยเฉินก็ไม่ได้คิดสิ่งใดตอบแทน
เพราะนอกจากการมีชีวิตอยู่ของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะเป็นผลดีต่ออาณาจักรเล่ยฉื่อโดยรวมแล้ว นางยังมีส่วนสำคัญต่อการเลื่อนขั้นพลังของนักพรตหญิงชินหลังจากนี้อีกด้วย
ตราบใดที่สิ่งเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อนักพรตหญิงชิน หลินเป่ยเฉินก็ยินดีทำเสมอ
“ขอบคุณคุณชายหลินมากแล้ว”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนทำได้เพียงขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า
หลินเป่ยเฉินสอบถามว่า “มันสามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่อาจารย์ใหญ่ได้จริงหรือขอรับ?”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มด้วยความพอใจและตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้น “อาจจะทำให้ข้าฟื้นฟูพลังกลับไปแข็งแกร่งดังเดิมไม่ได้ แต่มันช่วยยืดอายุขัยให้ข้าได้ ดังนั้น ข้าจึงมีเวลาฝึกฝนลูกศิษย์มากกว่าเดิมแล้ว”
“หากเป็นเช่นนี้…”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น
น่าสนใจแฮะ
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนบอกว่านางบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ไม่มีโอสถชนิดใดสามารถรักษาได้
แต่ยาบำรุงกำลังของเขากลับสามารถรักษาได้
พวกยาที่วางขายออนไลน์นี่น่ากลัวจริง ๆ
เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีสรรพคุณยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ผู้คนจินตนาการ
หากเป็นเช่นนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการพยายามเลื่อนขั้นพลังคนอื่น ๆ ก็น่าจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองได้ด้วยยาบำรุงกำลังชนิดเดียวกับที่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนดื่มเข้าไปใช่หรือไม่?
ให้ตายสิ พบเส้นทางทำเงินอีกแล้วสินะเรา
หลินเป่ยเฉินเริ่มวางแผนอยู่ในใจ
“กราบเรียนอาจารย์ใหญ่ นี่เป็นเพียงโอสถที่ข้าปรุงขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจเท่านั้น ส่วนโอสถที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยมมากกว่านี้ ข้าน้อยยังเตรียมวัตถุดิบไม่เสร็จสิ้น”
หลินเป่ยเฉินเรียบเรียงคำพูดและกล่าวว่า “ดังนั้น อดทนดื่มโอสถเหล่านี้ไปก่อนนะขอรับ เมื่อข้าปรุงโอสถชนิดใหม่เสร็จเมื่อไหร่ มันอาจจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของอาจารย์ใหญ่จนหายขาดเลยก็เป็นได้”
ดวงตาของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนเป็นประกายแวววาวด้วยความคาดหวังขึ้นมาทันที “ยังมีโอสถที่ยอดเยี่ยมมากกว่านี้อีกหรือ? ช่างประเสริฐนัก!”
ตอนที่ 1,929 ไม่ได้ตั้งใจแอบดู
แต่นางไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วนี่นา
หัวใจของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนกระตุกวูบ
นางเปิดฝาขวดออก
กลิ่นหอมหวานพลันลอยขึ้นมาเตะจมูก
ในขวดบรรจุด้วยของเหลวสีน้ำนม
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนลองจิบดูเล็กน้อยด้วยความลังเลใจ
ช่างเป็นรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานจริง ๆ
ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มเล็กน้อยและกระดกดื่มอีกอึดใหญ่
รสชาติเปรี้ยวหวานไหลผ่านลำคอ ลงสู่กระเพาะอาหาร ก่อนจะแผ่พลังอบอุ่นซ่านไปทั่วร่างกาย
ทันใดนั้น…
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนก็เบิกตาโต สีหน้าของนางดูตกตะลึง ขณะอ้าปากค้าง
บนริมฝีปากสีชมพูอ่อนของนางยังคงมีคราบโอสถวิเศษติดอยู่ อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนจึงรีบแลบลิ้นเลียคราบทั้งหมดนั้นด้วยความเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
…
ณ ภูเขาลูกที่สองในแดนตำราสามโลก
หลินเป่ยเฉินปั่นจักรยานเสือภูเขาด้วยความสบายอกสบายใจและพบกับจุดที่นักพรตหญิงชินใช้นั่งอ่านหนังสือในที่สุด
เสื้อคลุมสีขาวของนางคือสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุดในสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าเขาเช่นนี้
นักพรตหญิงชินยังคงมีความงดงามเฉิดฉายที่พร้อมจะละลายหัวใจของบุรุษทุกคน
ในอดีต นักพรตหญิงชินมีภาพลักษณ์เป็นนักบวชผู้สูงส่งและยังคงรักษาไว้ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่บัดนี้ นางเปลี่ยนไปกลายเป็นบัณฑิตสาวที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการอ่านตำรา แม้ท่าทางจะสงบสุขุมดังเดิม แต่ก็มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
หลินเป่ยเฉินเห็นดังนั้นก็รีบเบรกจักรยาน หยุดจอดโดยทันที
เอี๊ยด!
และเฝ้ามองหญิงสาวผู้เป็นที่รักอ่านหนังสืออยู่นานสองนาน
“เจ้ายังมองไม่พออีกหรือ?”
สุดท้าย นักพรตหญิงชินก็ต้องวางตำราที่อ่านลงและหันหน้ามามองเขาอยู่ดี
หลินเป่ยเฉินเตะขาตั้งจักรยานลงและเหวี่ยงตัวลงมาพร้อมกับยิ้มกว้าง “มองอีกหมื่นปีก็ไม่พอหรอกขอรับ”
นักพรตหญิงชินจ้องมองตอบกลับมาด้วยแววตาว่างเปล่า
สีหน้าเย็นชาสมบูรณ์แบบของนักพรตหญิงชินเช่นนี้กลับกระตุ้นเร้าหลินเป่ยเฉินได้มากกว่าเดิมหลายเท่า
เขารีบโน้มตัวเข้าไปหานางโดยไม่ลังเล
“เดี๋ยวก่อนสิ…”
นักพรตหญิงชินหอบหายใจ ดวงตาของนางเบิกโต ขนตายาวงอนพลิ้วไหว
หลังจากนั้นอีกอึดใจใหญ่ นางก็ต้องผลักหลินเป่ยเฉินออกไปทั้ง ๆ ที่ยังหอบหายใจอยู่อย่างนั้น มือขาวผ่องยกขึ้นเช็ดปากแผ่วเบาและกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแดนตำราสามโลก ล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนทั้งสิ้น”
หลินเป่ยเฉินตอบรับกลับมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “ข้าไม่เชื่อว่านางจะไร้จิตสำนึกถึงขนาดนั้นหรอก”
นักพรตหญิงชินยิ้มเล็กน้อยก่อนส่ายศีรษะ
นางคุ้นเคยดีแล้ว
หลินเป่ยเฉินเป็นผู้ที่จะไม่ยอมแพ้สิ่งใดง่าย ๆ เสมอ
“ข้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน”
นักพรตหญิงชินปรับเปลี่ยนระดับลมหายใจและกล่าวต่อไปว่า “ข้าค้นพบเบาะแสถึงวิธีแก้คำสาปแล้ว และข้าก็พบวิธีชุบชีวิตไป๋ชินอวิ๋นด้วย แต่เรื่องราวทั้งหมดนั้นต้องอาศัยขั้นพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้และนั่นก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน”
หลินเป่ยเฉินจับมือของนางมากุมกระชับแน่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รักแท้ไม่มีวันหมดอายุ ต่อให้นานเพียงใดความรู้สึกก็จะยังเหมือนเดิม… ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ข้าก็จะสนับสนุนท่านและรอคอยท่านเสมอ”
นักพรตหญิงชินไม่ได้ตอบรับคำใด
นางเพียงโน้มศีรษะมาซบลงบนหัวไหล่ของเขา
กาลเวลาคล้ายกับจะหยุดนิ่ง
หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของตนเอง
และภาพการพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับนักพรตหญิงชิน ณ วิหารเทพกระบี่ในเมืองหยุนเมิ่งก็ฉายวนกลับมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไม่ทราบเลยว่าพวกเขานั่งกันอยู่ตรงนั้นนานเพียงใด
แต่ทั้งสองคนกำลังนึกทบทวนถึงสิ่งที่พวกตนเองได้เคยเผชิญมาด้วยกัน
พวกเขาเคยร่วมเป็นร่วมตายกันอย่างแท้จริง
และในเวลานี้ หลินเป่ยเฉินก็ยินดีแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่ตลอดไป เพื่อให้ไม่ต้องแยกจากกันอีกตลอดกาล และเพื่อที่เขาจะได้อยู่ข้างกายนักพรตหญิงชิน...
กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะรู้จักกันมานานถึงเพียงนี้
แต่ภาพฝันในวันวานทั้งหมดนั้นกลับต้องสลายลงไปด้วยเสียงอุทานที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นซึ่งดังขึ้นในหูของคนทั้งสองว่า
“เอ่อ… ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจแอบดูและไม่ได้มีเจตนาจะรบกวน เพียงแต่ข้าอยากจะถามว่า… คุณชายหลิน ท่านยังมีโอสถเสริมวิญญาณธาตุอยู่อีกหรือไม่?”
นั่นเป็นเสียงของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน
เครื่องดื่มบำรุงกำลังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนได้อย่างนั้นหรือ?
หลินเป่ยเฉินไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน
หากรู้เช่นนี้…
เขาคงรอให้ได้เข้าพบนักพรตหญิงชินเสร็จสิ้นเสียก่อนถึงจะมอบยาขวดนั้นให้แก่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน เพราะเขาคงจะไม่ถูกขัดจังหวะเช่นนี้
“กราบเรียนอาจารย์ใหญ่ นี่เป็นโอสถที่ปรุงได้ยากและจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก”
หลินเป่ยเฉินเรียบเรียงคำพูดตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนตอบกลับมาว่า “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิเศษชนิดใดหรือต้องการมากเงินทองแค่ไหน คุณชายหลินโปรดบอกมาได้เลย”
หลินเป่ยเฉินรีบสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อาจารย์ใหญ่พูดเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้าน้อยเป็นคนที่นับถือในมิตรภาพและน้ำใจของสหายอยู่เสมอ… หึ ๆ โอสถชนิดนี้ข้าจะมอบให้อาจารย์ใหญ่โดยไม่คิดสิ่งใดตอบแทน ขอแค่พวกเรามีมิตรภาพอันดีงามเช่นนี้ตลอดไปก็พอแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นาน
ลังใส่ยาบำรุงกำลังที่หลินเป่ยเฉินสั่งซื้อออนไลน์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยน
แม้การซื้อยาบำรุงกำลังยกลังจะไม่ใช่ราคาถูก ๆ แต่หลินเป่ยเฉินก็ไม่ได้คิดสิ่งใดตอบแทน
เพราะนอกจากการมีชีวิตอยู่ของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนจะเป็นผลดีต่ออาณาจักรเล่ยฉื่อโดยรวมแล้ว นางยังมีส่วนสำคัญต่อการเลื่อนขั้นพลังของนักพรตหญิงชินหลังจากนี้อีกด้วย
ตราบใดที่สิ่งเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อนักพรตหญิงชิน หลินเป่ยเฉินก็ยินดีทำเสมอ
“ขอบคุณคุณชายหลินมากแล้ว”
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนทำได้เพียงขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า
หลินเป่ยเฉินสอบถามว่า “มันสามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่อาจารย์ใหญ่ได้จริงหรือขอรับ?”
อาจารย์ใหญ่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนยิ้มด้วยความพอใจและตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้น “อาจจะทำให้ข้าฟื้นฟูพลังกลับไปแข็งแกร่งดังเดิมไม่ได้ แต่มันช่วยยืดอายุขัยให้ข้าได้ ดังนั้น ข้าจึงมีเวลาฝึกฝนลูกศิษย์มากกว่าเดิมแล้ว”
“หากเป็นเช่นนี้…”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น
น่าสนใจแฮะ
กงซานอิ๋งเฉวี่ยนบอกว่านางบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ไม่มีโอสถชนิดใดสามารถรักษาได้
แต่ยาบำรุงกำลังของเขากลับสามารถรักษาได้
พวกยาที่วางขายออนไลน์นี่น่ากลัวจริง ๆ
เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีสรรพคุณยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ผู้คนจินตนาการ
หากเป็นเช่นนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการพยายามเลื่อนขั้นพลังคนอื่น ๆ ก็น่าจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองได้ด้วยยาบำรุงกำลังชนิดเดียวกับที่กงซานอิ๋งเฉวี่ยนดื่มเข้าไปใช่หรือไม่?
ให้ตายสิ พบเส้นทางทำเงินอีกแล้วสินะเรา
หลินเป่ยเฉินเริ่มวางแผนอยู่ในใจ
“กราบเรียนอาจารย์ใหญ่ นี่เป็นเพียงโอสถที่ข้าปรุงขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจเท่านั้น ส่วนโอสถที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยมมากกว่านี้ ข้าน้อยยังเตรียมวัตถุดิบไม่เสร็จสิ้น”
หลินเป่ยเฉินเรียบเรียงคำพูดและกล่าวว่า “ดังนั้น อดทนดื่มโอสถเหล่านี้ไปก่อนนะขอรับ เมื่อข้าปรุงโอสถชนิดใหม่เสร็จเมื่อไหร่ มันอาจจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของอาจารย์ใหญ่จนหายขาดเลยก็เป็นได้”
ดวงตาของกงซานอิ๋งเฉวี่ยนเป็นประกายแวววาวด้วยความคาดหวังขึ้นมาทันที “ยังมีโอสถที่ยอดเยี่ยมมากกว่านี้อีกหรือ? ช่างประเสริฐนัก!”